เมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พร้อมเริ่มต้นคุมทีมฝึกซ้อมตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา สิ่งต่างๆเริ่มให้ความแตกต่างออกไปจากเดิมมากพอตัวกับสโมสรที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จแห่งนี้
กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ได้กับพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นกุนซือเบอร์ต้นๆของวงการ ทั้งความสำเร็จในสโมสรที่เขาทำหน้าที่, ความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ รวมถึงความเนี๊ยบในแผนการเล่นต่างๆที่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ตนเองเห็นควร แสดงให้เห็นว่าเขาแตกต่างจาก นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ผู้ที่เขามาแทนที่อย่างชัดเจน
แน่นอนว่าการมาของ อดีตนายใหญ่ ยูเวนตุส, เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน ถือเป็นการเสี่ยงครั้งใหญ่ของ แดเนี่ยล เลวี่ โดยเซ็นสัญญาคุมทีมถึงปี 2023 พร้อมออปชั่นขยายเพิ่มอีกปี
แต่ค่าจ้าง 13 ล้านปอนด์ต่อปีก็ไม่ใช่ถูกๆ ซึ่งเขาอาจพาทีมประสบความสำเร็จได้ หรือไม่ก็ทำให้ทีมถอยหลังอย่างที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยทำไว้เมื่อปีก่อน
เป้าหมายหลักๆในฤดูกาลนี้ของ กุนซือคนใหม่ คือการพา ‘ไก่เดือยทอง’ กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งให้ได้อีกครั้ง หลัง นูโน่ ไม่สามารถทำให้ทีมกลับไปอยู่จุดเดิมได้ ด้วยการรั้งอันดับ 9 ในพรีเมียร์ลีก รวมไปถึงยังเหลือเส้นทางในบอลถ้วยอย่าง ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก และ คาราบาว คัพ
UFA ARENA จึงขอพา ‘ยิด อาร์มี่’ และแฟนบอลทั้งหลายไปวิเคราะห์ถึง 5 สิ่งที่ ค้อนเต้ ควรแก้ไขเป็นอันดับแรกกับการคุม สเปอร์ส หลังจากนี้เป็นต้นไป
เค้นฟอร์มเคนให้ยิงกระจายอีกครั้ง
มีเพียง นอริช ทีมน้องใหม่ที่ทำท่าว่าตกชั้นอีกรอบเท่านั้นที่ยิงประตูได้น้อยกว่า สเปอร์ส ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ (นอริช 3, สเปอร์ส 9)
การยิงประตูอันน้อยนิดดูไม่มีปัญหา เมื่อพวกเขาคว้าชัย 3 นัดติดในลีกช่วงเริ่มซีซั่นใหม่ในเดือนสิงหาคม จนทำให้ นูโน่ คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมในเดือนนั้นไปครอง
แต่เมื่อทีมอย่าง เชลซี, อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแม้แต่ คริสตัล พาเลซ เริ่มฉีกเกมรับของพวกเขาเป็นชิ้นๆ เกมรุกของ สเปอร์ส กลับไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้เลย
หากดูกันที่รายชื่อนักเตะทั้ง แฮร์รี่ เคน, ซอน เฮือง มิน, ลูคัส มูร่า หรือ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ ก็น่าทำให้ สเปอร์ส มีเกมรุกที่สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับทุกทีมที่พวกเขาเผชิญหน้าด้วย
แต่เรื่องกลับไม่เป็นแบบนั้นในฤดูกาลนี้ เมื่อ เคน ยิงเพียงลูกเดียวในลีก ส่วน มูร่า กับ เบิร์กไวน์ ยิงไม่ได้เลย มีเพียง ซอนนี่ ที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อนหลังกดไป 4 ประตู
ถึงทำผลงานได้ดีใน คาราบาว คัพ หรือ คอนเฟอเรนซ์ ลีก ก็ไม่สามารถปิดบังความจริงที่ เคน กำลังฟอร์มตกลงไปได้ และนี่เป็นสิ่งที่แรกที่ คอนเต้ ต้องแก้ไข
กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ชื่นชม หอกทีมชาติอังกฤษ อย่างเปิดเผยทุกครั้งที่มีโอกาสผ่านหน้าสื่อ ทั้งในช่วงยูโร 2020 หรือแม้กระทั่งสมัยที่คุม เชลซี ก็ยอมรับว่าอยากได้ เคนมาร่วมทีมด้วย
ณ ตอนนี้ เขาได้ร่วมงานกับ หอกเบอร์หนึ่งของ ไก่เดือยทอง สมใจแล้ว และคงมีแต่เขาเท่านั้นในตอนนี้ที่สามารถช่วยให้ เคน กลับมาทำผลงานสุดปังได้อีกครั้ง เช่นที่เคยเปลี่ยน โรมลู ลูกากู ให้กลายเป็นดาวยิงเบอร์ต้นๆของยุโรป สมัยอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน มาแล้ว
หาแนวรับที่ดูมั่นคง
หลังสิ้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา เกมรับของ สเปอร์ส ก็ดูมีปัญหามาตลอด และเสียประตูทุกนัดในช่วง 7 เกมหลังสุดในลีก
อีกทั้งมีไม่น้อยที่พวกเขาถูกคู่แข่งถล่มยับไม่เหลือชิ้นดี ทั้ง พาเลซ, เชลซี, อาร์เซน่อล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสัปดาห์ก่อน ที่โดนไปทีมละ 3 ประตูด้วยกัน
นี่เป็นสิ่งที่อธิบายชัดเจนว่าทำไม ‘ไก่เดือยทอง’ ถึงมีผลต่างประตู -7 ตั้งแต่ 10 เกมแรกในลีก และกองหลังอย่าง เอริค ดายเออร์, ดาวินซอน ซานเชซ และ คริสเตียน โรเมโร่ ไม่ได้ช่วยให้เกมรับของทีมดูเหนียวแน่นขึ้นเลยเวลาลงเล่นร่วมกัน
อย่างที่หลายคนทราบกันดีกว่า คอนเต้ มีแผนการเล่นกองหลัง 3 คนเป็นหลัก ทั้งระบบ 3-4-3 หรือ 3-5-2 ดั้งนั้นทำไมเขาต้องเสียเวลาให้นักเตะคุ้นเคยกับการเล่นแบบนี้ล่ะ?
การเปลี่ยนแปลงแทคติกในช่วงกลางฤดูกาลมักเป็นเรื่องยาก แต่กุนซือวัย 52 ปีจำเป็นต้องใช้ทุกเซสชั่นการฝึกซ้อมเพื่อให้ระบบใหม่นี้ซึมซับเข้าไปกับผู้เล่นของเขาทุกคน
แม้ว่าสิ่งนี้ไม่ได้การันตีว่า สเปอร์ส จะไม่กลับไปคว้าชัยอย่างสวยหรูในทันที อย่างน้อยพวกเขาก็พยายามหาทางป้องกันเกมรับที่รั่วไหลไม่ให้เสียประตูง่ายๆ เหมือนที่เกิดขึ้นใน 7 นัดที่ผ่านมา
และการที่ นายใหญ่มาดเนี้ยบ รู้จัก โรเมโร่ เป็นอย่างดีในสมัยที่เขาคุมทีม ‘งูใหญ่’ ในฤดูกาลก่อน ซึ่ง กองหลังทีมชาติอาร์เจนติน่า ทำผลงานได้ดีเยี่ยมกับ อตาลันต้า น่าจะทำเขากลายเป็นเสาหลักในแผงหลังสามที่ทีมจะนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้
คัดวิงแบ็คชั้นดีที่ขาดไม่ได้
คอนเต้ มักสรรหาผู้เล่นวิงแบ็คตัวจิ๊ดไว้ใช้งานตลอด ทั้งกับ เชลซี ในฤดูกาล 2016-17 ซึ่งเป็นปีที่เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับการคุมทีมในอังกฤษหนแรก รวมถึง อินเตอร์ มิลาน ชุดแชมป์เซเรียอาฤดูกาล 2020-21
แม้บางคนอาจไม่ได้เล่นตำแหน่งนี้โดยธรรมชาติ แต่เขาก็สามารถทำให้ วิคเตอร์ โมเซส และ มาร์กอส อลอนโซ่ ปรับตัวได้เยี่ยมในบทบาทใหม่ ซึ่งเป็นการเล่นที่เน้นเกมรุกมากกว่าเกมรับ
กับ สเปอร์ส ชุดปัจจุบันนี้ก็มีผู้เล่นที่มีศักยภาพกับตำแหน่งวิงแบ็คอยู่เช่นกัน ทั้ง เซร์คิโอ้ เรกีล่อน ที่จะเป็นตัวเลือกในฝั่งซ้าย และมีทีเด็ดในการครอสบอลที่แม่นยำ
ไรอัน เซสเซญง ผู้ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นในงานฤดูกาลนี้ ก็มีโอกาสแจ้งเกิดกับบทบาทนี้ได้เช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ฟิตสมบูรณ์ เช่นที่เคยฉายแววให้เห็นสมัยเล่นให้ ฟูแล่ม
ด้านขวา เอแมร์ซอน รอยัล และ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ก็พร้อมแย่งชิงตำแหน่งตัวจริง หรืออาจสลับการเล่นขึ้นอยู่กับว่าใครจะได้เล่นในรายการไหนบ้าง
จินตนาการว่า กุนซือ ‘ไก่เดือยทอ’ง คนใหม่ คงมองดูนักเตะในสนามฝึกซ้อมอย่างจริงจังเพื่อหาว่าใครคือคนที่ใช่ที่สุดกับบทบาทเหล่านี้ แม้ว่าการเปลี่ยนแท็คติกจริงจะยังไม่มาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก็ตาม
ขันน็อตแดนกลางให้แน่นขึ้น
คู่กองกลางของ สเปอร์ส อย่าง ปิแอร์ เอมิล-ฮอยเบิร์ก และ โอลิเวอร์ สคิปป์ กลายเป็นรองและเสียการคุมเกมในแดนกลางให้กับ เฟร็ด และ สก็อต แม็คโทมิเนย์ 2 มิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมวันเสาร์สัปดาห์ก่อน ขณะที่ ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ก็ไม่ได้สร้างอิมแพ็คอะไรเมื่อถูกส่งลงสนาม
บ่อยครั้งในฤดูกาลนี้ที่ สเปอร์ส พ่ายแพ้ในแดนกลางให้กับคู่แข่ง และ คอนเต้ จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขจุดนี้ไม่แพ้เกมรับหรือเกมรุก ซึ่งจะเป็นต้องใช้ลูกขยันวิ้งของนักเตะ
แต่ว่า กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ไม่มีกองกลางแบบ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไว้ใช้งาน เหมือนสมัยคุม เชลซี ซึ่งนั่นอาจทำให้แผน 3-5-2 ถูกนำมาใช้งานมากกว่าแผน 3-4-3 เนื่องจากมีผู้เล่นแดนกลางเยอะกว่านั่นเอง
ฮอยเบิร์ก อาจถูกวางเป็นตัวทำเกมแนวลึก คอยยืนอยู่หน้าแนวรับ 3 คน และอาจมีนักเตะคนอื่นร่วมด้วยในแดนกลาง เช่น โจวานี่ โล เซลโซ่ หรือ เดเล่ อัลลี ที่คอยพาบอลขึ้นไปทำเกมบุก
อีกทั้งยังน่าสนใจไม่น้อยว่า กุนซือวัย 5 2ปี จะทำให้ อัลลี กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้งได้หรือไม่ หลัง นูโน่ ล้มเหลวในด้านนี้ รวมไปถึง มูรินโญ่ ที่เค้นฟอร์มได้บ้าง แต่สุดท้ายก็ฟอร์มตกเหมือนเดิม
ไม่แน่ว่าถ้า กองกลางวัย 25 ปี ได้เล่นในตำแหน่งบทบาทเบอร์ 10 ที่เขาคุ้นเคย และคอนสนับสนุนทั้ง เคน และ ซอน ในแดนหน้า อาจทำให้ ‘ยิด อาร์มี่’ ได้เห็น อัลลี กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งก็เป็นได้
ใส่ใจรายละเอียดการเล่นมากขึ้น
หนึ่งในการวิพากษ์วิจารณ์ที่ นูโน่ โดนพูดถึงบ่อยที่สุด คือแต่ละนัดที่เขาคุมทีม ผู้เล่นของ สเปอร์ส ดูไม่พร้อมสำหรับการแข่งขันเท่าไหร่นัก
อีกทั้งการที่ นูโน่ อ้างว่ามี “การทำงานหนัก มีระเบียบวินัย และแฮร์รี่หรือ ซอน จะยิงประตูได้เอง” ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเขาดูละเลยรายละเอียดต่างๆในเกม และยิ่งทำให้เขาไม่เหมาะกับบทบาทนายใหญ่ของ ‘ไก่เดือยทอง’ เข้าไปอีก
ตัดภาพมาที่ คอนเต้ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยบ และเด็ดขาดในการจัดการทีม และนั่นทำให้เขาไม่มีทางละเลยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในเกมอย่างแน่นอน
คุณไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลแรกของคุณหรือแชมป์เซเรียอา หลายครั้ง หรือเป็นผู้มีชื่อเสียงในด้านการการันตีพาทีมคว้าชัยได้แน่นอน หากไม่ใส่ใจรายละเอียดต่างๆให้มากพอทั้งในและนอกสนาม
การกลับมาสู่ฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง อดีตกุนซือ เชลซี จะนำสิ่งนี้เข้ามาเพิ่มเติมให้กับ สเปอร์ส ทั้งการเตรียมตัวก่อนแข่ง และเพิ่มเติมพฤติกรรมหรือนิสัยที่ควรมีในการฝึกซ้อมในแต่ละสัปดาห์ ก็จะช่วยให้ผู้เล่นรับรู้ถึงความแตกต่างจากเดิม และพัฒนาการเล่นร่วมกันได้มากขึ้นด้วย
นายใหญ่แดนมักกะโรนีอาจขึ้นชื่ออารมณ์ร้อน มีบุคลิกแข็งกร้าว ยอมหักไม่ยอมงอ และอยู่กับสโมสรไหนได้ไม่นานนัก แต่เมื่อไหร่ที่เขาช่วยให้ สเปอร์ส มั่นคงขึ้น เช่นที่เคยทำมาตลอดกับสโมสรอื่นๆ สิ่งดีๆและความสำเร็จก็จะตามมาในอนาคตอันใกล้แน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
