อดีตหัวหอกปีศาจแดงชี้ผีคงไปไม่ถึงท็อปโฟร์ในปีนี้ แนะนักเตะควรคุยกันอย่างจริงจัง
เวย์น รูนี่ย์ อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความเห็นว่าทีมเก่าของตนคงไม่สามารถไปจบในตำแหน่งท็อปโฟร์ได้ในปีนี้ ท่ามกลางปัญหาภายในทีมมากมาย แนะนักเตะควรหันหน้าเข้ามาคุยกันอย่างจริงจัง
แม้ว่าทัพปีศาจแดงจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมมาเป็น ราล์ฟ รังนิค แต่ฟอร์มของพวกเขาก็ยังไม่ดีขึ้น แถมสองเกมหลังยังเป็นการโดน มิดเดิ้ลสโบรช์ ทีมจากแชมเปี้ยนส์ชิพเขี่ยตกรอบเอฟเอคัพ และล่าสุดกับการเสมอเบิร์นลี่ย์ที่เป็นบ๊วยของตาราง
ผลงานดังกล่าวทำให้พวกเขาอดขึ้นท็อปโฟร์ แม้จะแข่งน้อยกว่าอันดับ 4 อย่าง เวสต์แฮม อยู่ 1 นัดกับแต้มตามแค่แต้มเดียว แต่บรรดาทีมที่ตามมาอย่าง สเปอร์สที่มี 37 แต้ม อาร์เซน่อลที่มี 36 แต้ม และ วูล์ฟ แฮมป์ตันที่มี 34 แต้ม ทั้งหมดล้วนแข่งน้อยกว่าทัพผีถึง 2 นัด
เมื่อถูกถามถึงการลุ้นท็อปโฟร์ อดีตหอกเลือดผู้ดีก็ตอบกลับว่า “ผมคิดว่ามันยาก บอกตามตรงคุณก็เห็นว่าความมั่นใจมันต่ำ และมีปัญหาเกิดขึ้นรอบสโมสรไปหมด”
“พวกเขามีนักเตะอยู่ที่นั่น และพวกเขาก็ทำผลงานได้ดีในช่วงท้าย แต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมก็ยังไม่ดี และมันยังต้องปรับปรุง นักเตะต้องแสดงบุคลิก แสดงว่าพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันและสู้เพื่อสโมสร เพราะเกมที่ผมดูแล้วก็ตั้งคำถามบางครั้ง”
“ถ้าเป็นไปตามที่ผมคิด ผมก็ไม่คิดว่ายูไนเต็ดจะจบท็อปโฟร์ได้ ผมคิดว่ามันต้องมีการคุยกันอย่างจริงจัง ระหว่างนักเตะ โดยที่ไม่มีโค้ชหรือสต๊าฟ พวกเขาจำเป็นต้องรวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือไม่ชอบหน้ากัน ใน 90 นาทีพวกเขาต้องรวมกันเพื่อสโมสร”
นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้พูดถึงเรื่องการลุ้นแชมป์ในอนาคตด้วยว่า “พวกเขาเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมมาหลายรอบแล้ว และพวกเขาต้องการความมั่นคง และเวลาในการทำงานร่วมกับนักเตะ”
“แมนฯยูไนเต็ดคงจะคว้าแชมป์ลีกไม่ได้ไปอีก 2-3 ปี พวกเขาต้องใช้เวลา ดังนั้นในอีก 3-4 ปีพวกเขาถึงจะกลับมาลุ้นแชมป์อีกครั้ง ส่วนตอนนี้พวกเขายังอยู่ไกลจากจุดนั้น”