ย้อนรอย 5 แมตช์แห่งความทรงจำ “ผีแดง-บาร์ซ่า” บนเวทียุโรป

 

ศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า ถูกลิขิตให้ต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งนี่ถือเป็นการพบกันครั้งที่ 11 แล้วในแมตช์อย่างเป็นทางการของ ยูฟ่า และเพื่อเป็นการโหมโรงก่อนการปะทะกันที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในค่ำคืนนี้ เราจึงได้คัด 5 เกมที่น่าจดจำในการดวลกันระหว่างทั้งสองทีมมาให้ได้ชมกัน

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 บาร์เซโลน่า

คัพ วินเนอร์ส คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง

21 มีนาคม 1984

 

ก่อนที่ฟุตบอลสโมสรยุโรปจะมีเพียง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับ ยูโรปา ลีก อย่างทุกวันนี้ ครั้งหนึ่งการชิงชัยในระดับทวีปเคยมีการแข่งขันที่ชื่อว่า คัพ วินเนอร์ส คัพ รวมอยู่ด้วย (ถูกยกเลิกหลังจบฤดูกาล 1998-1999 )

 

โดยรายการนี้ จะเป็นการนำเอาแชมป์บอลถ้วยของแต่ละประเทศมาลงแข่งขันกัน ซึ่งในฤดูกาล 1983-1984 แมนฯ ยูไนเต็ด โคจรมาปะทะกับ บาร์เซโลน่า ในรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยในนัดแรกที่ คัมป์ นู เป็น บาร์ซ่า ที่สามารถคว้าชัยไปได้ก่อน 2-0 ทำให้โอกาสเข้ารอบต่อไปของทัพอาซูลกราน่าค่อนข้างสดใสเลยทีเดียว

 

แต่ปีศาจแดงก็ได้ทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อขึ้น เมื่อพวกเขาสามารถกลับมาเอาชนะ บาร์ซ่า ที่นำมาโดยโคตรแข้งอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า ได้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-0 ด้วยประตูจาก แฟรงค์ สเตเปิลตัน และ ไบรอัน ร็อบสัน ที่ทำไปคนเดียว 2 ลูก ส่งผลให้พลพรรคอสูรเป็นฝ่ายพลิกสถานการณ์เข้าสู่รอบถัดไปได้สำเร็จ ด้วยสกอร์รวม 3-2

 

อย่างไรก็ตาม สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องมาจอดป้ายในรอบรองชนะเลิศ หลังพวกเขาพ่ายให้กับยักษ์ใหญ่แห่ง กัลโช่ เซเรียอา อย่าง ยูเวนตุส ด้วยผลรวม 3-2 เช่นกัน

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-3 บาร์เซโลน่า

ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

16 กันยายน 1998

 

แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า ถูกจับลงมาอยู่ด้วยกันในรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 1998-1999 โดยการดวลกันครั้งแรก เกิดขึ้นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด และก็เป็น ไรอัน กิ๊กส์ กับ พอล สโคลส์ ที่ทำคนละประตู ช่วยให้ปีศาจแดงขึ้นนำ บาร์ซ่า ไปก่อนถึง 2-0 ในช่วงครึ่งแรก

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกมผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง อาซูลกราน่าก็มาไล่ตีเสมอได้สำเร็จ จากประตูของ ซอนนี่ แอนเดอร์สัน และ โจวานนี่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เดวิด เบ็คแฮม ก็โชว์ลูกฟรีคิกอันเป็นเครื่องหมายการค้า ทำให้ ยูไนเต็ด ออกนำอาคันตุกะจากแดนกระทิงอีกครั้ง

 

แต่ในช่วง 20 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน บาร์ซ่า ก็มาได้ลูกโทษที่จุดโทษ หลัง นิคกี้ บัตต์ ดันแย่งงาน ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ด้วยการเอามือปัดบอลไม่ให้เข้าประตู ซึ่งก็แน่นอน เจ้าตัวโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปตามระเบียบ และเป็น หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่จัดการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่พลาด ก่อนที่ศึกยกแรกจะจบลงไปแบบสุดมันส์ 3-3

 

 

บาร์เซโลน่า 3-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

25 พฤศจิกายน 1998

 

การกลับมาแข่งขันกันที่ คัมป์ นู ในนัดที่สอง ถือเป็นเกมที่กดดันมากสำหรับ บาร์เซโลน่า เพราะพวกเขาจำเป็นต้องชนะในนัดนี้เพื่อโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ส่วนทางด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ขอเพียงแค่ผลเสมอก็จะได้ไปต่อ

 

ซึ่ง บาร์ซ่า ก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม หลัง ซอนนี่ แอนเดอร์สัน ยิงประตูให้ทีมออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีแรก แต่ ยูไนเต็ด ก็ไม่ยอมให้เจ้าถิ่นสมหวังง่ายๆ เมื่อ ดไวท์ ยอร์ค ตามตีเสมอให้กับผู้มาเยือนได้สำเร็จ ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์ 1-1

 

เริ่มเกมมาในครึ่งหลัง ฝั่งปีศาจแดงมาได้ประตูออกนำบ้าง จากการประสานงานอันยอดเยี่ยมของคู่หู ยอร์ค-โคล ก่อนที่รายหลังจะเป็นผู้สังหารเข้าไป แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ สกอร์ก็กลับมาเท่ากัน หลัง ริวัลโด้ ปั่นฟรีคิกเข้าประตูไปชนิดยักษ์เดนส์ได้แต่ป้องกันด้วยสายตา

 

อย่างไรก็ตาม ยอดทีมจากแคว้นคาตาลันก็ต้องเหงื่อตกอีกรอบ เมื่อ ยอร์ค มาทำประตูที่สองของตัวเอง ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แซงนำอีกหน แต่ บาร์ซ่า ก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน และมาได้ประตูตีเสมอเป็น 3-3 ซึ่งคราวนี้เป็นทีของ ริวัลโด้ บ้างที่กดเบิ้ลให้กับตัวเอง จากลูกยิงตีลังกายิงสุดสวย

 

แต่สุดท้ายเกมก็จบลงตรงนี้ บาร์เซโลน่า ทำภารกิจไม่สำเร็จ และต้องอกหักตกรอบไป ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ภายหลังพวกเขาได้กลับมาเยือนที่สนามแห่งนี้อีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมสร้างปาฏิหาริย์พลิกชนะ บาเยิร์น มิวนิค ได้ 2-1 จนกลายเป็นหนึ่งในตำนานแห่งการคัมแบ็คที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนัง

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 บาร์เซโลน่า

ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกสอง

29 เมษายน 2008

 

การที่ แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า โคจรมาเจอกันในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2007-2008 นับว่าเป็นการปะทะกันที่ถูกเวลาพอดี เพราะทั้งสองทีมกำลังอยู่ในช่วงพีคของตัวเอง

 

ปีศาจแดงกลับออกมาจาก คัมป์ นู ด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์ในเกมแรก ทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบเล็กน้อยในการเจอกันเกมสองที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด และ พอล สโคลส์ ก็ถูกกำหนดให้เป็นฮีโร่ในนัดนี้ เมื่อเขาจัดการยิงไกลสุดสวยเป็นประตูชัยส่งปีศาจแดงผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศที่มอสโก ก่อนที่ต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 3 ไปครอง หลังเอาชนะ เชลซี ในการดวลเป้าชี้ขาดแบบสุดระทึก

 

https://www.youtube.com/watch?v=gONVtjHfYpA

 

บาร์เซโลน่า 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ

28 พฤษภาคม 2011

 

สามปีให้หลังนับตั้งแต่ที่ บาร์เซโลน่า คว้าชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ที่กรุงโรมเมื่อปี 2009 ปีศาจแดงก็ได้โอกาสกลับมาแก้มืออีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ โดยมี เวมบลีย์ เป็นสังเวียนล้างตา

 

ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทัพอาซูลกราน่าเปรียบเสมือนทีมที่มาจากนอกโลกอย่างแท้จริง และก็เป็น เปโดร ที่มาทำประตูให้ บาร์ซ่า ออกนำไปก่อน แต่ ยูไนเต็ด ก็สามารถตามตีเสมอได้สำเร็จจาก เวย์น รูนี่ย์ ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์ 1-1

 

โดยในครึ่งหลัง ขณะที่ปีศาจแดงอาจกำลังมองไปถึงการได้ฉลองชัยในดินแดนที่เป็นบ้านของตัวเอง ลิโอเนล เมสซี่ ก็จัดการดับฝันดังกล่าว เมื่อเจ้าตัวซัดไกลนอกกรอบให้เจ้าบุญทุ่มแซงนำอีกครั้ง และทุกอย่างก็จบลงอย่างสมบูรณ์ หลัง ดาบิด บีย่า กดประตูตอกฝาโลง ช่วยให้ บาร์เซโลน่า เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ 3-1 พร้อมรับถ้วยบิ๊กเอียร์สมัยที่ 4 ไปครอง

 

https://www.youtube.com/watch?v=CuVpb_ufUCE