ในที่สุด กลาสโกว เรนเจอร์ส ก็กลับมาคว้าแชมป์ สก็อตติช พรีเมียร์ลีก ได้ฤดูกาล 2020-21 อย่างเป็นทางการ กลายเป็นแชมป์ลีกสมัยแรกของพวกเขาในรอบ 10 ปี แต่ที่สำคัญยังเป็นการหยุด เซลติก คู่อริตลอดกาลทำสถิติคว้าแชมป์ลีก 10 สมัยติดอีกด้วย
ตำแหน่งแชมเปี้ยนในฤดูกาลนี้ของ เรนเจอร์ส มีความหมายต่อแฟนๆ มาก หลังจากที่พวกเขา ต้องหล่นไปเล่นลีกล่างในปี 2012 เนื่องจากปัญหาด้านการเงิน ก่อนเพิ่งหวนคืนสู่ลีกสูงสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และต้องใช้เวลาอีกเกือบ 4 ปี ก้าวจะกลับมาคว้าแชมป์ลีกแดนวิสกี้ได้อีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกองกลางตำนานแฟนลิเวอร์พูล
ครั้งล่าสุดที่ เรนเจอร์ส คว้าแชมป์รายการนี้มาครองก็คือ ฤดูกาล 2010-11 ในยุคที่ วอลเตอร์ สมิธ พาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 54 ของสโมสร ซึ่งเป็นช่วงเวลา 1 ปีก่อนประสบปัญหาการเงิน ก่อนที่นักเตะตัวหลักหลาย ๆ คน เลือกย้ายไปค้าแข้งในต่างแดนหลังจบฤดูกาลนั้น หรือในเวลาต่อมา
UFA ARENA จึงขอพาไปย้อนรอยเหล่าแข้ง เรนเจอร์ส ชุดแชมป์ลีกสก็อตแลนด์ เมื่อ 10 ปี ว่ายอดเยี่ยมแค่ไหนในช่วงเวลานั้น รวมถึงชีวิตในปัจจุบันของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร
ผู้รักษาประตู | อัลลัน แม็คเกรเกอร์
อายุ : 39
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 413 นัด
สโมสรปัจจุบัน : เรนเจอร์ส
นายด่านชาวสก็อตทำผลานได้โดดเด่นไม่แพ้ใครในฤดูกาล 2010-11 เมื่อเก็บคลีนชีทได้ถึง 22 นัด ซึ่งหนึ่งในนัดคือเกมพบกับ เชลติก ที่ช่วยป้องกันจุดโทษของ จอร์จอส ซามาราส ได้ในเดือนเมษายน ทำให้ทีมเสมอ 0-0 แบ่งแต้มสำคัญไปได้ ก่อนจะคว้าแชมป์ในบั้นปลายด้วยการเฉือน ‘ม้าลายขายเขียว’เพียงแต้มเดียว
หลังคว้าแชมป์กับ เรนเจอร์ส ก็ย้ายไปเล่นให้กับ เบซิคตัส, ฮัลล์ ซิตี้ และช่วงสั้น ๆ กับ คาร์ดิฟฟ์ ก่อนจะกลับมาถิ่น ไอบรอกซ์ สเตเดี้ยม อีกครั้งในปี 2018 พร้อมเป็นนายทวารมือหนึ่งช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลล่าสุดด้วย
แบ็คขวา | สตีเว่น วิทเทกเกอร์
อายุ : 36
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 209 นัด
สโมสรปัจจุบัน : ดันเฟิร์มลิน
สตีเว่น วิทเทกเกอร์ กลายเป็นแบ็คขวาที่มาแทนที่ อลัน ฮัตตัน ที่ย้ายไป สเปอร์ส ในปี 2008 และก้าวขึ้นมาเป็นแบ็คขวาตัวหลักให้กับ เรนเจอร์ส ได้นับตั้งแต่นั้น
เช่นเดียวกับ แม็คเกรเกอร์ หลังคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2011-12 เขาก็อยู่กับทีมอีก 1 ฤดูกาลก่อนที่สโมสรจะตกลงไปเล่นลีกระดับ 3 ของประเทศ ซึ่งทำให้เลือกย้ายทีมไปเล่นกับ นอริช ซิตี้ ในปี 2012 แต่อาการบาดเจ็บที่รบกวนทำให้เขาไม่ใช่ตัวหลักตลอด 5 ปีในถิ่น แคร์โรว โร้ด
หลังจากนั้นในปี 2017 วิทเทกเกอร์ ก็ย้ายกลับมาเล่นในบ้านเกิดกับ ฮิเบอร์เนี่ยน และปัจจุบันก็ยังเล่นอยู่ในลีกสูงสุดแดนวิสกี้กับ ดันเฟิร์มลิน ด้วยวัย 36 ปี
เซ็นเตอร์แบ็ค | เดวิด เวียร์
อายุ : 50
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 214 นัด
สโมสรปัจจุบัน : ไบรท์ตัน (บทบาทที่ปรึกษาแข้งเยาวชน)
แม้อายุอานามจะเกิน 40 ปีไปแล้ว แต่ประสบการณ์ของ เดวิด เวียร์ ก็ช่วยให้ เรนเจอร์ส คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2010-11 มาครอง และเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 3 ที่เขาทำได้รวมกับทีม
ในฤดูกาลนั้น เวียร์ เป็นนักเตะตำแหน่งเอ้าท์ฟิลด์อายุมากสุดเป็นอันดับ 2 ที่ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก รองจาก อเลสซานโดร คอสตาคูร์ต้า ของ เอซี มิลาน
นอกจากนี้ เวียร์ยังเคยเล่นกับ เอฟเวอร์ตัน นานกว่า 8 ปีด้วยกัน ก่อนย้ายกลับมาเล่นในสก็อตแลนด์ บ้านเกิด และแขวนสตั๊ดไปในปี 2012 หลังทีมตกชั้นไปเล่นในลีกร่าง และผันตัวเป็นกุนซือช่วงสั้น ๆ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยปัจจุบัน เขาทำหน้าที่ให้กับคำปรึกษากับนักเตะเยาวชนของ ไบรท์ตัน ที่ถูกปล่อยไปเล่นกับทีมอื่นแบบยืมตัว
เซ็นเตอร์แบ็ค | มาจิด บูเกร์ร่า
อายุ : 38
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 113 นัด
สโมสรปัจจุบัน : แอลจีเรียทีม A (ผู้จัดการทีม)
คู่หูของ เวียร์ ที่เป็นหัวใจในแผงหลังก็คือ มาจิด บูเกร์ร่า กองหลังชาวแอลจีเรีย แต่ก็ปฏิเสธสัญญาใหม่จากสโมสรในปีต่อมา เพื่อย้ายไปเล่นกับ เลควิย่า สโมสรจากาตาร์ในปี 2012 จากนั้นก็ย้ายไปเล่นกับ ฟูไจราห์ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และ อารีส สโมสรจาก กรีซ ก่อนจะปิดฉากอาชีพค้าแข้งในปี 2016
ตลอดเวลา 3 ปีของ แนวรับชาวแอลจีเรีย ในถิ่น ไอบร็อกว์ สเตเดี้ยม เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย ทั้งในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่ ลูกลากเลื้อยโซโล่เดี่ยวยิงใส่ สตุ๊ตการ์ท หรือคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ เกมยันเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังแขวนสตั๊ด บูเกร์ร่า ก็ผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมแบบเต็มตัว โดยในตอนนี้เขาคุมทีม แอลจีเรีย A ซึ่งเป็นฟุตบอลทีมชาติท้องถิ่นของแอลจีเรียเปิดให้เฉพาะผู้เล่นลีกในประเทศเล่นได้เท่านั้น
แบ็คซ้าย | ซาซ่า พาพัค
อายุ : 41
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 227 นัด
สโมสรปัจจุบัน : แขวนสตั๊ด
แบ็คซ้ายชาวบอสเนีย ย้ายจาก ออสเตรีย เวียนนา มาค้าแข้งในสก็อตแลนด์ เมื่อปี 2006 และอยู่กับเรนเจอร์ส เป็นเวลา 6 ปี ก่อนอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบจะทำให้เขาต้องจำใจแขวนสตั๊ดในปี 2012
เดิมที พาพัค เล่นเป็นตำแหน่งกองหลังตัวกลาง แต่ในยุคของ วอลเตอร์ สมิธ ถูกปรับมาเล่นเป็นฟูลแบ็คแบบเต็มตัว และกลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่พาทีมเข้ารอบชิง ยูฟ่า คัพ ในปี 2008 ด้วย
พาพัด อาจไม่ได้มีลีลาการเล่นที่โดดเด่น หรือโชว์ฟอร์มได้ตื่นตาตื่นใจ แต่การทุ่มเทเพื่อทีมเกินร้อยของ แข้งชาวบอสเนีย ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลเรนเจอร์สรักใคร่มากที่สุดไม่เป็นรองใคร
กองกลาง | สตีเว่น เดวิส
อายุ : 36
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 310 นัด
สโมสรปัจจุบัน : เรนเจอร์ส
กองกลางผึ้งงานที่เป็นตัวหลักของ เรนเจอร์ส ชุดแชมป์ลีกเมื่อ 10 ปีก่อนอย่าง สตีเว่น เดวิส ก็ย้ายทีมในปี 2012 เช่นกัน กับ เซาแธมป์ตัน และสร้างชื่อสุด ๆ ในยุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
6 ปีในทีมนักบุญ นอกจากผลงานที่ยอดเยี่ยมในสนามแล้ว เดวีส ยังพาทีมเข้ารอบชิงลีก คัพ ในปี 2017 ด้วย ก่อนจะย้ายกลับมา เรนเจอร์ส อีกครั้งในปี 2019
ในวัย 36 ปี กองกลางชาวไอร์แลนด์เหนือ ก็ยังเป็นตัวหลักในทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และพาทีมคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 10 ปี
กองกลาง | มอริส เอดู
อายุ : 34
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 122 นัด
สโมสรปัจจุบัน : แขวนสตั๊ด
มีไม่กี่คนที่รู้จัก เอดู หลังย้ายมาจาก โตรอนโต้ เอฟซี ในปี 2008 แต่ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในสนาม ทำให้กองกลางจอมบู๊ชาวอเมริกัน เข้ามาอยู่ในใจของแฟน ๆ เรนเจอร์ส ได้อย่างรวดเร็ว
4 ปีที่ กลาสโกว เขาพาทีมกวาดได้ทุกแชมป์ในสก็อตแลนด์ และย้ายไปร่วมทีม สโต๊ค ซิตี้ ในปี 2012 หลัง เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ กุนซือทีมชาติสหรัฐอเมริกา โน้มน้าวให้ โทนี่ พูลิส เซ็นสัญญากับนักเตะรายนี้
ทว่าโชคร้ายที่ เอดู ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งกับทีม ชางปั้นหม้อ ได้ และอยู่กับทีมแค่ 2 ฤดูกาล จากนั้นจึงย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ ฟิลาเดเฟีย ยูเนี่ยน และแขวนสตั๊ดในปี 2017
ปีกขวา | สตีเว่น เนย์สมิธ
อายุ : 34
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 140 นัด
สโมสรปัจจุบัน : ฮาร์ตส์
ลีลาการเล่นของ เนย์สมิธ ในชุดที่คว้าแชมป์ลีกกับ เรนเจอร์ส ที่กดไป 11 ลูก พร้อมคว้าแข้งยอดเยี่ยมของสโมสรไปครองในปี นั้น ทำให้หลายสโมสรจับจ้องในฝีเท้าของเขา ก่อนที่ เอฟเวอร์ตัน จะคว้าเขาไปร่วมทีมในปี 2012
ปีกชาวสก็อตก็ยังทำผลงานได้น่าประทับใจตลอด 123 นัดในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค และเป็น 1 ในนักเตะ 31 คนที่สามารถทำ เพอร์เฟคแฮตทริกได้ในพรีเมียร์ลีกด้วย และย้ายไปเล่นกับ นอริช ในปี 2015 หลังไม่ได้รับโอกาสลงสนามในทีมท็อฟฟี่มากพอ
ทว่าผลงานของ ปีกแดนวิสกี้ ก็ไม่โดดเด่นเท่าเมื่อก่อน แถมต้องตกชั้นหล่นไปเล่นในลีกร่างอังกฤษถึง 1 ปีเต็ม ๆ จากนั้นก็ย้ายกลับมาเล่นในบ้านเกิด ฮาร์ตส์ ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน
ปีกซ้าย | ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้
อายุ : 33
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 162 นัด
สโมสรปัจจุบัน : คิลมาร์น็อค
กับวัยแค่ 33 ปี ปีกชาวไอร์แลนด์เหนือตระเวนค้าแข้งไปแล้วถึง 13 สโมสรทั่วยุโรป แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาคงหนีไม่พ้นตอนที่อยู่กับ เรนเจอร์ส ระหว่างปี 2008–2012 แน่นอน
หลังคว้าแชมป์ลีก 1 ปี ลาฟเฟอร์ตี้ ก็ย้ายไปเล่น ซิยง สโมสรในสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาก็ ปาแลร์โม่ ที่ประสานร่วมกับ เปาโล ดีบาล่า ด้วย จากนั้นก็ชีพจรลงเท้าย้ายไปค้าแข้งทั้งใน อังกฤษ, อิตาลี และ สก็อตแลนด์ วนเวียนอยู่หลายปี
หลังเล่นกับ เรจจิน่า ได้ปีเดียว แข้งวัย 33 ปี ก็ย้ายกลับมาที่ลีกสูงสุดแดนวิสกี้อีกครั้ง และเลือกเล่นกับ คิลมาร์น็อค เมื่อช่วงต้นปี 2021ที่ผ่านมา
กองหน้า | นิกิช่า เยลาวิช
อายุ : 35
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 56 นัด
สโมสรปัจจุบัน : แขวนสตั๊ด
แม้ลงสนามเพียง 23 นัดในฤดูกาล 2010-11 เยลาวิช กลับกดไปถึง 16 นัด และผลงาน 36 ประตูจาก 56 เกมตลอดช่วง 18 เดือนในถิ่น ไอบร็อกซ์ สเตเดี้ยม ทำให้เขาย้ายไป เอฟเวอร์ตัน ในเดือนมกราคมปี 2012 ก่อนที่ เนย์สมิธ เพื่อนร่วมทีมจะย้ายตามที่ กูดิสัน ปาร์ค ในซัมเมอร์ปีเดียวกัน
นอกจาก ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน แล้ว กองหน้าชาวโครแอต ยังได้เล่นกับ ฮัลล์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม ในพรีเมียร์ลีกด้วย แต่ฟอร์มการถล่มประตูของเขาในอังกฤษถือว่าตกลงจากเมื่อก่อนเยอะพอตัว ทำให้ตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรในประเทศจีนในปี 2016 ก่อนจะกลับมาแขวนสตั๊ดกับ โลโคโมทีว่า สโมสรในบ้านเกิดอีก 5 ปีต่อมา
กองหน้า | เคนนี่ มิลเลอร์
อายุ : 41
ลงเล่นให้เรนเจอร์ส : 301 นัด
สโมสรปัจจุบัน : เวสเทิร์น ซิดนี่ย์ วันเดอร์เรอร์ส (ผู้ช่วยโค้ช)
มิลเลอร์คือเจ้าของดาวซัลโวของ สก็อตติช พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2010-11 ที่ซัดไป 21 ประตู จากการลงสนามเพียง 18 นัดเท่านั้น แต่เขาก็เลือกย้ายไปเล่นกับ บูร์ซาสปอร์ ในซัมเมอร์ปี 2011
ต่อมา หอกชาวสก็อตย้ายไปเล่นทั้งใน แชมเปี้ยนส์ชิพ กับ คาร์ดิฟฟ์, แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ ก่อนกลับมา เรนเจอร์ส อีกครั้งเป็นหนที่ 3 ในปี 2014 ก่อนที่อีก 6 ปีต่อมาจะแขวนสตั๊ดกับ พาทริค ทริสเทิ้ล
มิลเลอร์ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนที่เล่นให้กับทั้ง เรนเจอร์ส และ เซลติก 2 สโมสรเบอร์ต้น ๆ ในสก็อตแลนด์ และเป็นนักเตะคนที่ 3 หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้ลงเล่นให้ทั้ง 2 ทีมในศึก โอลด์เฟิร์ม ดาร์บี้ ด้วย
ตัวสำรองที่โดดเด่น
วลาดิเมียร์ ไวส์ แม้จะย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็เป็นปีกตัวสำรองที่มีทีเด็ดพลิกเกมในหลาย ๆ ครั้ง น่าเสียดายที่หลังคว้าแชมป์กับเรนเจอร์ เขาไม่สามารถก้าวเป็นตัวหลักกับ เรือใบสีฟ้า ได้และถูกปล่อยออกจากทีมในเวลาต่อมา
จอห์น เฟล็ค กองหลังจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็อยู่ในเรนเจอร์สชุดคว้าแชมป์ลีกเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งในช่วงนั้นเขายังเป็นดาวรุ่งที่ได้โอกาสลงเล่นในเป็นสำรองส่วนใหญ่ แต่ฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาได้เติบโตจนขึ้นมาโชว์ฝีเท้าในพรีเมียร์ลีกได้เช่นที่หลายเห็นในตอนนี้
นอกจากนี้ เรนเจอร์ส ยังมีตัวสำรองในแดนหน้ายามที่ มิลเลอร์ หรือ เยลาวิช ไม่พร้อม นั่นก็คือ ดาวิด ฮีลลี่ย์ อดีตเด็กปั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ย้ายจาก ซันเดอร์แลนด์ มาร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2012 รวมไปถึง เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ดาวเตะแบดบอยที่ยืมมาจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในช่วงเวลาเดียวกัน
แต่หลังคว้าแชมป์ลีกได้ ทั้งคู่ก็อยู่กับทีมได้ไม่นาน เนื่องจากไม่ใช่ตัวหลักที่โชว์ฟอร์มเข้าตาอยู่แล้ว