10 ที่สุดของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018/19

 

รูดม่านปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจบเกมนัดสุดท้ายไปเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นผู้ปาดหน้าลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ไปได้ด้วยผลต่างคะแนนเพียงแต้มเดียว จนใครๆต่างยกให้ฤดูกาลนี้เป็นการลุ้นแชมป์ที่สนุกที่สุดของลีกอังกฤษ

 

นอกจากจะเป็นการลุ้นแชมป์ที่สนุกที่สุดแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่เป็นที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นมาในซีซั่นนี้ และทาง UFA ARENA ก็อยากยกมานำเสนอให้ทุกท่านได้รับชมกัน

 

 

-อลิสซอน-เกป้า ทุบสถิตินายทวารค่าตัวแพงสุดในโลก

นับว่าเป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลไม่น้อย ไม่ใช่แค่บนเวทีพรีเมียร์ลีก กับการคว้าตัวผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล ที่ตัดสินใจไปดึงตัว อลิสซอน เบคเกอร์ มือกาวจากโรม่า ด้วยราคา 66.2ล้านปอนด์ หรือ 72.5ล้านยูโร ทำลายสถิติเดิมของเอแดร์สัน ที่ย้ายมาร่วมทัพแมนฯซิตี้เมื่อฤดูกาล 2017 ที่ราคา 35ล้านปอนด์ หรือ 40ล้านยูโร

 

ถัดมาไม่นาน เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ของเชลซี ก็มาทำลายสถิติของ อลิสซอนในฤดูกาลเดียวกัน ในการย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา มาที่เชลซี โดยที่ทัพสิงห์บลูยอมจ่ายตังค่าฉีกสัญญาสูงถึง 71.6ล้านปอนด์ หรือ 80ล้านยูโร เท่ากับว่าในฤดูกาล 2018/19 มีผู้รักษาประตูค่าตัวแพงสุดในโลกตบเท้าเข้ามาค้าแข้งในเกาะอังกฤษถึง 2คนด้วยกัน

 

 

-เชน ลอง ทุบสถิติยิงเร็วสุดในพรีเมียร์ลีก

ในเกมที่เซาธ์แฮมป์ตัน บุกไปเสมอกับวัตฟอร์ด 1-1 เชน ลอง กองหน้าของฝั่งนักบุญได้ฉวยโอกาสจากจังหวะพลาดของแนวรับเจ้าบ้าน ฉกบอลหลุดเข้าไปชิพข้ามตัวผู้รักษาประตูที่พยายามออกมาปิดมุม ภายในเวลาแค่ 7.69วินาที หลังเสียงนกหวีดเริ่มเกม ทำลายสถิติเดิมของ เล็ดลีย์ คิง อดีตกองหลังสเปอร์ส ที่เคยทำไว้ 9.82 วินาที ในเกมเจอ แบรดฟอร์ด เมื่อปี 2000

 

 

 

 

-ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ แข้งเด็กสุดบนพรีเมียร์ลีก

ในเกมที่ฟูแล่ม บุกไปพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 พวกเขาได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการส่ง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กองกลางดาวรุ่งของทีมลงสนามในนาทีที่ 88 แทน อ็องเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ้ อ็องกิสซ่า ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ด้วยวัย 16ปี 30วัน

 

เอลเลียตต์ เป็นเด็กจากอคาเดมี่ของฟูแล่ม โดยสถิติของเจ้าตัวเป็นการทำลายสถิติเดิมของ แม็ทธิว บริกก์ส ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2007ด้วยวัยเพียง 16ปี 65วัน แถมบริกก์ส ยังเป็นนักเตะของฟูแล่มเหมือนกันในตอนที่สร้างสถิติอีกด้วย

 

 

-แมนยูจบแต้มห่างแชมป์มากสุดในรอบ 45ปี

เป็นเรื่องที่ไม่น่าจดจำเท่าไรสำหรับทีมที่ยิ่งใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่พวกเขาต้องมาจบฤดูกาลในอันดับที่ 6ของตาราง แถมยังส่งท้ายฤดูกาลด้วยการเปิดบ้านแพ้ทีมตกชั้นอย่างคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-0

 

เหนือสิ่งอื่นใดเรื่องที่น่าเจ็บใจที่สุดคือการที่พวกเขาจบฤดูกาลด้วยการมีแต้มห่างจากทีมแชมป์อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง32แต้ม ซึ่งนับเป็นสถิติยอดแย่ในรอบ 45ปี นับตั้งแต่ฤดูกาล 1973/74 ที่เคยมีคะแนนห่างทีมจ่าฝูง 30คะแนน แถมฤดูกาลนั้นเป็นฤดูกาลที่พวกเขาตกชั้นอีกด้วย

 

 

 

-แฟนบอลยกดีล เฟร็ด เป็นดีลยอดแย่สุดในซีซั่น

เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังไม่น้อยสำหรับทัพป๊สาจแดงที่สูญเงินเสริมทัพไปไม่น้อย แถมยังเป็นทีมที่มีนักเตะค่าเหนื่อยสูงสุดในลีกอย่าง อเล็กซิส ซานเชส อยู่ในทีม แต่ก็ไม่สามารถทำผลงานออกมาได้ดีเท่าเม็ดเงินที่สูญไป โดยเฉพาะในรายของ เฟร็ด กองกลางชาวบราซิเลี่ยนที่ย้ายมาจาก ชัคเตอร์โดเนส์ก ด้วยราคาสูงถึง 52ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ แต่ก็โชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง จนเหล่าแฟนบอลต่างโหวตให้เจ้าตัวเป็นดีลที่แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เลยทีเดียว

 

 

-ทั้งลีกยิงประตูรวมกันมากสุดในประวัติศาสตร์

พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018/19นี้ มีสถิติอันน่าสนใจเกิดขึ้นจากการที่มีการยิงประตูรวมกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 1,072ประตู ทุบสถิติเดิมในฤดูกาล 2011/12 ที่มีประตูเกิดขึ้น 1,066ประตู โดยจากสถิติเผยว่า คริสเตียน อิริคเซ่น เป็นคนกดประตูทำลายสถิติจากลูกที่ยิงใส่ เอฟเวอร์ตันนาที 75ของเกม ส่วนคนที่กดประตูที่ 1,072 คือเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ หอกดาวรุ่งจากอาร์เซน่อล ที่ยิงใส่ เบิร์นลี่ย์ในนาที 94

 

 

-นักเตะแอฟริกันคว้าดาวซัลโวร่วมกันครั้งแรก

ซาดิโอ มาเน่ ,โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง 3ดาวเตะจากกาฬทวีป ได้ครองตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกร่วมกัน จากการกดประตูไปคนละ 22ประตู

 

โดยกองหน้าจากทัพปืนโตทำประตูสองประตูช่วยอาร์เซนอลเอาชนะเบิร์นลีย์ไป 3-1 ส่วน มาเน่ ก็กดไปสองประตูส่งลิเวอร์พูลเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 จบฤดูกาลด้วยอันดับรองแชมป์

 

ซึ่งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีนักเตะจากทวีปแอฟริกาคว้ารางวัลดาวซัลโวพร้อมกันสามคนในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แถม ซาลาห์ ยังเป็นนักเตะแอฟริกันคนแรกที่คว้ารางวัลดาวซัลโวได้สองสมัยติดต่อกัน หลังคว้าดาวซัลโวเดี่ยวเมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย

 

 

 

-อาร์โนล ขึ้นแท่นแนวรับแอสซิสต์มากสุดในพรีเมียร์ลีก

ในเกมที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ เป็นคนทำแอสซิสต์ในจังหวะขึ้นนำให้กับทีมโดยการเปิดบอลให้กับ ซาดิโอ มาเน่ ซัดสกอร์ขึ้นนำในนาทีที่ 17 ก่อนที่ครึ่งหลังเจ้าตัวจะมาทำอีกหนึ่งแอสซิสต์จากการครอสบอลสุดสวยให้ดาวยิงเซเนกัลคนเดิมโหม่งบวกประตูเพิ่มไปอีก

 

ส่งผลให้วันเดอร์คิดวัย 20 ปี ทำแอสซิสต์ไปแล้ว 12 ลูก ในซีซั่นนี้ คว้าตำแหน่งนักเตะนักเตะที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดประจำฤดูกาล 2018/2019 พร้อมกับทำลายสถิติการเป็นนักเตะในแนวรับที่แอสซิสต์มากที่สุดในหนึ่งซีซั่นของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แซงหน้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายเพื่อนร่วมทีมซึ่งเป็นคนล่าสุดที่ทำแอสซิสต์ได้ถึง 11 ลูก เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เทียบเท่ากับเลห์ตัน เบนส์ และ แอนดี้ ฮินช์คลิฟฟ์ อดีตสองนักเตะจาก เอฟเวอร์ตัน

 

 

-รองแชมป์คะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

แม้ว่าการเป็นรองแชมป์จะไม่ใช่เรื่องน่าดีใจเท่าไรนัก แต่สำหรับ ลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ พวกเขาได้จารึกชื่อไว้เป็น รองแชมป์ที่มีคะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 5ลีกใหญ่ของยุโรป ด้วยการกวาดคะแนนไปถึง 97แต้ม แถมยังแพ้ไปแค่นัดเดียวตลอด 38นัดในฤดูกาล โดยทีมล่าสุดที่เป็นรองแชมป์ที่มีแต้มสูงสุดก็คือ เรอัล มาดริด ทำไว้ที่ 96แต้ม ในฤดูกาล 2009/10 แต่ก็พลาดแชมป์ไปให้บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเช่นกัน

 

 

-ลุ้นแชมป์มันส์สุดในประวัติศาสตร์

นับว่าเป็นการลุ้นแชมป์ที่มีการแข่งขันที่สูงมากระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ที่พากันกวาดแต้มรวมกันไปกว่า 195แต้ม นับเป็นแต้มที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทั้งแชมป์และรองแชมป์ มีแต้มห่างกันเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น การลุ้นแชมป์ในครั้งนี้ นับเป็นฤดูกาลที่ 8 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ต้องตัดสินแชมป์กันในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปถึง 3 สมัย ในฤดูกาล 2011-12, 2013-14 และ 2018-19