“แดร์ คลาสสิเคอร์” ภาคแรกซีซั่นนี้จบลงด้วยชัยชนะของ บาเยิร์น หลังคมกว่าบุกมาชนะ ดอร์ทมุนด์ คาบ้าน 3-2
ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563 เป็นเกมบิ๊กแมตช์ “แดร์ คลาสสิเคอร์” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับ 3 ที่มี 15 คะแนน เปิดสนามซิกนัล อิดูน่า รับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค ทีมรองจ่าฝูงที่มีแต้มเท่ากัน
เกมนี้ ลูเซียง ฟาฟร์ กุนซือ เสือเหลือง จัดทีมชุดใหญ่หลังได้ มาร์โก้ รอยส์ และ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ หายเจ็บกลับมา โดยแนวรุกมี เจดอน ซานโช่ กับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นตัวทีเด็ด ด้าน ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ เสือใต้ ไม่มี นิคลาส ชูเล่ ที่ติดโควิด-19 ทำให้ เจโรม บัวเต็ง ได้จับคู่เซนเตอร์กับ ดาวิด อลาบา ส่วนแนวรุก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นตัวความหวังเหมือนเดิม
เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันทันที แต่กว่าจะมีประตูแรกต้องรอถึงนาทีสุดท้าย ราฟาเอล เกร์เรโร่ เติมเกมสุดมาเกือบสุดเส้นก่อนปาดเข้ากลางไปให้ รอยส์ ได้ยิงเน้นๆ เข้าประตูไป 1-0 ทว่าช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาที่่ 4 เสือใต้ ก็มาทวงคืนได้จากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ มุลเลอร์ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ อลาบา วิ่งมายิงเข้าไป ทำให้จบ 45 นาทีเสมอกัน 1-1
กลับมาครึ่งหลังได้ 3 นาที บาเยิร์น มาพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 ลูกัส แอร์กน็องเดซ เปิดบอลจากซ้ายไปให้ เลวานดอฟสกี้ โฉบมาโขกได้ก่อน ฮุมเมิ่่ลส์ ส่งบอลผ่านมือ บูร์กี้ เสียบเสาไกลเข้าไป เท่านั้นไม่พอนาที 80 ทีมเยือนเล่นเกมโต้กลับเร็ว เลวานดอฟสกี้ จ่ายบอลให้ ซาเน่ ตัวสำรองที่อยู่ในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนแตะเข้าซ้ายยิงเสียบเสาอย่างเด็ดขาดส่งสกอร์ไหลเป็น 3-1
ดอร์ทมุนด์ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ถัดมา 3 นาที เกร์เรโร่ แบ็กซ้ายงัดบอลข้ามแนวรับไปให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ไม่ล้ำหน้าเกี่ยวบอลลงก่อนแตะหนี นอยเออร์ ก่อนตวัดยิงลอดตัวผู้รักษาประตูทำสกอร์ไล่มาเป็น 2-3 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เลวานดอฟสกี้ ยิงแฉลบ เบลลิงแฮม กระดอนข้ามหัว บูร์กี้ เข้าไปซุกก้นตาข่ายทว่าไม่ได้ประตูเพิ่มเนื่องจากถูก VAR จับล้ำหน้าไปก่อน ทำให้จบเกม บาเยิร์น บุกมาชนะ ดอร์ทมุนด์ สุดมันส์ 3-2 มีเพิ่มเป็น 18 คะแนน แซง ไลป์ซิก กลับมาเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
