5 แข้งที่ล้มเหลวในการเซ็นสัญญาของ‘เป็ป’

 

โจเซป กวาดิโอล่าหรือเป็ป กวาดิโอล่าในปัจจุบัน เป็นโค้ชที่ได้ขึ้นชื่อว่าประสบความสำเร็จผ่านการคว้าแชมป์มาได้ทุกถ้วยกับทุกสโมสรที่เขาได้ไปคุมบังเหียน ไล่ตั้งแต่ บาร์เซโลน่า ทีมที่เขาเคยเป็นนักเตะจนกระทั่งขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมแห่งศึกบุนเดสลีกาและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในตอนนี้

 

ด้วยวิธีการเล่นแบบครองบอลเหนียวแน่นและบีบพื้นที่เร็วรวมไปถึงการมีนักเตะทักษะสูงอยู่ในทีมหลายคนทำให้การทำงานของกุนซือเลือดกระทิงเป็นไปดังที่ต้องการและอีกปัจจัยหนึ่งเลยที่ขาดไม่ได้ในการทำทีมฟุตบอลคือการเลือกหาตัวผู้เล่นที่คิดว่าเข้ากับระบบของทีม

 

เป็ปนั้นเคยเซ็นสัญญากับผู้เล่นอย่าง เคราด ปีเก้, โจชัว คิมมิชและเลรอย ซาเน่ ซึ่งถือว่าเป็นลงทุนที่คุ้มค่าเม็ดเงินของสโมสรเลยทีเดียว หนำซ้ำพวกที่กล่าวมาเหล่านี้ก็ล้วนทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นกำลังสำคัญในการสร้างทีมของเป็บอีกด้วย แต่อีกด้านหนึ่งกุนซือรายนี้ก็เคยผิดพลาดเหมือนกันในการสรรหานักเตะที่คิดว่าใช่แต่สุดท้ายก็แย่ และนี่คือ 5 นักเตะที่ล้มเหลวในการเซ็นสัญญาของเป็ป

 


5.โนลิโต้ (เซลต้า บีโก้ ไป แมนเชสเตอร์ซิตี้)

 



โนลิโต้ เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนแรกของเป็ปที่ซื้อมาร่วมถิ่น เอติฮัด จาก เซลต้า บีโก้ด้วยค่าตัว 13.8 ล้านปอนด์ เขาโชว์ผลงานได้ดีในช่วงแรกกับศึกพรีเมียร์ลีก โดยลงเล่นให้เรือใบ 100 เกม ทำไป 39 ประตู แต่หลังการมาของ เลรอย ซาเน่ ทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบากในการยึดตำแหน่งตัวจริงของทีม

 

ในฤดูกาลต่อมาสโมสรได้ตัดสินใจดึงตัว แบร์นาโด้ ซิลวา มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกสมาจากโมนาโก นั่นจึงเป็นการส่งสัญญาณไปถึง โนลิโต้ ว่าช่วงเวลาในอังกฤษของเขาใกล้หมดลงแล้ว จนในที่สุดเขาก็ถูกขายให้เซบีญ่าด้วยจำนวนเงิน 9 ล้านปอนด์ หลังออกสตาร์ทให้กับทีมไปแค่ 9 นัด ทำให้ดาวยิงหน้ามนต์รู้สึกมีความสุขมากที่ย้ายออกมา เพราะเขาคิดว่าการใช้ชีวิตในเมืองแมนเชสเตอร์กับครอบครัวมันค่อนข้างจะยากลำบากนิดหน่อยในการสื่อสาร

 


4.เคลาดิโอ บราโว่ (บาร์เซโลน่า ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

 

 

เมื่อ กวาดิโอล่า มาถึงเมืองแมนเชสเตอร์เขาตัดสินใจทำการปฏิวัติผู้รักษาประตูทันทีด้วยการเมินใช้นายด่านมือ 1 ก่อนหน้านี้อย่าง โจ ฮาร์ทที่รับใช้สโมสรมาเนิ่นนานด้วยการเซ็นสัญญากับเคลาดิโอ บราโว นายทวารวัย 33 ปีจากบาร์เซโลน่าด้วยราคา 17 ล้านปอนด์ หลังจากโชว์ผลงานกับเจ้าบุญทุ่มในช่วง 2-3 ปีหลังได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้เขายังพกดีกรีแชมป์โคปปา อเมริกากับทีมชาติชิลีอีกต่างหาก

 


อย่างไรก็ตามในฤดูกาลแรกของเขาที่อังกฤษยังไม่ได้เป็นดังหวังมากนัก โดยการประเดิมนับหนึ่งบนแผ่นดินผู้ดีของนายด่าชาวชิลีนั้นเกิดขึ้นในนัดที่พบกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่โชคไม่ค่อยเข้าข้างเขาสักเท่าไรเมื่อเกิดจังหวะผิดพลาดส่วนตัวซึ่งนำไปสู่การเสียประตูแบบง่ายๆแต่ซะยังไงเกมนั้นก็จบลงที่สามแต้มของฝั่งสีฟ้า และนัดนั้นเองเป็นจุดเริ่มต้นของการหมดความมั่นใจจากเจ้านายของเขาเอง

 

จนในที่สุดจอมหนึบรายนี้ก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของอดีตกุนซือของเขาเองรวมไปถึง วิลลี่ กาบาเยโร่ นายทวารจอมเก๋าอีกคน โดยเมื่อจบซีซั่น บราโว่ มีสถิติการเซฟประตูอยู่ที่ 54.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น่าผิดหวังเอามากๆ กระทั่งฤดูกาลถัดมา เป็ป ก็ไปเซ็นสัญญาคว้าตัว เอเดอร์สัน มาเป็นมือหนึ่งของทีมและลดบทบาทของ บราโว่ไปเป็นตัวเลือกรองทันที

 

 

3.ดิมิทรี ชิซินสกี้  (ชัคตาร์ โดเน็กส์ ไป บาร์เซโลน่า)

 

 

ในเดือนสิงหาคม 2009 กวาดิโอล่า เซ็นสัญญากับแนวรับชาวยูเครนนามว่า ดิมิทรี ชิซินสกรี จาก ชัคตาร์ โดเน็กส์  ในราคา 25 ล้านยูโร เขามาถึงสโมสรหลังจากช่วยชัคตาร์ โดเน็กส์ คว้าถ้วยยูฟ่า คัพในปี 2008/09 และเขาก็กลายเป็นผู้เล่นคนแรกจากประเทศยูเครนในประวัติศาสตร์ที่เล่นให้กับบาร์เซโลน่า

 

 

ชิซินสกรี นั้นขึ้นชื่อลือชาเรื่องการป้องกันลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามการเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงของเขานั้นค่อนข้างยากลำบากเมื่อในขณะนั้นบาร์ซ่ามีกองหลังชั้นเลิศอย่างเคราร์ด ปิเก้, คาร์เลส ปูโยล, กาเบรียล มิลิโตและราฟาเอล มาร์เกซ คอยคุมแนวรับอยู่ ทำให้เขาไม่ค่อยได้ลงเล่นมากนัก โดยฤดูกาลนั้นเจ้าตัวลงสนามรวมทุกถ้วยทุกรายการไปแค่ 14 เกมรวมทั้งในลีกอีก 12 นัด รวมทั้งสิ้นปราการหลังทีมชาติยูเครนสัมผัสพื้นหญ้าไปเพียง 851 นาที จนในที่สุดพ่อหนุ่มหัวทองก็ถูกปล่อยกลับไปทีมเก่าในหน้าร้อนปีถัดมาด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร

 

2.เคียร์ริสัน (พัลไมรัส ไป บาร์เซโลน่า)

 

 

เคียร์ริสัน ไม่ใช่เป็นการเซ็นสัญญาที่ผิดพลาดของเป็ปเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงความล้มเหลวของบาร์เซโลน่าด้วย โดยดาวเตะชาวแซมบ้าย้ายมาอยู่ในถิ่นคัมป์นูเมื่อปี 2009 หลังจากสร้างความประทับใจในการเล่นให้กับทีมบ้านเกิดของเขาอย่าง คอริติบ่าและพัลไมรัส อย่างไรก็ดีเขาถูกปล่อยให้ เบนฟิก้า ยืมตัวไปใช้งานเพื่อให้ปรับการเล่นให้คุ้นเคยกับลีกยุโรป

 

ที่เบนฟิก้า เขาลงเล่นไปแค่ 199 นาทีเท่านั้นและไม่สามารถยิงประตูให้กับทีมจากลีกโปรตุเกสได้เลย จนถูกส่งกลับมายังสเปนในช่วงกลางฤดูกาล หลังจากนั้นก็ถูกส่งต่อไปให้ ฟิออเรนติน่า ยืมไปใช้งานต่อจนจบซีซั่น

 


เคียร์ริสัน มีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในฤดูกาลถัดมากับทั้งซานโตส, ครูไซโร่และ คอริติบ่า ในสัญญายืมตัว ก่อนที่ บาร์ซ่าจะตัดสินใจยกเลิกข้อผูกมัดต่างๆเกียวกับตัวเขาเมื่อช่วงปี 2014 โดยที่เจ้าตัวยังไม่เคยลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่จากแคว้นคาตาลันเลยแม้แต่นัดเดียว จนต้องกลับไปยังบราซิลเพื่อไปเริ่มต้นใหม่กลับ คอริติบ่า และจนถึงบัดนั้นถึงบัดนี้ ดาวยิงเมืองกาแฟก็ไม่เคยได้รับข้อเสนอแบบทึ่เขาย้ายไปบาร์ซ่าอีกเลย

 

1.สลาตัน อิมบราฮิมโมวิช ( อินเตอร์ มิลาน ไป บาร์เซโลน่า)

 


สลาตัน อิมบราฮิมโมวิช ถือเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่เลวร้ายที่สุดของ กวาดิโอล่า เลยทีเดียว แม้ว่าดาวเตะทีมชาติสวีเดนจะยิงได้ถึง 21 ประตูในฤดูกาลแรกของเขาภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวสเปนรายนี้

 


อิมบราฮิมโมวิช ย้ายมาอยู่กับบาร์เซโลนาในปี 2009 จากอินเตอร์ โดยสโมสรคาดหวังว่าเขาจะเป็นกองหน้าตัวเลือกอันดับแรกของบาร์เซโลนา อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูกาล 2009/10 กวาดิโอล่า เลือกที่จะใช้เลโอเนล เมสซี่ลงเล่นในตำแหน่งเบอร์ 9 แทนที่ดาวยิงรายนี้ ทำให้เขาต้องถูกลดบทบาทลงไปที่ม้านั่งสำรองข้างสนามแทน

 


ความสัมพันธ์ระหว่าง กวาดิโอล่า และ อิมบราฮิมโมวิช เริ่มจืดจางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้เขาได้รับอนุญาตจากต้นสังกัดให้ย้ายออกจากทีมได้ หลังเล่นได้แค่ฤดูกาลเดียว ทำให้กองหน้าร่างยักษ์รายนี้ถูกปล่อยขายออกไปด้วยราคา59 ล้านปอนด์ ซึ่งสร้างความมึนงงให้กับเจ้าตัวมาก และไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรกุนซือรายนี้ที่ซื้อเขาเข้ามาสู่ทีมเพื่อหวังการยิงประตูจากเขา จะมาโดนจับดองบนม้านั่งสำรองอยู่บ่อยครั้ง

 

หลังจากออกจากบาร์เซโลน่าแล้วอิบราฮิโมวิชก็กลับมายิงทีมที่กวาดิโอล่า คุมอยู่หลายต่อหลายครั้ง เพื่อเป็นการตอกกลับนายเก่าว่าเขาคือพระเจ้าตัวจริงเท่สนั้นไม่พอเขายังเขียนหนังสืออัตชีวประวัติเหน็บแนมเรียกโค้ชของแมนฯซิตี้ในปัจจุบันว่าเป็นพวก“ขี้ขลาดไร้เดียงสา ปัญญาควาย”