ยังคงสู้กันสนุกเช่นเคยสำหรับภาค 3 การพบกันระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ สเปอร์ส หลังเพิ่งดวลแข้งกันมาในฟุตบอลยุโรป และเป็น “ไก่เดือยทอง” ที่ได้เฮฉลุยสู่รอบรองฯ
ทว่าการดวลแข้งในเวอร์ชั่นพรีเมียร์ลีกเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่าเก็บ 3 แต้มสำคัญไปได้สำเร็จ ซึ่งตลอด 90 นาทีมีอะไรน่าสนใจที่ต้องหยิบมา “เก่งหลังเกม” บ้างไปทัศนากันเลย
1.เรือใบไม่ออกทะเล
การกระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คือที่สุดความชอกช้ำใจของพลพรร “ซิติเซน” เพราะนับเป็นปีที่ 3 แล้วที่พวกเขาไปไม่ถึงรอบ 4 ทีมภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
หลายฝ่ายจับตาถึงสภาพจิตใจของนักเตะ แมนฯ ซิตี้ ว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องกลับมาสู้ต่อในลีก จะหลุดฟอร์มออกทะเลหรือไม่ ในเมือคู่แข่งนัดนี้คือ สเปอร์ส ที่เพิ่งจมเรือพวกเขาในน่านน้ำยุโรปมาแบบหมาดๆ
ทว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พิสูจน์ให้เห็นถึง “กึ๋น” ของยอดกุนซือนั้นเป็นอย่างไร เขาปลุกกำลังใจลูกทีมได้อย่างกับเป็นจอมขมังเวท นักเตะ “เรือใบ” วิ่งสู้ฟัดและเก็บ 3 แต้มสำคัญขึ้นไปสูดอากาศบนยอดตารางอีกครั้งได้ตามเป้าหมาย
2.ไก่จ้าไม่คมเอง
แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เหมือนกับเกมเลกที่ 2 ในศึกยูซีแอล ทว่ารูปเกมโดยรวมเอาจริงๆ ต้องบอกว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ วางแท็กติกมาสู้ได้ดี และมีบางช่วงที่เรียกว่า “เข้าตากรรมการ” มากกว่าด้วยซ้ำ
แม้จะเสียประตูเร็ว แต่ สเปอร์ส ก็สร้างโอกาสตีเสมอได้อยู่หลายครั้ง การไม่รับลึกเกินไป ทำให้ไม่ต้องเสียระยะทางในการเล่นเกมสวนกลับ ซึ่งพวกเขาทำได้ดีทั้งไลน์การวิ่ง และความแม่นในการจ่ายบอล
การโจมตีไปยังพื้นที่ว่างระหว่างคู่เซนเตอร์ได้ผลเป็นอย่างดีทั้ง จอห์น สโตนส์ และ อายเมริก ลาปอร์กต์ มีหลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง น่าเสียดายที่วันนี้พวกเขาไม่คมพอที่จะเอาชนะ เอแดร์ซอน ที่วันนี้อ่านเกมเยี่ยมเหลือเกิน
Clear penalty on Bernardo Silva from Vertonghen
كالعادة مافي شي جديد السيتي ينافس ليفربول و التحكيم هالموسم pic.twitter.com/v0NhsIIaBT
— Mustafa? (@mustafaa_MCFC) 20 เมษายน 2562
3.คิดถึง VAR
จังหวะประตูที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงเข้าไปในนาทีสุดท้ายของเกมยูซีแอล ยังคงติดตาและฝั่งใจคนลูกหนังไปทั่วโลก เพราะมันคือช็อตดราม่าที่ถูกประกาศิตจากเทคโนโลยี “VAR” ที่ชี้ให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องตกรอบ 8 ทีม
ทว่าในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ใช้งาน ทำให้ทุกอย่างยังอยู่ที่ดุลพินิจของ “ท่านเปา” แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเกมระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ สเปอร์ส ในเวอร์ชั่นบอลลีก ก็ยังมีลูกปัญหาให้ต้องถกหลังไมค์กันอีกครั้ง
ทั้งจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โดน แยน แฟร์ทองเก้น หวดล้มในเขตโทษ หรือจังหวะที่ เดเล่ อัลลี่ พยายามจะฟ้องแฮนด์บอล ไคล์ วอล์คเกอร์ หากวันนี้ EPL อนุมัติ VAR ผ่านมาแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า 2 ช็อตนี้จะเป็นอย่างไร อาจพลิกโฉมของผู้ชนะในเกมนี้เลยก็เป็นได้
4.”เป๊ป” เจ้าพ่อบิ๊กแมตช์
แม้จะยังเหลือเกมเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งอาจจะเป็นเกมสำคัญที่ชี้ชะตาว่า แมนฯ ซิตี้ จะดีพอคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้หรือไม่
ทว่าหากเปรียบเทียบมินิลีกของทีมท็อปซิกซ์ด้วยกันในฤดูกาลนี้ ต้องบอกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือเบอร์ 1 อย่างไม่ต้องสงสัย หลังพาทีมเก็บไปแล้วถึง 22 คะแนนจากชัยชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 1
ผิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มเจอทีมใหญ่สุดบู่เพิ่งมีเพียง 6 คะแนน ส่วน สเปอร์ส ที่เพิ่งแพ้วันนี้ดีกว่าแค่คืบเดียวเพราะมีอยู่ 7 คะแนนในมินิลีกท็อปซิกซ์
5.ระวังคว้าน้ำเหลว
การทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ ถามเบื้องต้นว่า สเปอร์ส ประสบความสำเร็จแล้วหรือยังในฤดูกาลนี้ ?
หากไม่อคติกันเกินไป คงตอบได้เกือบเต็มปากว่าลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ทำผลงานได้เกินคาดไปเยอะเลย
อย่างไรก็ตามมันคือ “สมมติ” ที่วัดผลแค่ ณ จุดนี้ เพราะเอาจริงๆ แล้วคงต้องรอจบฤดูกาลก่อน ถึงจะฟันธงได้อย่างจริงจังว่าเป็นอย่างไร
เพราะในมุมตรงกันข้าม หากพวกเขาไม่ได้แชมป์ยูซีแอล และจับพลัดจับผลูชวดท็อปโฟร์ด้วย มันก็คงไม่ต่างอะไรกับการคว้าน้ำเหลวเหมือนฤดูกาลที่ผ่านๆ มา
งานนี้ โปเช็ตติโน่ ต้องคิดดีๆ จะเน้นอะไรกันแน่ จับปลาสองมือไม่ดีแน่นอน