เพลย์เมกเกอร์เรือใบสีฟ้าเชื่อมีการเปลี่ยนกฏแฮนด์บอลมากเกินไปในวงการลูกหนัง
เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มองว่าการเปลี่ยนแปลงกฏแฮนด์บอลในปัจจุบัน สร้างความสับสนให้กับผู้เล่น หลังเกมที่ทีมของเขาบุกไปพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในกมดังกล่าว เรือใบสีฟ้า ต้องหัวเสียกับคำตัดสินไม่น้อย เมื่อลูกยิงตีเสมอของ อายเมริค ลาปอร์ต ในครึ่งเวลาแรก ถูกริบคืน เนื่องจาก ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินในเกมนั้นที่ใช้ VAR ย้อนหลังมองว่า กาเบรียล เฆซุส กองหน้าซิตี้ทำแฮนด์บอลในจังหวะก่อนทำประตู
ผู้เล่นหลายคนในฤดูกาลนี้ต้องปรับตัวกับกฏแฮนด์บอล หลังถูกตัดสินเป็นลูกแฮนด์บอล แม้จะไม่เจตนา และแขนของพวกเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสบอลได้เลย และ เดอ บรอยน์ ก็ระบายถึงความสับสนดังกล่าวหลังเกมเมื่อคืนวานนี้
“ผมไม่รู้กฎอีกต่อไปแล้วจริง ๆ ผมเคยคิดว่าถ้ามันอยู่เหนือแขนขึ้นไป มันจะไม่ใช่แฮนด์บอลอีกต่อไปเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกฎ” กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยม กล่าวพร้อมเอามือชี้ที่แขนเสื้อของตน
“เราจะพูดอะไรได้ล่ะ? ผมเล่นฟุตบอลอาชีพมานาน 12 ปี และ 9 ปีแรกก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฏ แต่ 3 ปีหลังสุดมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ผมก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
ทั้งนี้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานยูฟ่า ได้ร้องขอ ฟีฟ่า ให้เปลี่ยนกฏแฮนด์บอลดังกล่าว โดยระบุว่าการตีความในปัจจุบันนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจและไม่สบายใจมากขึ้นในการแข่งขันกีฬา