คาบัคปล่อยของ! เลสเตอร์เร่งเครื่องรัวแซง หงส์ ท้ายเกม 3-1

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

 

เริ่มเกมมานาทีที่ 10 หงส์แดงพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายจากจังหวะ เปิดบอลยาวของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางจากแนวหลังมาให้กับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปแต่จับบอลพลาดกลายเป็นยิงหลุดกรอบออกไป

 

ถัดมานาทีเดียว เลสเตอร์ ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ พาบอลขึ้นมา ก่อนยกบอลข้ามแนวรับ หงส์แดงมาให้กับ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดมาพยายามยกบอลข้ามหัว อลิสซอน แต่บอลข้ามคานออกไป

 

นาทีที่ 19 หงส์แดงได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทงบอลให้กับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ หลุดมายกบอลไปตรงกลางให้กับ ซาดิโอ มาเน่ วิ่งมาชาจจ่อๆ แต่ก็ยังแฉลบ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ลออกไป

 

นาทีที่ 25 โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ พยายามแทงบอลทะลุช่องให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หลุดไปพยายามเปิดให้กับ ซาดิโอ มาเน่ แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังออกมาสกัดออกไปได้ ถัดมานาที 35 เลสเตอร์ ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เปิดบอลเข้าไปด้านในให้กับ เจมี่ วาร์ดี้ ขึ้นโขกจ่อๆ แต่ก็ตรงตัวของ อลิสซอน เบ็คเกอร์

 

นาที 38 ลิเวอร์พูลได้โต้กลับมา บอลไปถึง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เติ่มขึ้นมาได้ลองซัดบอลแฉลบ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนจบครึ่งแรกนาทีที่ 41 เจมี่ วาร์ดี้ ได้บอลหลุดมาดวลเดี่ยวกับ อลิสซอน แต่ดันยิงไปชนคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยผลสมอ 0-0

 

เริ่มครึ่งหลังมานาทีที่ 66 หงส์แดงขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ เทรนท์ เปิดบอลมาให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ตอกส้นให้กับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ซัดบอลเข้าไปอย่างสวยงามส่งทีมเยือนขึ้นนำไปได้ก่อน 1-0

 

นาที 78 เลสเตอร์ ได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะฟรีคิกของ เจมส์ แม็ดดิสัน ซัดบอลเข้าไปอย่างสวยงาม แม้ในตอนแรกผู้ตัดสินจะเป่าเป็นลูกล้ำหน้าแต่สุดท้ายทาง VAR ก็ให้เป็นประตูจนได้ สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

 

ถัดมานาทีที่ 81 เจ้าบ้านก็มาได้ประตูแซงนำจากจังหวะที่ โอซาน คาบัค และ อลิสซอน เบคเกอร์ สื่อสารกันไม่เข้าใจออกมาปะทะกันเองจนโดน เจมี่ วาร์ดี้ ฉกบอลไปซัดโล่งๆทำให้สกอร์กลายเป็น 2-1 ถัดมานาที 83 หงส์แดงเกือบเสียเพิ่มอีกจากจังหวะที่

 

ก่อนจบเกมนาที 84 เลสเตอร์ นำห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอพลาดโดนตัดไปได้และเป็น วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ แทงบอลไปให้กับ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หลุดไป ซัดบอลผ่านมืออลิสซอนไปได้เป็นประตูปิดกล่อง 3-1 และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้ ส่งให้เลสเตอร์ ขยับขึ้รองจ่าฝูงมี 46 แต้ม ส่วน ลิเวอร์พูลยังงอยู่ที่ 4 มี 40 แต้ม

 

นักเตะที่ลงสนาม

 

เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ดาเนียล อมาร์ตีย์ , จอนนี่ อีแวนส์, ชากลาร์ โซยุนชู, ริคาร์โด้ เปไรร่า – มาร์ก อัลไบรจ์ตัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูรี ตีเลอมันส์ , เจมส์ แม็ดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้

 

สำรอง: อโยเซ่ เปเรซ(74) , ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้ (87) , น็อมปาลิส เมนดี้(90)

 

ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – เจมส์ มิลเนอร์ , เคอร์ติส โจนส์ , จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่

 

สำรอง: ติอาโก้ อัลคัลทาร่า (16) , อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์ลิน (75) , เซอร์ดาน ชากิรี่(87)