ก่อนหน้ามีรายงานว่า ศึกฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2020 อาจเลื่อนโปรแกรมกลับมาเตะเร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางเอาไว้ช่วงเดือนกันยายน เป็นออกสตาร์ทฤดูกาลอีกครั้งเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่ล่าสุด พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกยืนยันเรียบร้อยแล้วว่า ฟุตบอลไทยลีก จะกลับมาลงเตะหลังผ่านช่วงพักเบรคเลี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามโปรแกรมเดิมตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามหากเกมไทยลีก กลับมาเตะกันเร็วกว่ากำหนดช่วงเดือนสิงหาคม และลงแข่งขันจนจบซีซั่นภายในปี 2020 ก็ถือเป็นอีกทางเรื่องที่น่าสนใจ และมีทั้งข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป
โดยวันนี้ UFAARENA จะขอพาไปดูว่า หากศึก โตโยต้า ไทยลีก 2020 กลับมาลงเตะเร็วกว่ากำหนดช่วงเดือนสิงหาคม และแข่งขันจนจบซีซั่นภายในปีนี้ จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียอะไรกันบ้าง
มีเวลาเตรียมทีมก่อนคัมแบ็คสนามน้อย
จนถึงตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่ศึก โตโยต้า ไทยลีก อาจกลับมาลงสนามเร็วกว่ากำหนดเดิมซึ่งวางเอาไว้ช่วงเดือนกันยายน เป็นเดือนสิงหาคม เพื่อให้การแข่งขันซีซั่น 2020 จบลงก่อนสิ้นปี
นั่นหมายความว่าหาแผนการเป็นไปตามกำหนดดังกล่าว แต่ละสโมสรจะมีเวลาเตรียมความพร้อมเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ก่อนกลับมาลงฟาดแข้งกันต่ออีกครั้ง โดยเฉพาะเหล่าบรรดาผู้เล่นต่างชาติซึ่งบางส่วนยังไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้เลยในตอนนี้
การเตรียมทีมน้อยจะเป็นปัญหากับหลายสโมสรแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพร่างกายรวมไปถึงการวางแทคติกรูปแบบการเล่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจต้องใช้ปรับจูนกันพอสมควรกว่าที่ทุกอย่างจะกลับมาเข้าทีเข้าทาง 100 เปอน์เซ็นต์
โปรแกรมการแข่งขันอัดแน่น
แม้เป็นเรื่องดีที่ฟุตบอลลีกไทย จะกลับมาลงสนามกันเร็วกว่ากำหนด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายสโมสรอาจต้องเจอกับปัญหาใหญ่ ในเรื่องของโปรแกรมการแข่งที่อัดแน่นจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้
แน่นอนว่าหากศึกไทยลีก กลับมาลงสนามช่วงเดือนสิงหาคม และต้องเตะให้จบฤดูกาลก่อนสิ้นปี 2020 เราคงได้เห็นโปรแกรมลงแข่งขันต่อเนื่องและอัดแน่น มีเกมการแข่งขันเป็นประจำทุกวันพุธ, วันเสาร์ และวันอาทิตย์
โดยผลที่ตามมาคงหนีไม่พ้นเรื่องของปัญหาสภาพร่างกายของผู้เล่นแต่ละทีม ซึ่งต้องเจอกับอาการล้าเล่นงานแน่นอน หากบริหารสับเปลี่ยนหมุนเวียนนักเตะภายในทีมไม่ดีพอ
อาจไร้แฟนบอลเข้าสนามทั้งซีซั่น
หากโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยกลับมาลงสนามกันเร็วกว่ากำหนดเดิม อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากังวลไม่แพ้กันก็คือ แฟนบอลจะสามารถเดินทางเข้าชมเกมในสนามได้หรือไม่
โดยตอนนี้หากการแข่งขันฟุตบอลกลับมาลงสนามกันอีกครั้ง ทางฝั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศบค.) อนุญาตให้มีบุคลากรเข้าสนามได้ไม่เกิน 250 คนเท่านั้น และยังต้องแข่งกันแบบไม่มีคนดูในสนาม
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย กลับมารุนแรงอีกครั้งหรือยังไม่สามารถการันตีความปลอดภัยได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นไปได้ว่าศึก โตโยต้า ไทยลีก 2020 อาจต้องแข่งขันกันจนจบซีซั่นแบบไม่มีแฟนบอลเข้าชมเกมเลยก็เป็นได้
ส่งผลกระทบกับทีมชาติ
อีกหนึ่งประเด็นที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือเรื่องผลกระทบกับทีมชาติไทย อย่างที่รู้กันดีลูกทีม อากิระ นิชิโนะ มีโปรแกรมที่ต้องลงสนามเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 3 นัดสุดท้ายในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน พบกับ อินโดนีเซีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ มาเลเซีย รวมไปถึงโปรแกรมการแข่งศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ช่วงเดือนธันวาคม
หากว่าแมตช์การแข่งขันในลีกลงเตะกันแบบอัดแน่นอนจนเกินไป แน่นอนว่าอาจเกิดปัญหาใหญ่กับทัพ “ช้างศึก” แน่นอน โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาที่จะใช้สำหรับการเก็บตัว และสภาพร่างกายของนักเตะแต่ละคนที่จะถูกเรียกเข้ามาติดทีม
อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นมืออาชีพของทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชชาวญี่ปุ่น และสมาคมกีฬาฟุตบอลเเห่งประเทศไทย เชื่อมั่นได้เลยว่า ปัญหาดังกล่าวจะสามารถหาทางออกที่ดีได้แน่นอน
กลับมาเตะตามปฏิทินฟุตบอลเอเชีย
หากศึก โตโยต้า ไทยลีก 2020 กลับมาลงเตะจนจบซีซั่นภายในปีนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่ลีกบ้านเราจะยังคงจัดการแข่งขันตามรูปแบบปฏิทินฟุตบอลเอเชียต่อไป ซึ่งถือเป็นเป็นผลดีหลายด้านเลยทีเดียว
โดยเฉพาะในเรื่องของตารางการแข่งขัน ซึ่งหากลงเตะกันแบบข้ามปีเหมือนที่เคยวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ โปรแกรมศึกไทยลีก จะชนกับตารางจัดการแข่งขันหลายทัวร์นาเมนต์ของทั้งระดับเอเชีย และอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น เอเชียน คัพ, เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รวมไปถึง ซีเกมส์ ซึ่งมักจะลงเตะกันช่วงปลายปีต่อไปจนถึงต้นปี
ทว่าหากการแข่งขันกลับมาลงเตะกันแบบเดิม และศึกไทยลีก เริ่มออกสตาร์ทซีซั่นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนปิดฤดูกาลเดือนตุลาคม เหมือนกับอีกหลายๆ ลีกของเอเชีย ปัญหาดังกล่าวก็จะหมดลงไปทันที
มีเวลาเตรียมทีมเตะบอลสโมสรเอเชีย
นอกจากโปรแกรมการแขง่ขันลีกได้กลับมาลงเตะกันรูปแบบเดิมแล้ว หากศึกไทยลีก ลงเตะกันจนจบซีซั่นในปีนี้ บรรดาสโมสรที่ได้สิทธิ์ลุยศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า จะมีเวลาเตรียมทีมมากพอสำหรับลงเล่นรายการดังกล่าวช่วงเดือนกุมภาพันธ์
อย่างที่รู้กันดีฤดูกาล 2020 สโมสรจากไทยลีก จะได้โควต้าลุยศึกฟุตบอลสโมสรเอเชียถึง 4 ทีม แบ่งเป็นเข้ารอบแบ่งกลุ่มอัตโนมัติ 2 ทีม และลงเล่นรอบเพลย์ออฟ 2 ทีม ซึ่งแน่นอนว่าทีมเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อมพอสมควร ก่อนที่พวกเขาจะต้องลงทำศึกหนักเผชิญหน้ากับสุดยอดทีมทั่วทั่งเอเชีย
ทว่าหากศึกไทยลีก 2020 แข่งขันจนจบซีซั่นช่วงธันวาคม นั่นแปลว่าบรรดาสโมสรที่ได้สิทธิ์ลงเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 จะมีเวลาเตรียมความพร้อมอย่างน้อย 2 เดือนเต็มๆ เลยทีเดียว แต่หากยังคงแข่งขันตามรูปแบบเดิม คงเป็นงานหนักของแต่ละสโมสรพอสมควรกับการต้องเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลถ้วยเอเชีย ไปพร้อมกับลงเตะเกมลีกที่มีโปรแกรมอัดแน่นตลอดทั้งฤดูกาล
แฟนบอลได้ดูบอลเร็วขึ้น หลังรอมานานกว่า 5 เดือน
นี่คือสิ่งที่แฟนเรียกร้องและปราถนามากที่สุดเลยก็ได้ กับการที่พวกเขาจะได้กลับมาชมเกมการแข่งขันศึกฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองกันอีกครั้ง หลังโปรแกรมลงสนามจำเป็นต้องถูกพักเบรคไว้ชั่วคราวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องด้วยวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตามหากศึก โตโยต้า ไทยลีก 2020 คัมแบ็คสนามช่วงเดือนสิงหาคมนี้ คงสร้างความสุขให้กับแฟนบอลไม่น้อยเลยทีเดียว ที่จะได้ดูเกมการแข่งขันเร็วกว่ากำหนดเดิมเดือนกันยายน และได้ชมเกมแบบอัดแน่นไปจนกระทั่งจบซีซั่นช่วงสิ้นปีเลยทีเดียว