ต้องรอด : 5 ปัญหาที่สมิธต้องแก้เพื่อพานอริชหนีตกชั้น

สมิธ

หลังถูก แอสตัน วิลล่า ปลดพ้นตำแหน่ง จนว่างงานได้เพียง 8 วัน ดีน สมิธ ก็ได้งานใหม่เรียบร้อยกับการเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ นอริช ซิตี้ ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

แม้เซ็นสัญญาด้วยกันถึง 2 ปีครึ่ง แต่เป้าหมายที่กุนซือชาวอังกฤษต้องทำให้ได้ในถิ่น แคร์โรว์ โร้ด ก็คือพาทีมรอดตกชั้นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ให้ได้ หลังจมบ๊วยของตาราง เก็บได้เพียง 5 แต้มจาก 11 นัดที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หนทางอยู่รอดยังพอมีอยู่ และ UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ถึง 5 จุดที่ สมิธ ต้องแก้ไขให้ได้ในทีม ‘นกขมิ้นเหลืองอ่อน’ เพื่อโอกาสหนีตกชั้นในฤดูกาลนี้

 

เปลี่ยนแปลงบรรยากาศ

หลังเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ได้อย่างย่ำแย่ บอร์ดบริหารของ นอริช คงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจะนำมาซึ่งแรงผลักดันใหม่ที่ต่างจากช่วง 4 ปีครึ่งในยุคของ แดเนี่ยล ฟาร์เก้

ขณะที่การดึงกุนซือใหม่เข้ามาช่วงกลางฤดูกาลไม่ได้การันตีว่าจะช่วยให้ทีมรอดตกชั้นได้ 100 เปอร์เซนต์ แต่การดึงนายใหญ่คนใหม่เข้ามาก็ช่วยกระตุ้นผลงานของทีมได้ในระยะสั้นเป็นอย่างน้อย

อีกทั้งเกมนัดที่เอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ช่วงสัปดาห์ก่อนจะคงไม่ใช่ชัยชนะนัดสุดท้ายของ ‘นกขมิ้น’ แน่นอน ถ้า สมิธ สามารถเพิ่มความมั่นใจและแนวทางการเล่นที่ชัดเจนให้กับทีมได้

 

ให้โอกาส กิลมอร์

บิลลี่ กิลมอร์ ดูผิดหวังไม่น้อยกับการย้ายมาเล่นให้ นอริช แบบยืมตัวในฤดูกาลนี้ เพราะตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เขาได้ลงเล่นเพียง 4 นัดในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น และการที่ ฟาร์เก้ ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับ ดาวรุ่งทีมชาติสกอตแลนด์ ก็เหตุผลที่หลายคนสงสัยเช่นกัน

นั่นทำให้มีข่าวว่า เชลซี ต้นสังกัดเตรียมยกเลิกสัญญายืมตัวของกองกลางวัย 20 ปี ในเดือนมกราคมนี้ และพิจารณาถึงตัวเลือกอื่นๆที่จะเพิ่มประสบการณ์และพัฒนาฝีเท้าให้ลูกหม้อของพวกเขา

เชื่อว่า สมิธ คงไม่ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่นอน และจำเป็นอย่างยิ่งในการดึงศักยภาพและพรสวรรค์ของ กิลมอร์ ออกมาใช้งานให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าหากเขาทำได้ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ นอริช อยู่รอดมากขึ้นเช่นกัน

 

ปรับปรุงเกมรุก

Brentford 1-2 Norwich: Mathias Normann and Teemu Pukki give Canaries first  Premier League win | Evening Standard

ปัญหาของทีมตกชั้นส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกก็คือการยิงประตูอันน้อยนิด และนี่เป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับ นอริช เช่นกัน ในฤดูกาลนี้

‘เดอะ คานารี่ส์’ ทำประตูในลีกเพียง 5 ลูก ซึ่งมาจากเดมที่เอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ได้เมื่อสัปดาห์ก่อน 2 ลูก และไม่ได้ช่วยให้ ฟาร์เก้ รอดพ้นจากการโดนปลดแต่อย่างใด

แน่นอนว่า ติมู ปุ๊กกี้ คือนักเตะที่แบกภาระในการทำประตูของนอริช หลังซัดไปแล้ว 3 ประตูในลีก ทว่าถ้าพวกเขาต้องการอยู่รอดในลีกสูงสุดจริงๆ ก็จำเป็นต้องมีคนช่วยทำประตูเพื่อแบ่งเบาภาระในแดนหน้าให้กับ ดาวยิงทีมชาติฟินแลนด์ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพวกหน้าใหม่อย่าง จอช ซาร์เจนท์, มิล็อต ราซิตซา หรือหน้าเก่าอย่าง อดัม อิดาห์ 

 

พัฒนาเกมรับ

EPL 2021: Norwich City lose to Leeds United as horror season continues

อีกเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือการเล่นเกมรับของ นอริช ในยุคของ ฟาร์เก้ ที่เสียประตูถึง 26 ลูก ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ อีกการเก็บคลีนชีทได้เพียง 2 จาก 11 นัด ก็บ่งบอกว่าเกมรับของพวกเขาติดลบแค่ไหน

ปัญหานี้จึงจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนาไปพร้อมๆกับเกมรุกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แกรนท์ แฮนลี่ย์, เบน กิ๊ปสัน หรือ กองหลังตัวใหม่อย่าง โอซาน คาบัค ต้องเล่นให้เหนียวแน่นมากขึ้น เพราะต่อให้ ทิม ครูล เซฟประตูมากแค่ไหน ถ้าเซ็นเตอร์แบ็คในทีมยังหละหลวมก็คงเสียประตูอีกเหมือนเดิม นี่จึงเป็นอีกจุดที่ สมิธ ต้องปรับปรุงให้ได้โดยด่วน

เชื่อว่าประสบการณ์ในการพา แอสตัน วิลล่า อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดแดนผู้ดีช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุดของกุนซือวัย 50 ปี น่าจะช่วยให้จุดนี้ดีขึ้นกว่ายุคของ ฟาร์เก้ พอสมควร

 

สะสางปัญหาของ แคนท์เวลล์

ท็อดด์ แคนท์เวลล์ เป็นหนึ่งในดาวรุ่งของ นอริช ที่ได้รับความสนใจจากสโมสรร่วมลีก และตกเป็นข่าวย้ายทีมอยู่เรื่อยมา แต่ทว่าเขากลับไม่ได้ลงเล่นเลยนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา

ตัวรุกวัย 23 ปี มีทั้งปัญหาส่วนตัว รวมไปถึงปัญหาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย แต่เช่นเดียวกับกรณีของ กิลมอร์ ที่สโมสรพยายามดิ้นรนหาสมดุลระหว่างเกมรุกและรับให้ลงตัว จึงเป็นเรื่องน่าแปลกที่เขากลับไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมเลยตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา

แม้ว่าอนาคตระยะยาวของเขาจะอยู่ที่อื่น แต่แคนท์เวลล์จะได้รับประโยชน์สูงสุดกับตัวเองอย่างแน่นอน หากเขาพยายามเริ่มต้นใหม่อีกครั้งภายใต้การดูแลของกุนซือคนใหม่

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจอร์ราร์ด
งานหนัก! 5 ปัญหาใหญ่สิงห์ผยองที่เจอร์ราร์ดต้องเร่งแก้ไข