NEW ERA!! 7 ทีมชาติยุคผลัดใบใหม่

การผลัดเปลี่ยนของยุคสมัย เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปในวงการฟุตบอล การเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทีมดีขึ้นก็ต้องยืมพลังของคนรุ่นใหม่

เห็นได้ชัดจากการประกาศรายชื่อของเหล่าทีมชาติยักษ์ใหญ่ ที่พากันขนพวกดาวรุ่ง ขึ้นมาติดทีม อย่างทีมชาติเยอรมัน ก็ถึงขั้นที่ว่า

ตัดชื่อของ 3สตาร์ดังชุดแชมป์โลก เพือเปิดทางให้กับคนรุ่นใหม่ หรือจะเป็นทีมชาติอังกฤษ ที่ใช้ทีมพลังหนุ่มมาตั้งแต่บอลโลกหนล่าสุด

 

สัญญาณแห่งความเปลี่ยนแปลงยุคสมัยกำลังก่อตัว วันนี้ทาง UEFAARENA จะพาไปดูเหล่าทีมชาติที่กำลังอยู่ในช่วงผลัดใบ จะมีทีมใดบ้าง

 

อาร์เจนติน่า

 

 

หากจะบอกว่าอาร์เจนติน่า เป็นทีมที่ไม่มีดวงก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนัก  เพราะพวกเขาเป็นทีมที่มีขุมกำลังไม่เป็นรองใคร แถมมีนัก

เตะที่ดีที่สุดในโลกแห่งยุคนี้อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงตัวเก่งมากมายไล่ตั้งแต่ คาลอส เตเบส , เซอร์จิโอ อเกวโร่ , เมาโร อิคาร์ดี้

หรือจะเป็นตัวรุกอย่างดิ มาเรีย ตัวรับอย่าง มาสเคราโน่ เหล่านี้ล้วนเป็นผู้เล่นชั้นยอดทั้งนั้น แต่ถ้าจะยอดความสำเร็จครั้งล่าสุดก็ต้อง

ย้อนไปถึงถ้วยฟุตบอลโลกปี 1986 หรือถ้าเข้าใกล้สุดๆก็การเป็นรองแชมป์เวิร์ดคัพปี 2014

 

ผลงานในศึกฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดที่รัสเซีย ก็มีปัญหาทั้งเรื่องการจัดตัว แถมยังมีเรื่องคลื่นใต้น้ำของนักเตะกับโค้ช ส่วนสตาร์ดัง

อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักก่อนที่สุดท้ายแล้วเจ้าตัวจะประกาศเลิกเล่น

ทีมชาติไป แน่นอนว่าทางทัพฟ้าขาว ก็ต้องเตรียมการในกรณีที่ ดาวเตะฟ้าประทานอย่างเมสซี่อำลาทีมไป การผลัดใบจึงได้เริ่มขึ้น

 

การเข้ามาคุมทีมของ ลิโอเนล สกาโลนี ที่มาแทนที่ของ ฮอร์เก้ ซามเปาลี และได้มีการเรียกตัวผู้เล่นมาเพื่อเตรียมทัพลุยศึกโคปา

อเมริกา ที่จะเริ่มขึ้นในเดือน มิถุนายนนี้ โดยมี ลิโอเนล เมสซี่ ที่ตัดสินใจกลับมารับใช้ทีมชาตินำทัพ ซึ่งก็มีพวกตัวใหม่ๆเข้ามาสอด

แทรกอย่าง เลอันโดร ปาเรเดส  , เปาโล ดีบาล่า , อังเคล คอร์เรอา และ ลูตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าดาวรุ่งจากอินเตอร์ มิลาน แม้ว่า

เกมประเดิมสนามของทีมชุดนี้ก็เริ่มต้นไม่ค่อยสวยนักกับการแพ้ให้กับ เวเนซุเอลาไป 3-1 แต่ก็คงต้องให้เวลาในการปรับทีมพอ

สมควรก่อนจะต้องไปพิสูจน์ตัวเอง ในศึกโคปาอเมริกาที่จะถึงนี้

 

อิตาลี

 

 

การทะลุเข้าไปมีลุ้นแชมป์ระดับประเทศของทีมชาติอิตาลี ถ้าจะให้พูดก็คงต้องย้อนกลับไปถึงศึกฟุตบอลยูโรปี 2012 ที่พวกเขาได้

เข้าไปชิงชนะเลิศกับสเปน ก่อนจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ไปถึง 4-0 หลังจากนั้น ทัพอัซซูรี่ ก็ทำผลงานแย่ลงเรื่อยๆ ตั้งแต่การตก

รอบแบ่งกลุ่ม ศึกฟุตบอลโลกปี 2014 โดนเยอรมันเขี่ยตกรอบ 8ทีม ของศึกยูโรปี 2016 และที่หนักที่สุดก็คือในบอลโลกปี 2018 หน

ล่าสุด พวกเขาไม่ได้เข้าไปในรอบแบ่งกลุ่มด้วยซ้ำ

 

ผลงานอันย่ำแย่ของทีม และ สังขารอันโรยราของนักเตะตัวเก๋าที่บางคนก็อยู่ยาวมาตั้งแต่ชุดแชมป์โลกปี 2006แล้ว การผลัดใบของ

ทีมเริ่มต้นขึ้นเมื่อ โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตกุนซือเรือใบสีฟ้า เข้ามารับงานคุมทีมแทน จาน ปิเอโร เวนตูรา ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2018

ซึ่งได้มีการให้โอกาสดาวรุ่งผลัดเปลี่ยนมาลงสนามผสมกับนักเตะตัวเก๋าของทีม อย่างเช่น จานลุยจิ ดอนนาลุมม่า , นิโคโล่ บาเรล

ล่า ลอเรนโซ เปเยกรินี และ โรแบร์โต้ กาญาร์ดินี แถมยังมีพวกคนหนุ่มหน้าใหม่ที่เพิ่งติดทีมชุดใหญ่อีกด้วย

 

การเปลี่ยนแปลงที่จะเห็นได้ชัดเลย เกิดขึ้นในเกมยูฟ่า เนชันส์ ลีก กับ โปแลนด์ อิตาลีทำสถิติเป็นทีมตัวจริงที่อายุเฉลี่ยน้อยที่สุดใน

รอบ 42ปี โดยค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 26.4ปี เท่านั้น แม้ว่าผลจะจบลงด้วยการเสมอ 1-1 แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีของพวกดาวรุ่งจากแดนรอง

เท้าบู้ท เพราะตั้งแต่ มันชินี่เข้ามาคุมทีมพวกเขายังไม่แพ้ใครเลยแถมล่าสุดในเกมยูโร 2020 รอบคัดเลือกที่เอาชนะ ฟินแลนด์ 2-0

 กองหน้าดาวรุ่งของทีมอย่าง มอยเซ่ คีน ก็สามารถทำประตูได้ด้วยวัยเพียง 19ปี 23วัย เป็นแข้งอายุน้อยอันดับสองที่ทำประตูให้กับ

ทีมชาติชุดใหญ่ได้

 

ญี่ปุ่น

 

 

ความพยายามที่จะผลัดเปลี่ยนใบของทีมชาติญี่ปุ่นไม่ได้เริ่มมาจากผลงานที่ย่ำแย่ แต่มาจากการที่ผู้เล่นในยุครุ่งเรืองเริ่มจะโรยรา

ทั้งเคซึเกะ ฮอนดะ และ มาโกโตะ ฮาซาเบะ ที่อำลาทีมชาติไป การเปลี่ยนโค้ชจาก อากิระ นิชิโนะ ที่คุมทัพซามูไรช่วงบอลโลกที่

รัสเซีย มาเป็น ฮาจิเมะ โมริยาซุ เฮ้ดโค้ชวัย 49ปี เข้ามาคุมทีมแทนในช่วงเอเชี่ยนคัพ 2019 ก็มีการตัดชื่อของ ชินจิ คากาวะ และ ชิน

จิ โอกาซากิ ดาวเตะตัวเก๋าของทีมออกไปอีก โดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้ดาวรุ่งมากกว่า

 

แม้ว่าในรายการเอเชี่ยนคัพ พวกเขาจะต้องอกหักในรอบชิงกับกาตาร์ ที่แพ้ไป 3-1 แต่ผลงานไร้พ่ายตลอด 6นัด ในรายการนี้ก็เป็น

เครื่องการันตีอย่างดีว่า ทัพซามูไรยุคใหม่นั้นพอจะมีฝากผีฝากไข้ได้ อย่างในรายของ ทาเคฮิโร โทมิยาสุ ปราการหลังดาวรุ่งวัย

20ปี ก็ได้ติดทีมยอดเยี่ยมในรอบ 16ทีม และ ริทสึ โดอัน ตัวรุกวัยเพียง 20ปี ที่ทำผลงานจนคว้ารางวัล AFC U-19 Championship

MVP เมื่อปี 2016 และดาวรุ่งเอเชียยอดเยี่ยมในปีเดียวกัน

 

ฮอลแลนด์

 

 

ทัพอัศวินสีส้มเป็นทีมที่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลนานพอสมควร ครั้งล่าสุดที่พวกเขาเข้าใกล้คำว่าแชมป์ต้องย้อน

ไปในฟุตบอลโลกปี 2010 ที่ได้เข้าไปชิงกับสเปน ก่อนจะพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-0 และอีกครั้งในบอลโลก ปี 2014 ที่ทะลุไปคว้าที่สาม

ไว้ได้ หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่เคยได้เข้าไปแข่งในรายการใดอีกเลยแม้แต่ในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งยูโรปี 2016 และบอลโลกปี2018

 

หลังจากเปลี่ยนกุนซือมาเป็น โรนัลด์ คูมัน ทีมกังหันลมก็ค่อยๆก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอีกครั้ง และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดย

ชนะไป 5 เสมอ 4 และแพ้ไปแค่ 2นัด แถมพวกดาวรุ่งอย่าง แฟรงค์กี้ เดอยอง และ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ หรือจะเป็นพวกหน้าใหม่ๆที่

โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอย่าง เวอร์จิล ฟานไดจค์ , ดาลี่ย์ บลินด์ และ เมมฟิส เดปาย ที่ถือเป็นส่วนสำคัญของทีม และพวกเขา

ถือเป็นทีมที่ดูจะเริ่มพลิดอกออกผลแล้วหลังผ่านการผลัดใบ

 

เยอรมัน

 

 

หลังจากอกหัดตกรอบแรกของศึกฟุตบอลโลก 2018ที่รัสเซีย ก็เหมือนกับเป็นสัญญาณให้กับ โยอาคิม เลิฟ กุนซืออินทรีเหล็กได้รู้

แล้วว่า ทีมต้องเปลี่ยนแปลง เพราะบรรดานักเตะตัวหลักก็เริ่มที่จะโรยรากันเต็มที่แล้วในขณะที่ เพลย์เมคเกอร์อย่าง เมซุต โอซิล ที่

โดนกระแสโจมตีบ่อยครั้งก็ประกาศอำลาทีมชาติไป โดยการประกาศรายชื่อลุยศึกเนชั่นคัพของทัพเมืองเบียร์ ก็สร้างความประหลาด

ใจไม่น้อย กับการหั่นชื่อของ โธมัส มุลเลอร์ กับ เยโรม บัวเต็ง และ มัทส์ ฮุมเมิลส์ สามดาวเตะชุดแชมป์โลกออก และเรียกพวกแข้ง

สายเลือดใหม่เข้ามาติดทีมแทน

 

โดยนักเตะหน้าใหม่ที่ถูเรียกมาติดทีมชาติ ได้แก่ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์, นิคลาส สตาร์ค และ มักซิมิเลียน เอกเกสไตน์ มาติดทีมชาติ

เป็นหนแรก ส่วนพวกหน้าเดิมแต่เป็นพลังหนุ่ม ก็จะมีทั้ง ติโม แวร์เนอร์ , ลีรอย ซาเน่ , เลออน โกเร็ตซ์ก้า และ โจชัว คิมมิช นอกจาก

นี้ยังมี ไค ฮาแวร์ทซ์ ตัวเทพจากเกม Football manager ก็ติดทีมมาด้วยเช่นกัน

 

บราซิล

 

 

ห่างหายความสำเร็จไปนานพอสมควรสำหรับบราซิล แม้จะมีขุมกำลังที่ไม่ด้อยไปกว่าทีมไหนเลย แต่ก็ดูเหมือนจะทำได้แค่เป็นไม้

ประดับของแต่ละรายการเท่านั้น อย่างที่รู้กันว่า จุดเด่นของทัพแซมบ้า แต่ไหนแต่ไรก็ดูจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ

แต่ละคน และในเรื่องของเกมรุก แต่พอมาเจอฟุตบอลสมัยใหม่ที่ดูจะใช้ทีมเวิร์คมากขึ้น กับแนวรับของทีมที่ขาดทีมเวิร์ค มันเลย

ทำให้พวกเขามีฟอร์มที่ดรอปลงไป แม้จะมีสตาร์ดังมากมายทั้งแนวรุกและแนวรับ

 

ทีทชุดล่าสุดที่จะเอาไวใช้เจอกับ ปานามา และ เช็ก ในเกมกระชับมิตร ได้มีชื่อของ วินิซิอุส จูเนียร์ ดาวรุ่งฟอร์มแรงจากเรอัลมาดริด

รวมไปถึง ริชาร์ลิซอน ที่ทำผลงานได้ดีกับเอฟเวอร์ตัน แต่ผลสกอร์ล่าสุดกับปานามา ที่ตามตีเสมอทัพแซมบ้าได้ 1-1 ก็ทำให้พวก

เขาต้องหยุดสถิติชนะรวด 6 นัดหลังสุดไป และชี้ให้เห็นว่าเกมรับ ยังคงเป็นปัญหาสำหรับทัพ ‘เซเลเซา’ อยู่

 

อังกฤษ

 

 

ถ้าจะพูดถึงทีมที่ห่างหายความสำเร็จไปนานสุดๆ ก็คือทัพสิงโตคำรามนี้เอง และถือว่าเป็นทีมไม้ประดับอย่างแท้จริง แม้ว่าระดับลีก

ฟุตบอล อังกฤษจะมีลีกที่ดีที่สุดของโลกก็ตาม แต่ในระดับทีมชาติกลับสวนทางกัน

 

บนเวทีฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทีมชาติอังกฤษ พวกเขากลายร่างเป็นทีมพลังหนุ่มที่มีอายุเฉลี่ยอยู่

ที่ 26ปี แถมยังทะลุไปไกลถึงรอบ 4ทีมสุดท้าย เรียกว่าเกินความคาดหมายของใครหลายคน

 

ทีมชุดล่าสุดที่เอาไว้ลุยศึกยูโร 2020 ก็เรียกได้ว่าเป็นทีมรวมดาวรุ่งฟอร์มแรงทั้ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , รูเบน ลอฟตัส-

ชีก, เดคลาน ไรซ์ และดาวยิงที่พุ่งแรงที่สุดในชั่วโมงนี้อย่าง จาดอน ซานโช ผนึกกำลังกับพวกแข้งหนุ่มจากชุดฟุตบอลโลก ซึ่งพวก

เขาก็เปิดตัวกันได้อย่างสวยหรูกับการลงสนามอัด เช็ก ไป 5-0 ในศึกยูโรรอบคัดเลือก