วัดครึ่งปีแรก : 6 ตัวเต็งลุ้นคว้าบัลลงดอร์ 2021

การมอบรางวัลบัลลงดอร์ประจำปี 2021 ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน แต่ตัวเต็งผู้มีลุ้นคว้ารางวัลสุดยิ่งใหญ่นี้ก็เริ่มโผล่มาให้เห็นเป็นรูปร่างขึ้นแล้วหลังผ่านพ้นช่วงครึ่งปีแรก

รางวัลอันทรงเกียรติจะมอบขึ้นให้ในเดือนธันวาคมและมีรายการแข่งขันฟุตบอลอีกมากที่ยังไม่ได้เริ่มเตะ แต่ตามธรรมเนียมแล้ว รางวัลนี้จะอิงจากฤดูกาลก่อนหน้า ทั้งบอลลีก, แชมเปี้ยนส์ลีก และทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติที่สำคัญ

ดังนั้นเมื่อฤดูกาล 2020-21 ที่ผ่านพ้นไปแล้วเช่นเดียวกับศึกบอลทวีปทีมชาติอย่าง โคปา อเมริกา และ ยูโร 2020 นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีในการวิเคราะห์ตัวเต็งทั้งหลายในรางวัลนี้ และนี่คือ 6 แข้งที่ UFA ARENA มองว่ามีลุ้นคว้า บัลลงดอร์ปี 2021 มากที่สุด

 

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ | บาเยิร์น มิวนิค, ทีมชาติโปแลนด์

จำนวนลงเล่น : 48 ประตู จาก 40 นัด (สโมสร), 6 ประตู จาก 6 นัด(ทีมชาติ)

ความสำเร็จฤดูกาลก่อน : บุนเดสลีก้า

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คงรู้สึกว่าเขาถูกขโมยโอกาสคว้าบัลลงดอร์ หลัง ฟรองซ์  ฟุตบอล ยกเลิกการมอบรางวัลนี้ในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เขากดไป 55 ประตู จาก 47 นัด ช่วยให้ บาเยิร์น มิวนิค คว้าทริปเบิ้ลแชมป์มาครองอย่างยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2020-21 เลวี่ ก็ยังรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการคว้ารองเท้าทองคำยุโรป ด้วยจำนวน 41 ประตู จาการลงเล่นในบุนเดสลีก้าเพียง 29 นัด อีกทั้งยังทำลายสถิติที่ แกรด มุลเลอร์ ครองมายาวนานกว่า 49 ปี ด้วยการเป็นนักเตะที่ยิ่งประตูในลีกเมืองเบียร์มากสุดในฤดูกาลเดียว

ชื่อเสียงของดาวยิงวัย 32 ปี ยังยอดเยี่ยม แม้ไม่สามารถช่วย ‘เสือใต้’ ป้องกันถ้วยยุโรป หลังมีอาการบาดเจ็บในเกมดวลกับ เปแอสเช ทั้ง 2 เลก รวมไปถึงการแบก โปแลนด์ ไม่ไหวตกรอบแบ่งกลุ่มในนยูโร แม้ยิงได้ 3 ประตู จาก 3 นัดก็ตาม

 

ลิโอเนล เมสซี่ | บาร์เซโลน่า, ทีมชาติอาร์เจนติน่า

จำนวนลงเล่น : 38 ประตู จาก 47 นัด (สโมสร), 5 ประตู จาก 9 นัด (ทีมชาติ)

ความสำเร็จฤดูกาลก่อน : โกปา เดล เรย์, โคปา อเมริกา

แม้เคยคว้ารางวัลนี้ครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 2019 แต่ ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังมีชื่อโผล่ขึ้นมาลุ้นบัลลงดอร์ในทุกๆปีหลังจากนั้น โดยเขาทำสถิติครองรางวัลนี้มากสุดในประวัติศาสตร์จำนวน 6 สมัย

ล่าสุดดาวเตะร่างเล็กเพิ่งพา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โคปา อเมริกา หนแรกนับตั้งแต่ปี 1993 พร้อมคว้าตำแหน่งดาวซัลโว, จอมแอสซิสต์ และ ผู้เล่นยอดเยี่ยมในทัวร์นาเม้นต์ ทำให้โอกาสคว้ารางวัลนี้ของเขามีมากขึ้นกว่าเดิม

กับ บาร์เซโลน่า อาจเป็นอีกฤดูกาลที่ทีมทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่พวกเขาก็คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ โดยที่ ดาวเตะวัย 34 ปี กดไป 2 ประตูในนัดชิง อีกทั้งยังยากที่จะบอกว่า เมสซี่ น่าผิดหวังในลาลีก้า เมื่อกดไปคนเดียว 30 ประตู พร้อม 11 แอสซิสต์ จาก 35 นัด ในฤดูกาล 2020-21

 

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ | เชลซี, ทีมชาติฝรั่งเศส

จำนวนลงเล่น : 48 นัด (สโมสร), 6 นัด(ทีมชาติ)

ความสำเร็จฤดูกาลก่อน : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นเจ้าของตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมรอบรองชนะเลิศพบกับ เรอัล มาดริด ทั้ง 2 นัด เช่นเดียวกับนัดชิงชนะเลิศที่เฉือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่แปลกที่เขาคือส่วนสำคัญที่ทำให้ เชลซี คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้เป็นสมัยที่ 2

หลายคนคาดว่า กองกลางแปดปอดจะเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ยูโร 2020 ได้ในฐานะเต็งหนึ่งของรายการ น่าเสียดายที่โดน สวิตเซอร์แลนด์ เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแบบเหลือเชื่อ แต่อย่างน้อยความสำเร็จในระดับสโมสรก็ทำให้ ก็องเต้ ไม่อาจถูกมองข้ามจาก บัลลงดอร์ได้อยู่ดี

 

จอร์จินโญ่ | เชลซี, ทีมชาติอิตาลี

จำนวนลงเล่น : 8 ประตู จาก 43 นัด (สโมสร), 8 นัด (ทีมชาติ)

ความสำเร็จฤดูกาลก่อน : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโร 2020

จอร์จินโญ่ กลายเป็น 1 ใน 11 นักเตะที่คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโร ภายในปีเดียว อีกทั้งเป็นนักเตะตัวหลักทั้งในทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล และ โรแบร์โต้ มันชินี่ ด้วย

เขามีบทบาทสำคัญในฐานะห้องเครื่องของ เชลซี กับ อิตาลี และถือเป็น 1 ปีที่น่าจดจำที่สุดในอาชีพค้าแข้งของ กองกลางผู้มีถิ่นกำเนิดในบราซิล เลยก็ว่าได้

การคว้าแชมป์ยุโรปได้ทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ จึงไม่แปลกที่ จอร์จินโญ่ จะพุ่งพรวดขึ้นมาลุ้นเป็นตัวเต็งคว้าบัลลงดอร์ไปครอง ไม่ต่างจาก ก้องเต้ เพื่อนร่วมสโมสร และหากทำได้จริง เขาจะกลายเป็นนักเตะ ‘สิงห์บลู’ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัลนี้อีกด้วย

 

โรเมลู ลูกากู | อินเตอร์ มิลาน, ทีมชาติเบลเยี่ยม

จำนวนลงเล่น : 30 ประตู จาก 44 นัด (สโมสร), 7 ประตู จาก 9 นัด (ทีมชาติ)

ความสำเร็จฤดูกาลก่อน : เซเรียอา

อดีตกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี อย่าง โรเมลู ลูกากู คว้าแชมป์แรกนับตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่งใน อันเดอร์เลชท์ เมื่อปี 2010 ด้วยการช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน ชูถ้วยสคูเด็ตโต้หนแรกในรอบ 11 ปีได้สำเร็จ

ดาวยิงร่างยักษ์ ซัดไป 24 ตุง กับ 11 แอสซิสต์ จาก 36 นัดในเซเรียอา ปิดฉากการครองแชมป์ลีก 9 ปีซ้อนของ ยูเวนตุส อีกทั้ง บิ๊กรอม ยังรักษามาตรฐานของตัวเองกับ เบลเยี่ยม ในศึก ยูโร 2020 หลังยิงไป 4 ประตู จาก 5 นัด รวมทั้งหมดเป็น 64 ลูกในทีมชาติ 

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ | ยูเวนตุส, ทีมชาติโปรตุเกส

จำนวนลงเล่น : 30 ประตู จาก 44 นัด (สโมสร), 7 ประตู จาก 9 นัด (ทีมชาติ)

ความสำเร็จฤดูกาลก่อน : โคปปา อิตาเลีย

นี่ไม่ใช่ปีที่น่าจดจำคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ยูเวนตุส เท่าไหร่นัก ทั้งการโดน ปอร์โต้ เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย, การชวดแชมป์เซเรียอาครั้งแรกในรอบทศวรรษ เช่นเดียวกับทีมชาติโปรตุเกส ที่แผนป้องกันแชมป์ยูโรล่ม ด้วยการพ่ายให้ เบลเยี่ยม ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากประตูโทนของ โรเมลู ลูกากู

อย่างไรก็ตาม เรื่องสถิติส่วนตัว CR7 ก็ยังโดดเด่นไม่น้อยหน้านักเตะคนไหน ด้วยการคว้าดาวซัลโว ยูโร 2020 ด้วยจำนวน 5 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ และครองตำแหน่งนักเตะชายที่ยิงประตูในทีมชาติมากที่สุดตลอดกาลเทียบเท่า อาลี ดาอี ตำนานหอกทีมชาติอิหร่าน ด้วยจำนวน 109 ประตู

นอกจากนี้ ดาวเตะวัย 36 ปี ยังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวใน เซเรียอา เป็นครั้งแรก หลังกดไป 29 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมช่วยให้ ‘ม้าลาย’ คว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า พร้อมด้วยการคว้าบอลถ้วยอย่าง โคปปา อิตาเลีย เป็นรางวัลปลอบใจอีกรายการ 

 

บทความที่เกี่ยวข้องกับ บัลลงดอร์