ประธานาธิบดีทรัมป์มองการประท้วงในศึกยัดห่วงจะส่งผลเสียต่อวงการบาสและกีฬามากมาย
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มองว่ากิจกรรมทางการเมืองที่ เอ็นบีเอ มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องด้วยจะเป็นสิ่งที่ทำลายวงการบาสเกตบอล และกีฬาชนิดอื่นๆ
ผู้เล่นเอ็นบีเอในรอบเพลย์ออฟ ได้พร้อมใจกันหยุดการแข่งขันตั้งแต่ช่วงคืนวันพุธที่ผ่านมาเพื่อทำการประท้วงเรื่องเหยียดผิวขึ้นอีกครั้ง หลังจากตำรวจใช้ปืนไล่ยิงชายผิวสีจนบาดเจ็บสาหัสที่เมืองคีโนชา รัฐวิสคอนซิน ส่งผลให้การแข่งขันในวันต่อมาต้องถูกยกเลิก ก่อนที่จะกลับมาแข่งกันต่อในวันเสาร์นี้
ท่ามกลางปัญหาต่างที่ถาโถมเข้ามาในยุคที่ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกตั้งผู้นำแดนมะกันในสมัยหน้าด้วย แต่ถึงอย่างนั้น นักการเมืองวัย 74 ปี ก็มองว่าการประท้วงดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีต่อกีฬาเลยแม้แต่น้อย
“ผมคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำกับเอ็นบีเอโดยเฉพาะแบบนี้ คือการทำลายบาสเกตบอล” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวแอร์ฟอร์ซวัน พร้อมระบุว่านี่คือส่งผลเสียต่อเอ็นบีเอ ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่าแฟนไม่ต้องการพบเรื่องการเมืองเมื่อพวกเขาเข้ามาชมกีฬากัน
“มันแย่มากสำหรับ เอ็นบีเอ และมันจะพิสูจน์ได้ว่าแย่มากๆ สำหรับฟุตบอล”






