ศึกฟุตบอลยูโรรอบ 16 ทีม คู่ระหว่าง ทีมชาติยูเครน พบกับ ทีมชาติสวีเดนที่สนามแฮมป์เดนพาร์ก
เริ่มเกมมาได้แค่ 10 นาที ยูเครนได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ โรมัน ยาเรมชุค ได้ลองยิงแต่ยังติดเซฟของ โรบิน โอลเซ่น ถัดมานาที 18 สวีเดนได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้ลองซัดจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลหลุดเสาออกไป
นาที 27 ยูเครนออกนำไปจนได้จากจังหวะที่ อังเดรย์ ยาโมเลนโก้ ดีดไซด์ก้อยข้ามฝากมาให้กับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ สอดเข้ามาซัดเข้าไปอย่างสวยงามพาทีมออกนำไปได้ก่อน 1-0
นาที 29 สวีเดนเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะฟรีคิกของ เซบาสเตียน ลาร์สสัน แต่ เฮวรี่ บุชชาน ยังปัดทิ้งออกไปได้ ถัดมานาที 31 อังเดรย์ ยาโมเลนโก้ ได้ลองซัดอีกแต่บอลข้ามคานออกไป
ก่อนจบครึ่งแรกนาที 43 สวีเดน มาได้ประตูตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ไหลบอลไปให้กับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ซัดไกลไปแฉลบ อิลย่า ซาบาร์นยี่ เข้าไปทำให้เกมกลับมาเสมอกันที่ 1-1 พร้อมจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มเกมมานาที 53 สวีเดนได้ลุ้นประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ไหลมาให้กับ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ถัดมานาทีที่ 54 ยูเครนสวนมาได้ลุ้นจากจังหวะ อังเดรย์ ยาโมเลนโก้ ตบบอลกลับเข้ากลางมาให้กับ เซอร์เก ซิดอร์ชุค ซัดเต็มข้อแต่บอลยังไปชนเสา นาที 56 สวีเดนได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ไหลไปให้กับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ได้ลองปั่นแต่ก็ยังไปชนะเสา
นาที 65 สวีเดนเกือบได้ประตูนำอีกครั้งจากจังหวะที่ เดยัน คูลูเซฟสกี้ รับบอลเก็บตกจากลูกเตะมุมมา ก่อนจะลองปั่นโค้งเกือบมุดคานแต่โดน เฮวรี่ บุชชาน บินปัดออกไปได้ ถัดมานาที 66 ยูเครนได้สวนกลับมาบ้างแต่ อังเดรย์ ยาโมเลนโก้ ยิงไปตรงตัว โรบิน โอลเซ่น
นาที 68 สวีเดนเกือบได้ประตูนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ได้ลองปั่นสุดสวยจน เฮวรี่ บุชชาน ทำได้แค่มองแล้วแต่บอลดันไปชนคานเด้งออกมา ก่อนจบเกมนาที 89 สวีเดนเกือบได้ประตูชัยจากจังหวะที่ อัลบิน เอ็คดาล ยกบอลข้ามแนวรับมาให้กับ เดยัน คูลูเซฟสกี้หลุดไปยิงแต่ยังโดน อิลย่า ซาบาร์นยี่ เข้ามาบล๊อคไว้ได้ทัน ทำให้จบ 90 นาทีพวกเขาเสมอกัน 1-1 ต้องไปวัดกันที่ช่วงต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาที 98 สวีเดนมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ มาร์คุส ดาเนียลสัน ไปเข้าสกัดหนักใส่ อาร์เตม เบเซดิน ที่เพิ่งลงสนามมาเป็นตัวสำรอง ทำให้เหลือเพียงแค่ 10 คน
ก่อนจบเกมในช่วงดเวลานาทีที่ 121 ยูเครนมาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เปิดบอลเข้ามาให้กับ อาร์เต็ม โดฟบิค ที่ลงมาเป็นสำรองพุ่งมาโหม่งจ่อๆ พาทีมออกนำเป็น 2-1 พร้อมจบเกมด้วยชัยชนะส่งยูเครนเข้ารอบ 8 ทีม ไปพบกับทีมชาติอังกฤษ
นักเตะที่ลงสนาม:
สวีเดน : โรบิน โอลเซ่น – มิคาเอล ลุสติก, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, มาร์คุส ดาเนียลสัน, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน – เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คริสตอฟเฟอร์ โอลส์สัน, อัลบิน เอ็คดาล, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก – อเล็กซานเดอร์ อิซัค, เดยัน คูลูเซฟสกี้
สำรอง: ปิแอร์ เบงท์สสัน (83) , เอมิล คราฟธ์ (83) , โรบิน ไควสัน (97) , มาร์คัส เบิร์ก (97) , วิคเตอร์ คลาสสัน (97) , ฟิลิป เฮลันเดอร์(98)
ยูเครน : เฮวรี่ บุชชาน -โอเล็กซานดร้า คาราวาเยฟ, อิลย่า ซาบาร์นยี่, เซอร์เกย์ คริฟต์ซอฟ , มีร์โคล่า มัตวิเยนโก้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – ไมโคล่า ชาปาเรนโก้, ตาราส สเตปาเนนโก้ เซอร์เก ซิดอร์ชุค- อังเดรย์ ยาโมเลนโก้, โรมัน ยาเรมชุค
สำรอง: รุสลัน มาลินอฟสกี้ (61) , อาร์เตม เบเซดิน (90) , เยฟเฮน มาคาเรนโก (95) , วิคเตอร์ ทซีกานคอฟ (98) , อาร์เต็ม โดฟบิค (105) , โรมัน เบซุส (117)