6 ประเด็นร้อนทัพ “ช้างศึก” ก่อนลุยไชน่าคัพ

ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยภายใต้การคุมของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กำลังจะมีโปรแกรมลงอุ่นเครื่องในทัวร์นาเมนต์ ไชน่าคัพ ที่ประเทศจีน ช่วงปลายเดือนนี้ซึ่งก็ได้มีประกาศขุนพล 30 รายชื่ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วท่ามกลางกระแสต่างๆ

 

ทั้งในเรื่องของการเรียกสองซุปเปอร์สตาร์อย่าง สารัช อยู่เย็น และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กลับมารับใช้ทีมชาติอีกครั้ง ร่วมไปถึงบรรดาแข้งผลงานดีกับสโมสรก็ได้โอกาสเข้ามาสู่ทีมชุดนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าแฟนต่างให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

 

นอกจากนี้การประเดิมคุมทีมเต็มรูปแบบของ “โค้ชโต่ย” ก็ถือเป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นกระแสก่อนที่ทัพ “ช้างศึก” จะลงสู้ศึก ไชน่าคัพ ซึ่งวันนี้ UFA Arena จะพาไปเกาะ 6 ประเด็นร้อนของทีมชาติไทยก่อนทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจะเริ่มขึ้น ไปดูกันว่าจะมีอะไรให้พูดถึงกันบ้าง

 

สารัช อยู่เย็น และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ คัมแบ็คทีมชาติ  

 

จากการประกาศ 30 รายชื่อผู้เล่นทัพ “ช้างศึก” ชุดเตรียมสู้ศึก ไชน่า คัพ ช่วงปลายเดือนนี้ถือว่าเป็นไปตามคาดและเป็นกระแสก่อนหน้านี้มาสักพักแล้วสำหรับการเรียกสองแข้งดังอย่าง สารัช อยู่เย็น และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กลับมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกครั้ง

 

ทั้งคู่คือตัวหลักในสมัยยุค “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และเป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ สองสมัย อย่างไรก็ตามเพื่อนซี้ “ก้อง-ตัง” กลับไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ มิโลวาน ราเยวัช เทรนเนอร์ของทีมที่เพิ่งถูกปลดออกไปก่อนหน้า ทั้งในทัวร์นาเมนต์ระดับอาเซียน และ เอเชียนคัพ

 

การคัมแบ็คของทั้งคู่คราวนี้น่าสนใจพอสมควรโดยเฉพาะการพิสูจน์ฝีเท้าในเกมระดับทีมชาติอีกครั้ง แน่นอนว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับทั้งสองคน ซึ่งถ้าหากทำผลงานได้เข้าตาพวกเขาก็น่าจะการันตีตำแหน่งในการลงเล่นศึกใหญ่อย่าง ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2022 ซึ่งจะเปิดฉากกันปลายปีนี้แน่นนอน

 

นักเตะหน้าเดิมหลุด เปิดทางแข้งฟอร์มดี

 

นอกจากการเรียก สารัช อยู่เย็น และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กลับมาติดทีมชาติแล้ว ความน่าสนใจของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือทัพ “ช้างศึก” คนปัจจุบัน คือการให้โอกาสนักเตะหน้าใหม่ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในระดับสโมสรเข้ามาติดทีมชุดนี้

 

จากรายชื่อที่ออกมามีนักเตะหน้าเก่าหลายคนที่หลุดจากทีมไป โดยเฉพาะในรายของ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กองหลังตัวเก่งจาก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี  ซึ่งก็มีทางด้าน นัสตพล มาลาพันธ์ และ ธนะศักดิ์ ศรีใส ซึ่งถือเป็นหน้าใหม่ในระดับทีมชาติถูกเรียกเข้ามาทัพแทน

 

ขณะที่ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี  และ พิชา อุทรา สองนักเตะที่กำลังทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัด สมุทรปราการ ซิตี้ ถูกเรียกตัวมาแบบเซอร์ไพรส์สุดๆ โดยเฉพาะในรายของปีกตัวจี๊ดอย่าง พิชา ที่มีโอกาสจะประเดิมสนามกับทีมชาติไทย หากเขามีชื่อติดเป็น 23 คนสุดท้ายไปสู้ศึก ไชน่าคัพ ด้วย

 

นอกจากนี้ในรายของ ศิวกรณ์ เตียตระกูล, จิตปัญญา ทิสุด และ สุรชาติ สารีพิมพ์ คือแข้งหน้าใหม่ที่ถูกเรียกหวนคืนกลับมาเสริมทีมอีกครั้ง จากผลงานที่กำลังทำได้อย่างยอดเยี่ยมกับสโมสรในเวลานี้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ต้องมารอดูกันว่าพอถึงเวลาที่พวกเขาได้โอกาสรับใช้ทีมชาติแล้วจะทำได้ดีเหมือนยามที่เล่นให้กับต้นสังในลีกหรือไม่

 

ไร้ชื่อ กวินทร์ นายทวารเบอร์ 1

 

เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงกันจำนวนมากหลังจากมีการประกาศชื่อออกมา เกี่ยวกับการที่ “เจ้าตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติไทย ไม่ถูกเรียกติดทีมชุดลุยศึก ไชน่าคัพ ครั้งนี้ด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเจ้าตัวก็เพิ่งหายจากการเจ็บมาและยังไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะไม่ได้เดินทางมาร่วมทีมในครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตามหากมองกลับมาในบรรดามือกาวทั้ง 4 คนที่เรียกติดไปในทีมชุดนี้ต้องบอกเลยว่าฝีมือไม่ธรรมดาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในรายตัวเก๋าอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน หรือ ฉัตรชัย บุตรพรม ที่มีประสบการณ์ระดับทีมชาติมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงทางฝั่ง วรวุฒิ ศรีสุภา และ สรานนท์ อนุอินทร์ ถึงแม้จะเป็นหน้าใหม่แต่ต้องยอมรับว่าผลงานของทั้งคู่กับต้นสังกัดดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว

 

ท้ายที่สุดแล้วใครจะได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “โค้ชโต่ย” ซึ่งแน่นอนว่าแฟนบอลอย่างเราๆก็คงอยากเห็นนายด่านหน้าใหม่ๆได้โชว์ผลงานในทีมชาติกันบ้าง เพราะต้องยอมรับว่าทั้ง ศิวรักษ์ และ ฉัตรชัย เองก็อยู่ในช่วงบั้นปลายของอาชีพการค้าแข้ง ซึ่งมันก็ถึงเวลาที่เราควรจะมีมีนายด่านหน้าใหม่ๆขึ้นมาสู่ทีมบ้าง

 

“โค้ชโต่ย” โชว์ฝีมือเต็มรูปแบบ

 

มาถึงกันที่อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่ถูกพูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือการประเดิมทำหน้าที่เต็มรูปแบบของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กับการคุมทีมชาติไทย ลงสู้ศึก ไชน่าคัพ ที่กำลังจะเปิดฉากกันในช่วงปลายเดือนนี้

 

เราอาจจะได้เคยเห็นฟอร์มของเขามาแล้วถึงสามเกมในศึก เอเชียนคัพ ที่ผ่าน และเจ้าตัวก็พาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามคราวนี้กุนซือวัย 49 ปี จะได้โอกาสทำทีมตั้งแต่การเรียกตัวนักเตะมาติดทีม ซึ่งเราต้องมาดูการว่าผลงานของเขากับการคุมทัพ “ช้างศึก” ปะทะกับทีมแถวหน้าระดับทวีปอย่าง ขุนพล “มังกร” ทีมชาติจีน จะออกมาประทับใจแฟนบอลหรือไม่

 

แน่นอนว่าหากอดีตเฮดโค้ช ไทยฮอนด้า รายนี้ทำผลงานได้เข้าตาแฟนบอลร่วมไปถึงสมาคมฟุตบอลไม่แน่ว่าเจ้าตัวอาจจะได้รับโอกาสคุมทีมถาวรก็เป็นได้ หากว่าสามารถผ่านมาตราฐานไลเซ่นส์ตามที่กำหนดไว้ได้

 

งานใหญ่กับการแก้ปัญหาตัวจบสกอร์

 

เป็นปัญหาที่มีมาช้านานแล้วสำหรับผลงานของบรรดาตัวจบสกอร์ของ ทัพ “ช้างศึก” ที่มักจะทำได้ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งหลายครั้งมันส่งผลถึงรูปเกมที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลักมือ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเรามีกองหน้าที่พอจะไว้ใจได้แค่เพียง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา เท่านั่น

 

อย่างไรก็ตามการเรียกนักเตะอย่าง สุรชาติ สารีพิมพ์ ดาวยิงจากทัพ “บีจี ปทุม” เข้าติดทีมก็ถือเป็นการแก้ปัญหาจุดนี้ที่น่าสนใจทีเดียว เพราะเจ้าตัวถือเป็นแข้งที่ถูกแฟนบอลเชียร์ให้มีโอกาสรับใช้ชาติมาตั้งแต่ซีซั่นก่อน รวมไปถึงผลงานส่วนตัวก็ทำได้ค่อนข้างน่าพอใจ นี่จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่าเจ้าตัวจะสามารถเข้ามาแก้ปัญหาตัวจบสกอร์ให้กับทีมได้หรือไม่

 

ขณะที่กองหน้าอีกหนึ่งคนที่ถูกเรียกมาติดทีมก็ยังคงเป็นหน้าเดิมอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร ซึ่งเจ้าตัวก็ยังคงต้องค้นห้าฟอร์มเก่งแบบเดิมๆที่เคยทำได้ต่อไป แน่นอนว่าทัวร์นาเมนต์นี้เป็นโอกาสที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวอีกครั้งกับทีมชาติในสไตล์การเล่นที่เน้นเปิดเกมรุกเป็นหลัก เหมือนสมัยที่เขาโชว์ฟอร์มเด่นยุค “โค้ชซิโก้” กิตติศักดิ์ เสนาเมือง

 

คู่แข่งพร้อมจัดเต็มและโอกาสเจอทีมระดับโลก

 

จากที่มีการยืนยันออกมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าทีมชาติไทย ของเราจะต้องเล่นในศึก ไชน่าคัพ รอบแรก พบกับ ทีมชาติจีน เจ้าภาพ ซึ่งพวกเตรียมแต่งตั้ง ฟาบิโอ คันนาวาโร อดีตตำนานทีมชาติอิตาลีเข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ในเร็ววันนี้ และแน่นอนว่าทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขาต้องเน้นเป็นพิเศษแน่นอน ซึ่งนั่นก็หมายว่าทัพ “ช้างศึก” ของเราจะได้ลองของกับทีมระดับแถวหน้าของเอเชียอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

 

ขณะที่อีกหนึ่งทีมที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือทีมติอุรุกวัย ซึ่งขนบรรดาแข้งดาวดังมากมายติดทีมมาด้วยในครั้งนี้ โดยพวกเขาจะเล่นกับทีมชาติอุซเบกิสถาน ในรอบแรก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็มีโอกาสอยู่บ้างที่เราจะโคจรไปพบกับทีม “จอมโหด” หากเราสามารถผ่านด่านเจ้าภาพไปได้

 

อย่างไรก็ตามถึงทุกทีมที่เข้ามาแข่งในรายการนี้หากเราได้เจอไม่ว่าจะทีมไหนก็ล้วนแล้วแต่มีผลดีทั้งหมด แต่เชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลบ้านเราไม่น้อยก็คงหวังลึกให้เราผ่านขุนพล “มังกร” เพื่อลุ้นเข้าไปเจอกับทีมชาติอุรุกวัย เพื่อวัดกันไปเลยว่าเรายังอยู่ห่างกับเขาแค่ไหน