อาร์เซนอล สร้างสถิติออกสตาร์ตฤดูกาลด้วยการแพ้ 3 เกมรวดเป็นครั้งแรกในรอบ 67 ปี หลังบุกไปโดน แมนฯ ซิตี้ ถล่มยับ 0-5 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เริ่มต้นฤดูกาล 2021-22 ด้วยการแพ้ต่อ เบรนทฟอร์ด และ เชลซี ด้วยสกอร์ 0-2 และล่าสุดเพิ่งโดน แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่ากระซวกยับ 5-0 โดยเจ้าบ้านได้ประตูจาก เฟร์ราน ตอร์เรส เหมา 2 ประตู อิลคาย กุนโดกาน, กาเบรียล เชซุส และ เฟร์ราน ตอร์เรส อีกคนละลูก
📊 Arsenal
✖️Lost in PL by a 5+ goal margin for the 1st time since Mar 2014 (6-0 defeat at Chelsea)
✖️Lost opening 3 League games for the 1st time since 1954-55
✖️Failed to score in opening 3 League games for the 1st time since 1953-54 pic.twitter.com/EMjlMawNFA— Sky Sports Statto (@SkySportsStatto) August 28, 2021
หลังเกม Sky Sports Statto ทวีตเตอร์เรื่องสถิติฟุตบอลได้รวมสถิติสุดแย่ของ อาร์เซนอล หลังจบเกมดังกล่าว โดยระบุว่า “ปืนใหญ่” ออกสตาร์ตฤดูกาลด้วยการแพ้ 3 เกมรวดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1954-55 หรือครั้งแรกในรอบ 67 ปี นอกจากนี้พวกเขาออกสตาร์ตซีซั่น 3 นัดแรกแบบยิงไม่ได้เลยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1953-54
-9 – Arsenal are only the second team in Premier League history to lose their first three matches in a season and have a goal difference of -9, after Wolverhampton Wanderers in 2003-04, who went on to finish bottom of the table. Demoralised. pic.twitter.com/dTeUawk56M
— OptaJoe (@OptaJoe) August 28, 2021
ด้าน Opta Joe เสริมว่า อาร์เซนอล เป็นทีมที่สองในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ออกสตาร์ตฤดูกาลแพ้ 3 เกมรวด และมีผลต่างติดลบถึง 9 ประตู ต่อจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2003-04 ซึ่งซีซั่นนั้นทีม “หมาป่า” จบฤดูกาลด้วยการเป็นบ๊วยของตารางคะแนน
การพ่ายแพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ 0-5 นับเป็นการปราชัยที่มีผลต่างถึง 5 ประตูเป็นครั้งแรกของ อาร์เซนอล นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 20114 ที่แพ้ต่อ เชลซี 0-6 และเป็นการเสีย 5 ประตูในเกมเดียวของพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 ที่เจอกับ ลิเวอร์พูล อีกด้วย