หลังปล่อยให้หลายๆ ทัวร์นาเมนต์เปิดฉากฟาดแข้งกันไปก่อน วันนี้เป็นคิวของ “แอฟริกัน ออฟ เนชั่นส์ คัพ 2019” ที่จะได้ฤกษ์ชิงชัยกับเขาบ้าง โดยคู่เปิดสนามในกลุ่มเอ อียิปต์ เจ้าภาพจะดวลเดือดกับ ซิมบับเว
อย่างไรก็ตามก่อนจะถึงเวลานัดหมาย วันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจ และทำให้คุณผู้อ่าน “รู้ว่า” ฟุตบอลของกาฬทวีปก็น่าติดตามและสนุกได้ไม่แพ้ทัวร์นาเมนต์ใดๆ ของโลก
1.เพิ่มจำนวนทีมครั้งแรก
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ที่มี อียิปต์ เป็นเจ้าภาพ ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบการแข่งขัน เพราะมีการเพิ่มจาก 16 มาเป็น 24 ทีมเป็นครั้งแรก
ดังนั้นจากที่เคยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ก็ต้องขยายเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีมเหมือนกับฟุตบอลโลกหญิง โดยนอกจากอันดับ 1 และ 2 ที่จะเข้ารอบน็อกเอาท์ ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 อันดับแรกก็จะตีตั๋วสู่รอบต่อไปได้เช่นกัน
Group A: ดีอาร์ คองโก, อียิปต์, อูกานด้า, ซิมบับเว
Group B: บูรุนดี, กีนี, มาดากาสการ์, ไนจีเรีย
Group C: แอลจีเรีย, เคนย่า, เซเนกัล, แทนซาเนีย
Group D: ไอวอรี่ โคสต์, โมร็อกโก, นามิเบีย, แอฟริกาใต้
Group E: อังโกล่า, มาลี, เมาริตาเนีย, ตูนีเซีย
Group F: เบนิน, แคเมอรูน, กาน่า, กีนี บิสเซา
และอีกประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือการปรับเวลาแข่งขัน เพราะแต่ก่อน แอฟริกัน ออฟ เนชั่นส์ คัพ จะเลือกฟาดแข้งระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเดือดร้อนหลายๆ สโมสรต้องชวดใช้งานนักเตะคนสำคัญ
ทว่าปีนี้เป็นครั้งแรกที่ย้ายมาหวดหลังจบฤดูกาล และน่าจะยืนพื้นยาวๆ สำหรับเดือน มิถุนายน- กรกฎาคม เหมือนทัวร์นาเมนต์ที่ชาวบ้านทั่วไปเขาทำกัน
2.โกอินเตอร์มีใช้ VAR
กลายเป็นประเด็นถกเถียงเยอะมากสำหรับเทคโนโลยีช่วยตัดสินอย่าง VAR ที่นาทีนี้ต้องยอมรับว่ามาแรง หลายๆ ลีก หลายๆ ทัวร์นาเมนต์ ได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างใน โคปา อเมริกา 2019 VAR แทบจะเป็นหนึ่งกุญแจสำหรับสำหรับชัยชนะของหลายๆ ทีม อย่าง บราซิล ในเกมเสมอ เวเนซุเอล่า ยิงเข้าถึง 3 หน แต่ก็โดน VAR ปฎิเสธเรียบ
หรืออย่าง อาร์เจนติน่า ก็โชคดีมาได้ลูกจุดโทษจากการดู VAR ย้อนหลัง ทำให้ตีเสมอ ปารากวัย ได้ แต่หากใครดูถ่ายทอดสด เรียกว่า “งง” ทั้งสนาม ขนาดนักเตะทั้ง 2 ทีมไม่มีใครเรียกร้องเลยด้วยซ้ำ เตรียมเล่นเตะมุมในจังหวะถัดไปแล้วแท้ๆ
ที่เล่ามาทั้งหมดจะบอกแค่ว่า แอฟริกัน ออฟ เนชั่นส์ คัพ 2019 ก็เป็นอีกรายการที่จะเอา VAR มาใช้ งานนี้เตรียม “ป่วน” กันได้เลย เพราะผลแพ้ชนะมันอาจเปลี่ยนได้ภายในวินาทีเดียว
3.ต้อนรับทีมน้องใหม่
อย่างที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนทีมจาก 16 มาเป็น 24 ทีม มันกลายเป็นการเพิ่มโอกาสให้ชาติเล็กๆ ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก เปอร์เซนต์จากเดิมที่น้อยก็มากขึ้นสำหรับการตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายของ แอฟริกัน ออฟ เนชั่นส์ คัพ
และจากรอบคัดเลือกที่ผ่านมา มาดากัสการ์, เมาริตาเนีย และ บูรุนดี้ คือ 3 ทีมที่คว้าโอกาสทองมาอยู่ในมือ พวกเขาคือ 3 ชาติหน้าใหม่สำหรับการชิงชัยรอบสุดท้ายของฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยอีกว่ามีถึง 6 จาก 24 ทีมที่ผ่านเข้ามา เป็นทีมแรงค์กิ้งต่ำกว่า 100 อีกด้วย
4.ทีมเต็ง
เป็นเหมือนกับทัวร์นาเมนต์ทั่วไป ที่ชาติมหาอำนาจของทวีปยังไงก็หนีคำว่าตัวเต็งไม่ได้ ดังนั้นในปี 2019 หนนี้ จริงๆ ก็มีหลายทีมที่คุ้นเคยกับฟุตบอลโลก จะกลายเป็นทีม “เต็งแชมป์” ของรายการนี้
ไล่เรียงกันตั้งแต่ อียิปต์ ที่ได้เปรียบในฐานะเจ้าภาพ แถมยังเป็นเจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุดถึง 7 สมัย การที่พวกเขามี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นตัวชูโรง ยังไงเป้าหมายก็ต้องแชมป์สถานเดียว
ต่อมาคือ เซเนกัล ที่อาจจะไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้ได้เลย แต่ขุมกำลังต้องบอกว่าแน่นปึก นักเตะอย่าง คาลิดู คูลิบาลี่, อิดริสซ่า เกย์, ชีคู คูยาเต้, เกต้า บัลเด้ และ ซาดิโอ มาเน่ คงไม่มีใคร ที่ไม่รู้จักพวกเขาอย่างแน่นอน
ไนจีเรีย แม้ขุมกำลังช่วงหลังจะไม่พีกเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน ตัวดังๆ ยังคงเป็นหน้าเดิมๆ อย่าง จอห์น โอบี มิเกล, อาห์เม็ด มูซ่า และ อเล็กซ์ อิโวบี้ แต่ด้วยดีกรีแชมป์ 3 สมัยยังไงก็ประมาทไม่ได้
กานา ก็อารมณ์คล้ายๆ กับ “อินทรีมรกต” เพราะช่วงหลังนักเตะไม่ค่อยดังเท่าไร แนวรุกยังหวังพึ่ง พี่น้องอายิว กับ กียาน อซาโมอาห์ อยู่เลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะล้างอาถรรพ์ได้หรือไม่ หลังเข้าชิง 2 หนหลังสุดในปี 2010 และ 2015 ต้องอกหักมาตลอด
ทีมสุดท้ายไม่พูดถึงไม่ได้นั้นก็คือ ไอวอรี่ โคสต์ นับตั้งแต่คว้าแชมป์เมื่อปี 2015 พวกเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จในรายการนี้อีกเลย แต่ทีมชุดนี้จุดเด่นอยู่ที่เกมริมเส้น วิลเฟร็ด ซาฮา กับ นิโคลัส เปเป้ กำลังจี๊ดทั้งคู่ ภารกิจลุ้นแชมป์สมัย 3 ก็พอลุ้นได้เหมือนกัน
5.สตาร์น่าจับตามอง
หากไม่นับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ 2 กำลังสำคัญของทีม ลิเวอร์พูล ที่นาทีนี้กลายเป็นแข้งท็อปสตาร์ของโลกไปแล้ว จากผลงานส่วนตัวและการพาทีม “หงส์แดง” เถลิงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แบบสดๆ ร้อนๆ
ที่เหลือมีใครบ้างที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่คงต้องมองกันที่ตำแหน่งตัวรุก และเหมือนอย่างที่บอกไปว่า ไอวอรี่ โคสต์ มีดีอย่างมากกำลังตำแหน่งปีก วิลเฟร็ด ซาฮา พ่อเลี้ยงจาก คริสตัล พาเลซ ลีลา ทักษะ คงไม่ต้องอธิบายมากเพราะแฟนบอลพรีเมียร์ลีก คงเห็นกันบ่อยจนคุ้นชินตา
อีกคนอย่าง นิโคลัส เปเป้ ก็น่าสนใจอย่างมาก เพราะนี่คือนักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาลที่ผ่านมา หลังพา ลีลล์ คว้าอันดับ 2 ได้แบบเกินความคาดหมาย โดยคาดกันว่าหากเจ้าตัวย้ายทีมในซัมเมอร์นี้ อาจจะมีค่าตัวสูงถึง 70 ล้านยูโรเลยทีเดียว
ขณะที่อีกคนที่อยากพูดถึงก็คือ ฮาคิม ซิเย็ค ตัวรุกเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโมร็อคโก ที่ประกาศศักดาอย่างมากในฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยการพา อาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัม เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะเนื้อหอมที่สุดในซัมเมอร์นี้
