ในรายการโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียวนอกจากการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภทแล้ว อีกเรื่องนึงที่ถูกพูดถึง และเชื่อมโยงกับวงการฟุตบอลนั้นคือนักเทควันโดทีมชาติตูนีเซียนามว่า โมฮาเหม็ด คาห์ลิล เจนดูบิ ที่หน้าดันไปคล้ายกับ บรูโน่ เฟร์นันเดส สตาร์ดังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงขั้นโดนเอาไปล้อว่าเป็นฝาแฝดกันหรือเปล่า
โดยในวงการฟุตบอลเองก็มีนักเตะหลายรายที่เป็นคู่พี่น้องที่หน้าตาเหมือนจนแยกไม่ออกอยู่ วันนี้ UFAARENA จะขอพาไปทำความรู้จักกับ 10 คู่แฝดในวงการฟุตบอล
คู่แฝดปราการยักษ์แห่งรัสเซียที่มาพร้อมความสูง 190 เซนติเมตร พวกเขาเป็นเด็กปั้นของ ตอร์ปิโด มอสโก ก่อนจะได้ย้ายไปอยู่ทีมใหญ่อย่าง ซีเอสเคเอ มอสโก ในปี 2002 และได้ลงสนามร่วมกันไปทั้งหมด 1,033 นัดรวมทุกรายการ พร้อมคว้าแชมป์ร่วมกันทั้ง รัสเซียนพรีเมียร์ลีก 6 สมัย , รัสเซียนคัพ 7 สมัย , รัสเซียนซุปเปอร์คัพ 5 สมัย และ ยูโรป้าลีก 1 สมัย
ทั้งคู่แขวนสตั๊ดไปในปี 2018 และได้ผันตัวมารับงานกุนซือ ซึ่งปัจจุบัน วาซิลี่ ได้ไปอยู่กับ คราสโนดาร์ ในฐานะผู้ช่วย ส่วน อเลสกี้ เพิ่งถูกดันขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมเต็มตัวอยู่ที่ทีมเก่าของตัวเองอย่าง ซีเอสเคเอ มอสโก หลังจากที่ฤดูกาลก่อนหน้าเขาจะได้รับหน้าที่กุนซือชั่วคราวของทีม
ทั้งคู่เริ่มเล่นฟุตบอลด้วยการเป็นเด็กปั้นของ วัตเท่นไชด์ 09 ในบ้านเกิด ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันออกไปโดย ฮาอิล ไปอยู่กับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ส่วน ฮามิต ได้ย้ายไปอยู่กับ ชาลเก้ 04 ในปี 2003 และได้กลับมาเล่นร่วมกันอีกครั้งกับ ชาลเก้ ในช่วงปี 2006-2007 แต่หลังจากนั้นทาง ฮามิตก็ได้ย้ายออกไปเล่นให้กับทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และ เรอัล มาดริด พร้อมกวาดความสำเร็จทั้งแชมป์ ลาลีกา 1 สมัย , บุนเดสลีกา 2 สมัย , เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย และ เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพอีก 1 สมัย
โดยพวกเขาแขวนสตั๊ดพร้อมกันในปี 2018 และปัจจุบันทาง ฮามิต ได้กลายไปเป็นบอร์ดบริหารทีมชาติตุรกี ส่วนฮาอิลรับงานเป็นผู้ช่วยโค้ชอยู่ที่ บาเยิร์น มิวนิค ชุด U-16 ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเคยรับงานเป็นนายใหญ่อยู่กับ ชวาเบน เอาก์สบวร์ก ฤดูกาล 2019/20
พี่น้อง เบนเดอร์เริ่มต้นค้าแข้งจากการเป็นแข้งเยาวชนของ 1860 มิวนิค เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับทั้งคู่ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปในปี 2009 โดย ลาร์ส ไปอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ส่วน สเวน ไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ และได้กลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้งเมื่อ สเวน ได้ย้ายมาอยู่กับทัพห้างยาในปี 2017 จนถึงปี 2021 ที่พวกเขาเพิ่งตัดสินใจแขวนสตั๊ดพร้อมกันไปหมาดๆ
สองพี่น้อง กาเยฆอน เริ่มจากการเป็นเด็กฝึกของ เรอัล มาดริด และเล่นในตำแหน่งปีกเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ได้เล่นร่วมกันแค่ในระดับ เยาวชนเท่านั้น เพราะในปี 2008 ฆวนมี่ถูกปล่อยออกไปให้ มายอร์ก้า แบบถาวร ส่วน โฆเซ่ ก็โดนขายขาดไปให้ เอสปันญ่อล เช่นกัน แต่หลังจากนั้น โฆเซ่ ก็ได้โดนดึงกลับมาที่ มาดริด อีกครั้งในปี 2011-2013 ก่อนจะได้ย้ายไปสร้างชื่อเต็มตัวกับ นาโปลี ส่วนฆวนมี่ ก็กลายเป็นนักเตะพเนจร เดินทางค้าแข้งไปมากกว่า 8 สโมสร
ปัจจุบันในวัย 34 ปีทั้งคู่ยังคงอยู่ในเส้นทางการค้าแข้ง โดยฆวนมี่ อยู่กับ ซาน เฟอร์นานโด ในลีกรองของสเปน ส่วน โฆเซ่ เพิ่งย้ายไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า เมื่อซีซั่นที่ผ่านมาได้ลงสนามไป 22 นัด ยิง 1 ประตู
สองฝาแฝดพี่ชายของ ป็อกบา แม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นเท่าน้องชาย แต่ทั้งคู่ก็โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลจนถึงปัจจุบัน ทั้งคู่เริ่มต้นกับ เซลต้า บีโก้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ย้ายกลับไปที่ ฝรั่งเศส แต่ก็แยกย้ายกันไปในปี 2009 ฟลอรองแต็ง ย้ายไปอยู่กับ เซอด็อง ส่วน มาติอัส ไปอยู่กับ แกมแปร์ เอฟซี
โดยทั้งคู่จัดว่าเป็นนักเตะจอมพเนจร ที่ย้ายไปอยู่กับหลายทีมทั่วยุโรป แถมยังเคยกลายเป็นแข้งไร้สังกัดกันทั้งคู่ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่เคยได้โคจรมาเล่นในทีมเดียวกันอีกเลยนับตั้งแต่ออกจากทีมเยาวชน ซึ่งปัจจุบันพวกเขาก็ยังคงค้าแข้งอยู่ โดย ฟลอรองเต็ง อยู่กับ โซโชซ์ ในลีกรองของฝรั่งเศส ส่วน มาติอัสในปัจจุบันกลายเป็นแข้งไร้สังกัด
คู่แฝดชื่อดังแห่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งคู่ย้ายจากบ้านเกิดมาเป็นเด็กฝึกของ ปีศาจแดงตั้งแต่ปี 2008 ก่อนจะถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่ในปีนั้นเลย ซึ่งพวกเขาก็อยู่กับทีมมาจนในปี 2012 ฟาบิโอ ก็ได้ย้ายออกไปอยู่กับ คิวพีอาร์ แบบยืมตัว และย้ายขาดไปอยู่กับ คาร์ดิฟฟ์ในปี 2014 ส่วนราฟาเอล อยู่กับทีมถึงปี 2015 ก็ย้ายไปที่ ลียง
พี่น้อง ดา ซิลวา ฝากผลงานแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย , ลีกคัพ 2 สมัย และสโมสรโลกอีก 1 สมัย ไว้กับปีศาจแดง ปัจจุบันในวัย 31 ปีพวกเขายังคงค้าแข้งอยู่ โดย ฟาบิโอ อยู่กับ น็องต์ ในลีกเอิง ส่วน ราฟาเอล อยู่กับ อิสตันบูล บาซาคเซฮีร์ ในลีกตุรกี
สองพี่น้อง เดอบัวร์ เริ่มต้นค้าแข้งจากการเป็นเด็กปั้นของ อาแจ็กซ์ ถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1988 ก่อนที่พวกเขาจะโดนยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ดึงตัวไปในปี 1999 และได้เล่นร่วมกันจนถึงปี 2001ก่อนที่จะแยกย้ายไป แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้กลับมาเล่นด้วยกันอีกในช่วงปี 2004-2005 ที่พวกเขาไปเจอกันที่ อัล เรย์ยาน ในลีกกาตาร์
ซึ่งปัจจุบันทั้งคู่แขวนสตั๊ดไปเรียบร้อยแล้ว และ แฟรงค์ เดอบัวร์ ก็เป็นผู้ที่รับหน้าที่คุมทีมชาติฮอลแลนด์ ลุยศึกยูโร 2020 ที่เพิ่งผ่านมา น่าเสียดายที่ผลงานของทีมทำได้ไม่ดีนัก ตกรอบ 16 ทีมไป ก่อนที่เขาจะรับผิดชอบด้วยการลาออกไป ส่วน โรนัลด์ ปัจจุบันเป็นโค้ชของ อาแจ๊กซ์ ชุด U-19
แฝดชื่อดังแห่งสวิสเป็นนักเตะในตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวากันทั้งคู่ โดยเริ่มต้นกับทาง บาเซิ่ล ซึ่งตัว ฟิลลิปส์ ถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่ก่อนในปี 1999 ส่วน เดวิด ขึ้นชุดใหญ่ในปี 2003 ก่อนที่พวกเขาจะช่วยกันพาทีมกวาดแชมป์ลีกสวิสไปถึง 8 สมัย สวิสคัพอีก 2 สมัย
อย่างไรก็ตามเส้นทางการค้าแข้งของฟิลลิปส์ ดูจะไปได้ส่วนกว่า เมื่อในปี 2005 เขาจะได้รับโอกาสไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ต่อด้วย ลิเวอร์พูล ส่วนทางเดวิด ยังอยู่กับต้นสังกัดถึงปี 2006 ก่อนโดนปล่อยไปให้กับ กลัดบัค ซึ่งในท้ายที่สุดทั้งคู่ได้โคจรกลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้งที่ บาเซิ่ล ในปี 2012-2014 ซึ่งปัจจุบันพวกเขาได้แขวนสตั๊ดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พี่น้อง วอลเลช ถือเป็นฝาแฝดคู่แรกที่โลดแล่นในหน้าประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ทั้งคู่เริ่มด้วยการเป็นเด็กปั้นของ เซาธ์แฮมป์ตัน ก่อนจะได้ขึ้นทีมชุดใหญ่ในปี 1987-1988 หลังจากนั้นก็ถูก ลีดส์ ยูไนเต็ด ดึงตัวไปพร้อมกันในปี 1991 ซึ่งตัว ร็อด ได้อยู่กับทีมยาวถึงปี 1998 ส่วน เรย์ โดนปล่อยยืมไปทั้ง สวอนซี และ เรดดิ้ง ก่อนจะปล่อยฟรีไปให้กับ สโต๊ค ซิตี้ และกลายเป็นแข้งพเนจรไปกว่าอีก 6 สโมสร
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้กลับมาเล่นร่วมกันอีกเลย ซึ่ง เรย์ แขวนสตั๊ดไปในปี 2002 ส่วน ร็อด แขวนสตั๊ดไปในปี 2004 พร้อมกับมีถ้วยแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์ ในสมัยที่เล่นให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ติดมือไป 1 สมัย
โดยนอกจากคู่แฝดแล้ว ตระกูล วอลเลช ยังมี แดนนี่ที่เป็นพี่ชายคนโตอีกคน ซึ่งทั้งสามเคยลงสนามพร้อมกันสมัยที่เล่นให้กับทัพนักบุญเมื่อปี 1998 แถมพี่ชายคนโตดูจะเป็นคนที่ไปได้ไกลที่สุดจากการได้เคยไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับปีศาจแดงในปี 1993 อีกด้วย
คู่แฝดชื่อดังแห่งเมืองไทย ทั้งคู่เริ่มต้นกับ ชลบุรี เอฟซี ก่อนที่จะประสบความสำเร็จครั้งแรกกับการคว้าแชมป์ไทยลีกในปี 2007 ซึ่งนอกจากจะเป็นแชมป์แรกของทั้งคู่แล้วยังเป็นแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้แยกย้ายกันไปค้าแข้งต่างแดนโดยเป็น สุรีย์ที่ได้ไปร่วมฝึกซ้อมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ร่วมกับ เกียรติประวุฒิ สายแวว กับ ธีรศิลป์ แดงดา ในปี 2007 และปีถัดมาก็ถูกปล่อยให้ทีม กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ ส่วน สุรัตน์ ก็ได้ไปเล่นให้กับ เมลเบิร์น ในลีกออสเตรเลียเมื่อปี 2009
ก่อนที่ทั้งคู่จะได้โคจรกลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้งในปี 2013-2017 กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แถมยังร่วมกันเดินหน้ากวาดแชมป์ไทยลีกไปอีก 3 สมัย ในฐานะแข้งกำลังหลักของทีม หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปที่ อุบล ยูไนเต็ด ด้วยกัน ซึ่งในปัจจุบันในวัย 38 ปี สุรัตน์ ได้ตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปแล้วเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ส่วน สุรีย์ เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปในปี 2020 ที่ผ่านมานี้เอง
จับตาให้ดี! 7 แข้งม้ามืดเตรียมฉายแสง โอลิมปิก เกมส์ 2020
