และแล้วก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ เมื่อ ‘สาลิกาดง’ นิวคาสเซิล ประกาศแยกทาง สตีฟ บรูซ อย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมเริ่มต้นภารกิจการหากุนซือคนใหม่หลังจากนี้เป็นต้นไป
นั่นเท่ากับว่า อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำหน้าที่คุมทีมได้เพียง 13 วัน หลังกลุ่มซาอุดิอาระเบีย เข้ามาเทคโอเวอร์ สาลิกาดง ต่อจาก ไมค์ แอชลี่ย์ ด้วยเงินจำนวน 305 ล้านปอนด์
ทว่าด้วยผลงานที่ไม่ชนะใครเลยจาก 7 เกมแรก จนทำให้ทีมรั้งอันดับ 19 ก็ทำให้บอร์ดเบื้องบนมีเหตุผลมากพอในการปลดกุนซือวัย 60 ปีพ้นจากตำแหน่ง และนี่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสโมสรแดนอีสานในลีกผู้ดีก็ว่าได้
แต่ใครกันที่จะเข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของ เดอะ แม็กพายส์? ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกัน 5 ตัวเต็งที่ถูกคาดหมายว่ามีโอกาสเข้ามารับตำแหน่งในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค มากที่สุด
อันโตนิโอ คอนเต้
อันโตนิโอ คอนเต้ เป็นกุนซือรายแรกๆ ที่ถูกโยงว่าอาจเข้ามาทำหน้าที่นายใหญ่ของ นิวคาสเซิล หลังจาก กลุ่มทุ่นซาอุฯ เข้าเทคโอเวอร์สโมสร และด้วยการที่เขาว่างงานไม่มีพันธะใดๆกับสโมสรไหน ก็ทำให้โอกาสเข้ามาคุมทีมในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค มีไม่น้อยเช่นกัน
แม้สไตล์การคุมทีมอาจเน้นเกมรับเป็นหลัก แต่ก็สามารถเล่นรุกได้เด็ดขาดในจังหวะโต้กลับ และที่สำคัญที่สุด กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ยังประสบความสำเร็จคว้าแชมป์กับสโมสรต่างๆที่เขาร่วมงานมาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ยูเวนตุส, เชลซี หรือ อินเตอร์ มิลาน
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นคนตรงๆ ยอมหักไม่ยอมงอ บอร์ดของ ‘สาลิกาดง’ จะมอบอิสระหรือเงื่อนไขที่ คอนเต้ ต้องการในการทำงานได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวเกือบคุม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แต่ก็ปฏิเสธไปเพราะmu,ไม่สามารถโน้มน้าวให้เขาเลือกรับงานนี้ได้นั่นเอง
ความเป็นไปได้ : 3/5
ลูเซียน ฟาฟร์
ลูเซียน ฟาฟร์ เป็นอีกคนที่ถูกพูดถึงเช่นกันในฐานะกุนซือคนต่อไปของ นิวคาสเซิล ซึ่งในเรื่องประสบการณ์ต้องบอกว่ากุนซือชาวสวิตมีมากมายไม่แพ้ใคร
ไม่ว่าจะเป็นการคุม โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, นีซ หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงปี 2018-2020 อีกทั้งยังมีสไตล์การคุมทีมที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก จุดนี้คงทำให้ ‘ทูน อาร์มี่’ ชอบใจพอสมควร
ทว่าปัญหาของ ฟาฟร์ ที่แสดงให้เห็นในช่วงที่คุม เสือเหลือง ก็คือ แม้ทำทีมจนมีลุ้นแชมป์ สู้กับ บาเยิร์น มิวนิค ได้ตลอด 2 ปีนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยืนระยะได้เอง ซึ่งเป็นจุดที่บอร์ดของ นิวคาสเซิล ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน หากหวังสร้างให้สโมสรประสบความสำเร็จในอนาคต
ความเป็นไปได้ : 4/5
เปาโล ฟอนเซก้า
หลัง สตีฟ บรูซ แยกทางอย่างทางการไม่งาน ชื่อของ เปาโล ฟอนเซก้า ก็โผล่พรวดขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่งกุนซือคนต่อไปของ นิวคาสเซิล จากบริษัทพนันถูกกฎหมายในอังกฤษหลายเจ้า เนื่องด้วยสไตล์การทำทีมที่เน้นเกมบุก เอนเตอร์เทนแฟนๆ
ก่อนหน้านี้ อดีตเฮดโค้ช โรม่า เคยเกือบมารับงานในพรีเมียร์ลีกแล้วกับ สเปอร์ส ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม้สุดท้ายก็ล่มไปเพราะตกลงรายละเอียดส่วนตัวไม่ได้ แต่ก็แสดงให้ว่า ฟอนเซก้า สนใจงานในพรีเมียร์ลีกเช่นกัน
ประวัติการทำงานของกุนซือ 48 ปี ก็ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน ทั้งกับ โรม่า ช่วงปี 2019-2021 หรือ ปอร์โต้ กับ สปอร์ติ้ง บราก้า 2 ทีมใหญ่ในโปรตุเกสบ้านเกิด และทีมที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ ชัคตาร์ โดเนสต์ค ที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ตลอด 3 ปีในลีกยูเครน
ความเป็นไปได้ : 4/5
แฟรงค์ แลมพาร์ด
อีกกุนซือหนุ่มไฟแรงอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็มีข่าวกับ นิวคาสเซิล หลังยังว่างงานอยู่นับตั้งแต่แยกทางกับ เชลซี ช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังคุมทีมได้ 18 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 43 ปี ยังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้เลย ทั้งการคุม เชลซี หรือ ดาร์บี้ แม้มีจุดเด่นในการดันดาวรุ่ง รวมไปถึงการทำทีมแบบเน้นเกมบุก แต่ประสบการณ์ในงานคุมชุดใหญ่ได้เพียง 2 ปีเศษ ทำให้ แลมพ์ อาจถูกพิจารณาน้อยที่สุดจากบรรดา 5 คนในลิสต์นี้
ความเป็นไปได้ : 2/5
เอ็ดดี้ ฮาว
เอ็ดดี้ ฮาว ได้รับการยกย่องอย่างมากตลอดช่วงเวลาที่คุม บอร์นมัธ คำรบที่ 2 ระหว่างปี 2012-2020 ที่พาทีมไต้เต้าจากลีกวัน ขึ้นในเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ พร้อมถูกคาดหวังว่าจะกลายเป็นนายใหญ่ของทีมชาติอังกฤษในอนาคต
ด้วยการสไตล์การต่อบอลและเข้าทำที่สวยงาม ทำให้ กุนซือวัย 43 ปี ถูกพูดถึงในฐานะตัวเต็งนายใหญ่คนใหม่ของ นิวคาสเซิล เช่นกัน แถมประสบการณ์ก็ในด้านนี้ก็มีมากกว่า 10 ปีด้วย
อย่างไรก็ดี แม้เป็นหนึ่งในตัวเต็ง แต่การที่เขาพา เดอะ เชอร์รี่ส์ หล่นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ชิพเมื่อ 2 ฤดูกาลที่แล้ว กลายเป็นคำถามตัวโตสำหรับ ฮาว ว่าเขามีบารมีมากพอในการพา ‘สาลิกาดง’ กลับมาผงาดเป็นยอดทีมได้จริงๆหรือ?
ความเป็นไปได้ : 3/5