ช่วงดึกวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แฟนบอล อาร์เซน่อล ต้องพบข่าวเศร้า หลัง สตีฟ ราวลี่ย์ อดีตหัวหน้าแมวมองของสโมสร เสียชีวิตด้วยวัย 63 ปี หลังต่อสู้กับอาการป่วยไม่นาน
ราวลี่ย์ เริ่มเข้ามาทำงานเป็นแมวมองให้ ‘ปืนใหญ่’ ในทีมเยาวชนก่อนตั้งแต่ปี 1982 และได้รับการชื่นชมไม่น้อยจากการค้นพบดาวรุ่งมากพรสวรรค์ ก่อนที่ถูกดันขึ้นไปเป็นหัวหน้าทีมแมวมองของสโมสร ในปี 1996 ซึ่งเป็นช่วงที่ อาร์เซน เวนเกอร์ เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีม
เขาทำหน้าที่นี้จนถึงปี 2017 หรือก่อน 1 ปีที่ เวนเกอร์ จะลาทีม และตลอดกว่า 35 ปีในทีม ราวลี่ย์ ถือเป็นคนสำคัญในการค้นพบเพชรเม็ดงามในวงการฟุตบอล และดึงมาร่วมทีมในเวลาต่อมา ซึ่งมีไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จกับสโมสร
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 7 ดาวเตะ อาร์เซน่อล ที่ถูกค้นพบโดย ราวลี่ย์ แมวมองระดับตำนานของสโมสรผ่านบทความชิ้นนี้
โทนี่ อดัมส์
โทนี่ อดัมส์ คือหนึ่งในดาวรุ่งที่เลื่อนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ในยุค 80 โดยเป็นหนึ่งในดาวรุ่งของอคาเดมี่ที่ถูกค้นพบด้วยสายตาอันเฉียบแหลมของ ราวลี่ย์ ช่วงที่ยังเป็นแมวมองทีมเยาวชนของ อาร์เซน่อล ก่อนจะย้ายมามีบทบาทหัวหน้าแมวมองทีมชุดใหญ่ในยุคของ อาร์เซน เวนเกอร์
กองหลังชาวอังกฤษ ประเดิมนัดแรกให้ ‘ปืนใหญ่’ ด้วยวัยเพียง 17 ปี เท่านั้น และเล่นให้สโมสรจากลอนดอนแค่ทีมเดียวตลอด 19 ปีในอาชีพค้าแข้ง โดยลงเล่นในเกมลีกถึง 504 เกม ซึ่งเป็นนักเตะในชุดคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม ในปี 1989 และ 1991 รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกในฤดูกาล 1997-98 ด้วย
“ตอนนั้นผมค่อนข้างไร้เดียงสาเพราะเป็นเด็กคนแรกของผม อย่างไรก็ตาม ผมได้ติดต่อเขาที่สนามฝึกซ้อมเวสต์แฮม ซึ่งคุณไม่สามารถทำได้ในตอนนี้หรอก ผมไม่ได้ผ่านเข้ามาทางประตูตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ และผมถาม อเล็กซ์ พ่อของเขา ว่าสนใจที่จะพาลูกชายย้ายทีมหรือไม่” ราวลี่ย์ กล่าวในปี 2015
เรย์ พาร์เลอร์
เรย์ พาร์เลอร์ ก็เป็นอีกคนที่ย้ายมาแข้งเกิดที่ อาร์เซน่อล เพราะ ราวลี่ย์ โดยเขาใช้เวลามากกว่า 10 ปีในสโมสร พร้อมเป็นทีมที่เขาลงเล่นให้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกด้วย
พาร์เลอร์ ถูกดึงมาร่วมทีมเยาวชน ‘ปืนใหญ่’ ตามหลัง โทนี่ อดัมส์ หลัง ราวลี่ย์ เห็นแววฝีเท้าของพวกเขาในยุค 80 ก่อนที่กองกลางชาวอังกฤษจะได้ประเดิมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1992 พร้อมลงเล่นให้ทีมมากกว่า 339 เกมลีก และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีก 4 สมัย ตลอด 12 ปีในไฮบิวรี่
เชส ฟาเบรกาส
ราวลี่ย์ และ ฟรานซิส คาจิเกา หนึ่งในทีมแมวมองของ ‘ปืนใหญ่’ มีส่วนร่วมในการพา เชส ฟาเบรกาส ช่วงที่เป็นดาวรุ่ง ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาพัฒนาฝีเท้าต่อที่ อาร์เซนอล
แน่นอนว่า เชส ไม่ใช่ลูกหม้อ บาร์ซ่า คนเดียวที่ทีมต้องการดึงมาร่วมทีม จากการเปิดเผยของ อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือของทีม ณ เวลานั้น แต่สุดท้ายนักเตะที่พวกเขาหมายปองอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ เคราร์ด ปิเก้ ก็เลือกอยู่สเปนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ฟาเบรกาส ก็ถือเป็นเพชรเม็ดงามที่ ‘กันเนอร์ส’ ค้นพบ ซึ่งส่งประเดิมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี ก่อนก้าวขึ้นเป็นตัวหลักอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเก่งกาจถึงขั้นสวมปลอกแขนกัปตันทีมด้วย โดยลงเล่นให้ทีมทั้งหมด 303 นัดในทุกรายการ ก่อนย้ายกลับไป คัมป์ นู ตามเสียงหัวใจในปี 2011
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ พัฒนาจากปีกดาวรุ่งกลายเป็นดาวยิงสุดเฉียบคม หลังย้ายจาก เฟเยนูร์ด มาเล่นให้ อาร์เซน่อล ในปี 2004 อย่างไรก็ตาม เขาคงไม่ย้ายมาสร้างชื่อที่ ลอนดอน หากไม่มีอิทธิพลของ ราวลี่ย์ ช่วยโน้มน้าว
ณ เวลานั้น RVP ใกล้จะย้ายไปร่วมทีม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น อยู่รอมร่อ โดยเจ้าตัวได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้กับ Premier League Productions ว่า “ผมถูกขวางเบียร์ใส่ ถุยน้ำลายใส่ ตอนที่เตะมุม มันเป็นวันที่แย่นะ แต่ผมก็ยังทำตัวเป็นผู้ใหญ่ นิ่งเข้าไว้ ก่อนทำประตูได้ แถมเล่นได้ดีด้วย แต่ผมกำลังเซ็นสัญญากับ พีเอสวี ผมใกล้ย้ายไปแล้ว”
“พ่อผม และเพื่อนอีก 2-3 คนอยู่ที่นั่น (ในเกม) พวกเขาไปซื้อเบียร์ๆใกล้ๆกับโรงแรมในอัมสเตอร์ดัม ซึ่งโรงแรมเดียวกัน ราวลี่ย์ ก็พักอยู่ และเขาได้ยินข่าวนี้ นี่พูดเรื่องจริง 100% ไม่ได้แต่งขึ้นมาเลย เขานั่งดื่มเบียร์ที่บาร์ และพวกพ่อของผมก็นั่งอยู่ใกล้ๆกัน”
“พวกเขาเริ่มพูดคุยกันเพราะรู้จักกันมาก่อน พ่อผมบอกว่า ‘ฟังนะถ้าคุณต้องการ ถ้าอาร์เซน่อล อยากซื้อ โรบิน คุณก็ต้องรีบหน่อย เพราะเขากำลังจะเซ็นสัญญากับ พีเอสวี ในอีกไม่กี่วันแล้ว”
“สตีฟ โทรหา อาร์เซน ทันที และบอกไปว่า ‘ผมรู้ว่ามันเสี่ยง’ แต่ผมว่าตัวผมก็ไม่ได้แพงอะไรนะ แค่ 4 ล้านยูโรเองในตอนนั้น สตีฟบอก อาร์เซน ไปว่า ‘ลองเสี่ยงกันเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง เขาดีจริงๆ เขาเคยเจอเกมยากๆมาแล้ว และเขาพร้อมสำหรับโอกาสนั้นแล้ว’‘”
กาแอล กลิชี่
กาแอล กลิชี่ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ ราวลี่ย์ ค้นพบจากทีมเยาวชน ขณะที่หลายคนอาจมาจากสโมสรดังในประเทศ แต่เขาถูกพบช่วงที่เริ่มต้นกับทีมท้องถิ่นใน คานส์ และด้วยผลงานที่น่าประทับใจก็ทำให้เขาได้ย้ายมาพัฒนาฝีเท้าต่อในลอนดอนเหนือ
“ผมเห็นมาพอแล้วในช่วงวอร์มอัพ ช่างเรื่องเกมไปเถอะ เขามีทั้งความแข็งแกร่ง, ความรวดเร็ว, การตื่นตัว เขามีมันล้นเหลือเลย” ราวลี่ย์ กล่าวถึง แบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส จากการรายงานของ Evening Standard
กลิชี่ มีส่วนร่วมกับ ปืนใหญ่ ตั้งแต่ชุดแชมป์ไร้พ่ายแล้ว ก่อนได้เป็นตัวหลักในแบ็คซ้ายเต็มตัว หลัง แอชลี่ย์ โคล ย้ายไป เชลซี โดยลงเล่นให้ทีมทั้ง 264 เกม ก่อนย้ายไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ช่วงฤดูกาล 2011-12 ที่โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ช่วยให้ มงต์เปลลิเย่ร์ เป็นม้ามืดผงาดคว้าแชมป์ลีกเอิงได้อย่างเหลือเชื่อ ราวลี่ย์ หัวหน้าแมวมอง พร้อมด้วยอดีตผู้เล่นที่อยู่ในทีมแมวมองอย่าง กิลส์ กริมานดี้ ได้จับตาดูกองหน้ารายนี้อย่างใกล้ชิด ก่อนส่งรายงานให้ เวนเกอร์ พิจารณา
จากรายงานของ Dailymail เผยว่า ราวลี่ย์ และ กริมานดี้ ถูกขอให้ติดต่อกับ ชิรูด์ เรื่อยๆ ช่วงระหว่างเดือนมกราคมจนจบฤดูกาล ซึ่งซัดไปทั้งหมด 25 ประตูในซีซั่น และย้ายมาร่วมทัพ ‘กันเนอร์ส’ ในซัมเมอร์ต่อมา
ชิรูด์ ค้าแข้งในถิ่น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ได้ราวๆ 5 ปีครึ่ง ก็ย้ายไปซบ เชลซี ในเดือนมกราคมปี 2018 ก่อนที่ เวนเกอร์ จะลาทีมหลังจบฤดูกาลนั้น โดยยิงให้ทีมจากลอนดอนเหนือไปทั้งหมด 105 ประตู พร้อมกับ แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย
แซร์จ กนาบรี้
แน่นอนว่าดาวรุ่งทุกคนที่ ราวลี่ย์ ค้นพบไม่ได้ประสบความสำเร็จทั้งหมด แต่กรณีของ แซร์จ กนาบรี้ คงแตกต่างจากทั่วไป เนื่องจากเขาประสบความสำเร็จสุดในอาชีพค้าแข้ง เพียงแต่ไม่ได้เกิดขึ้นที่ อาร์เซน่อล เท่านั้น
จากการายงานของ Dailymail เผยว่า ราวลี่ย์ ตกตะลึงไปเลย เมื่อเห็นฝีเท้าของปีกชาวเยอรมัน ช่วงทดสอบฝีเท้าของนักเตะชุด U-16 ในปี 2010 ซึ่งตอนนั้น กนาร์บี้ ยังเป็นนักเตะเยาวชนของ สตุ๊ตการ์ท และหลังจากนั้น อาร์เซน่อล ก็ทำทุกอย่างเพื่อโน้มน้าวให้เขาย้ายมาที่อังกฤษ
ไม่มีใครสงสัยในศักยภาพของ กนาร์บี้ แต่ทว่าการพัฒนาก็ถูกจำกัดช่วงที่ย้ายไปเล่นกับ เวสต์บรอมวิช แบบยืมตัว นั่นทำให้เขาต้องการย้ายลา ‘ปืนใหญ่’ ถาวร เพื่อโอกาสลงสนามมากขึ้น ก่อนประสบความสำเร็จสุดๆทั้งฟอร์มการเล่นและถ้วยรางวัลหลังซบ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
