รวมพลคนหักอกผี : 5 แข้งดังที่ยอมรับว่าเคยปฏิเสธปีศาจแดงหลังยุคเฟอร์กี้

 

คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าซัมเมอร์ปี 2013 คือช่วงเวลาที่เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด…

 

นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สละบัลลังก์ไป แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนกุนซือมาแล้ว 4 ราย ได้แก่ เดวิด มอยส์ , หลุยส์ ฟาน กัล , โชเซ่ มูรินโญ่ มาจนถึงคนล่าสุดอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจบอกปัด เร้ด เดวิลส์ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป

 

บ้างก็เป็นเรื่องจริง บ้างก็เป็นข่าวที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมา แต่ที่แน่ๆคือ 5 สตาร์ดังที่เราจะพาไปดูต่อจากนี้ คือนักเตะที่ยอมรับว่าตัวเองเคยหันหลังให้กับโอกาสในการได้สวมเสื้อปีศาจแดงจริง

 

เชสก์ ฟาเบรกาส

 

 

เดวิด มอยส์ ก้าวเข้ารับตำแหน่งกุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อจาก เฟอร์กี้ ในปี 2013 และ ฟาเบรกาส คือเป้าหมายลำดับต้นๆที่นายใหญ่สกอตติชอยากได้เข้ามาเป็นลูกทีม อย่างไรก็ตาม กองกลางเลือดกระทิงกลับปฏิเสธที่จะย้ายมาเล่นบนถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด และขออยู่สู้เพื่อตำแหน่งในทีม บาร์เซโลน่า ต่อไป

 

ทว่า 1 ปีให้หลัง อดีตจอมทัพอาร์เซน่อลก็ย้ายกลับมาเล่นที่อังกฤษอยู่ดี แต่คราวนี้เขาตัดสินใจตอบรับข้อเสนอจากทาง เชลซี ก่อนที่จะแอสซิสต์เป็นว่าเล่นพาสิงโตน้ำเงินครามคว้ามาได้เกือบครบทุกถ้วยทั้งพรีเมียร์ลีก (2 สมัย) , เอฟเอ คัพ , ลีกคัพ และ ยูโรปา ลีก

 

“ผมจะไม่บอกว่าใกล้ที่จะย้ายทีมก็แล้วกัน แต่ผมเคยพูดคุยกับ เดวิด มอยส์ ประมาณ 2-3 ครั้ง” ฟาเบรกาส ตอบกับแฟนบอลรายหนึ่งบนทวิตเตอร์ หลังถูกถามว่าใกล้เคียงแค่ไหนกับการย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดง

 

ปัจจุบัน มิดฟิลด์วัย 32 ปี ค้าแข้งอยู่กับ โมนาโก ในลีกเอิง ฝรั่งเศส โดยเจ้าตัวย้ายมาเล่นที่แดนน้ำหอมตั้งแต่เดือนมกราคมปีก่อน

 

โทนี่ โครส

 

 

“โทนี่ โครส ตอบตกลงที่จะมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับผม” มอยส์ บอกกับ talkSPORT เมื่อปีที่แล้ว “ผมพบกับเขาและภรรยาของเขา และเราก็ตกลงกันได้หมดแล้วเมื่อตอนที่เขายังอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค”

 

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องจบลงหลังจากที่ มอยส์ ถูกไล่ออก และกองกลางทีมชาติเยอรมันก็ได้หันไปเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด แทนในปี 2014

 

“เดวิด มอยส์ เดินทางมาพบกับผม และตกลงสัญญาเบื้องต้นกันได้แล้ว” โครส บอกกับ The Athletic

 

“แต่หลังจากนั้น มอยส์ ก็ถูกไล่ออก และเป็น หลุยส์ ฟาน กัล ที่เข้ามาแทน นั่นทำให้ดีลนี้เกิดปัญหา หลุยส์ ต้องการที่จะสร้างทีมในแบบของเขาเอง ผมไม่ได้ยินอะไรจากทาง ยูไนเต็ด อยู่พักหนึ่ง ผมจึงเริ่มไม่แน่ใจ”

 

“จากนั้นฟุตบอลโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้น และ คาร์โล อันชล็อตติ (กุนซือของ เรอัล มาดริด ในเวลานั้น) ได้โทรมาหาผม เรื่องมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ”

 

ซึ่งนี่ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของห้องเครื่องดีกรีแชมป์โลก เพราะเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีหลังสุดบนถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาบิว การันตีได้จาก 1 แชมป์ลาลีก้า และ 3 แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

 

ราฟาเอล วาราน

 

 

อันที่จริง วาราน เคยบอกปัด แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วครั้งหนึ่งในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ ก่อนที่จะทำการหักอกปีศาจแดงซ้ำสองในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 เมื่อตอนที่ มูรินโญ่ เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ

 

“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ตลอดช่วงเวลาที่ผมอยู่กับ มาดริด ผมอยู่ในโปรเจคสำคัญของสโมสร ทำให้ผมต้องตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจัง” วาราน บอกกับ Canal+

 

“ผมมักจะพูดว่าผมรู้สึกดีใน มาดริด มันไม่ง่ายเลยที่จะตอบปฏิเสธ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่คุณต้องชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีกับข้อเสีย”

 

หลังจากนั้น ปราการหลังเฟรนช์แมนก็ได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์ร่วมกับราชันชุดขาวอีก 2 ครั้ง และมันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแนวรับผู้คว้าแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศสในปี 2018 เลือกทางเดินไม่ผิด

 

ซาดิโอ มาเน่

 

 

หลุยส์ ฟาน กัล หมายมั่นปั้นมือที่จะดึง มาเน่ มาจาก เซาแธมป์ตัน ให้ได้ในปี 2015 อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ปีกทีมชาติเซเนกัลจะปฏิเสธเทรนเนอร์จอมปรัชญา แต่เจ้าตัวยังตอกกลับด้วยเหตุผลที่อาจทำให้แฟนผีต้องกำหมัดด้วย

 

“มีบางทีมที่อยากได้ตัวผม นั่นคือ แมนเชสเตอร์ (ยูไนเต็ด) เป็นทีมที่ไม่ใช่ที่ต้องการตัวผม แน่นอนว่าผมได้พูดคุยกับ ฟาน กัล และพวกเขาก็ยื่นข้อเสนอมาให้กับผมด้วย” มาเน่ กล่าว

 

“แต่สำหรับผม มันไม่ใช่สโมสรที่ใช่ มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม ผมคิดว่าต้องรู้สึกแบบนี้ ช่วงเวลาที่ใช่ , โค้ชที่ใช่ , สโมสรที่ใช่”

 

แต่ถึงกระนั้น ฟาน กัล ยังคงไม่ยอมแพ้ และเดินหน้าทาบทาม มาเน่ อีกรอบในปีต่อมา ทว่าสุดท้าย เจ้าตัวก็ส่ายหน้าให้กับปีศาจแดงอีกหน พร้อมเซย์เยสข้อเสนอของ ลิเวอร์พูล ที่ยื่นเข้ามาในช่วงเวลาเดียวกัน

 

“เราคิดเกี่ยวกับการย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากที่สุด” แข้งวัย 27 ปี ให้สัมภาษณ์กับ The Time “ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะผมต้องนั่งเป็นตัวสำรอง”

 

“ดังนั้น ผมเลยไม่ได้คิดว่าจะมีใครติดต่อเข้ามา แต่ผมดีใจมากที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ติดต่อเข้ามา และไม่คิดว่าผมเป็นแร็ปเปอร์”

 

การได้ร่วมงานกับ คล็อปป์ ทำให้อดีตดาวเตะเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์กยกระดับตัวเองขึ้นเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดในโลก และเขาก็ตอบแทนเจ้านายชาวเยอรมันด้วยการเป็นส่วนสำคัญที่พาหงส์แดงผงาดครองจ้าวยุโรปได้สำเร็จเมื่อซีซั่นที่แล้ว

 

เอ็นโกโล่ ก็องเต้

 

 

มูรินโญ่ เคยพยายามชักจูง ก็องเต้ มาตัดเกมให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากเจ้าตัวเพิ่งสร้างเทพนิยายกับ เลสเตอร์ ซิตี้ มาหมาดๆ แต่ท้ายที่สุด กลับเป็น เชลซี ที่สามารถเอาชนะใจดาวเตะร่างเล็กผู้นี้ได้ ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับนายใหญ่สิงโตน้ำเงินครามในเวลานั้นอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้

 

“มันน่าอัศจรรย์มากที่ มูรินโญ่ โทรหาผม แม้ผมจะได้รับคำเตือนก่อนหน้านั้นแล้วกับวิธีที่เขาจะโน้มน้าวผม” ก็องเต้ กล่าวในปี 2016 “ผมได้ฟังเหตุผลของเขาว่าทำไมผมถึงควรย้ายไปอยู่กับ ยูไนเต็ด”

 

“แต่ในเวลานั้น ผมลังเลระหว่างการอยู่กับ เลสเตอร์ ต่อ หรือย้ายออกจากทีมเพื่อ เชลซี”

 

“การพูดคุยของเราเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อผมได้พูดคุยไปแล้ว ผมรู้สึกดีกับ คอนเต้”

 

โดยตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งบนถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ กองกลางปอดเหล็กช่วยให้สิงห์บลูส์ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก , เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก ไปได้อย่างละสมัย