โลกแห่งความจริงมันไม่เคยเหมือนดั่งละคร ที่ตอนจบมันจะ “แฮปปี้เอ็นดิ้ง” มีความสุขกันทุกฝ่าย หากมีใครสักคนที่มีความสุขมากๆ ย่อมต้องมีขั้วตรงข้ามที่เสียใจชนิดน้ำตาเอ่อล้นท่วมใบหน้า
เช่นเฉกเกมนัดชิงฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่นาทีนี้โลกสีแดงกำลังกระจายความสุขทุกครัวเรือน ที่อังกฤษ เกิดขบวนรถแห่เฉลิมฉลองกันอย่างชื่นมื่นกับแชมป์สมัยที่ 6 ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ทว่าอีกโลกจากกรุงลอนดอน กลับถูกปกคลุมด้วยก้อนเมฆแห่งความเศร้า ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อม แต่คว้ามาไม่ได้ มันคือความเสียใจยิ่งกว่าใดๆ บางทีแฟน สเปอร์ส บางคนอาจจะคิดในใจ “ตกรอบรองฯ ยังไม่เจ็บเท่านี้เลย”
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นได้แค่เพียง “พระรอง” แต่ฤดูกาลนี้พวกเขาก็สร้างสถิติที่น่าสนใจไว้มากมาย เรียกได้ว่าสู้อย่างสมศักดิ์ศรี และคู่ควรแล้วที่จะมาไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ
ส่วนจะมีสถิติอะไรบ้าง ใครอยากรู้ตามไปอ่านกันเลย !!!
1.ทีมเดียวไม่ซื้อนักเตะ
สถานการณ์ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไม่ต่างอะไรกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ในช่วงร้างแชมป์ การสร้างสนามใหม่ส่งผลกระทบเต็มๆ กับการทำทีม และซัมเมอร์ที่ผ่านมา สเปอร์ส คือทีมเดียวใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ที่ไม่ได้ซื้อนักเตะใหม่มาเสริมทีมเลย น่าเหลือเชื่อไม่น้อยที่ “พอช” จะหยิบสอยขุนพลเท่าที่มีทะลุถึงรอบชิงฯ ยูซีแอล ได้
2.สามนัดไร้ชัยแต่ทะลุน็อกเอาท์
เส้นทางของ สเปอร์ส ไม่ได้โรยด้วยกลีกุหลาบเลย การอยู่กรุ๊ปออฟเดธ เจองานหนักทั้ง อินเตอร์ (แพ้ 1-2), บาร์เซโลน่า (แพ้ 2-4) และ พีเอสวี (เสมอ 2-2) ทำให้พวกเขาออกสตาร์ต 3 เกมแรกด้วยการมีเพียงคะแนนเดียว
แต่ทำเป็นเล่นไป 3 เกมที่เหลือพวกเขาเก็บเพิ่มได้ถึง 7 คะแนน สุดท้ายเบียด อินเตอร์ เข้าเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มด้วยเฮดทูเฮด และกลายเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ยูซีแอล ที่ออกสตาร์ตไม่ชนะเลยใน 3 เกมแรกแต่ทะลุเข้ารอบน็อกเอาท์ได้ เหมือนที่ นิวคาสเซิ่ล เคยทำในฤดูกาล 2002-03
3.เคนยิง10ประตูยูซีแอลเร็วสุดอันดับ2
แม้ผลงานนัดชิงจะน่าผิดหวังแต่ แฮร์รี่ เคน ก็ยังเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในยุคนี้ ดูได้จากสถิติการยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจ้าตัวใช้เวลาในการยิง 10 ประตูในรายการนี้เพียงแค่ 12 นัด นับเป็นสถิติเร็วที่สุดอันดับ 2 ตลอดกาลร่วมกับ ซิโมเน่ อินซากี้ และ วิสซัม เบน เยดเดอร์ โดยมี อาเดรียโน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เพียง 2 คนเท่านั้นที่ทำได้ดีกว่า และเร็วกว่าแค่นัดเดียว
4.จับมือเรือยิง4ตุงเร็วสุดยูซีแอล
เกมรอบรองชนะเลิศที่เอติฮัด สเตเดี้ยม คือหนึ่งในเกมประวัติศาสตร์ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเกมนี้มีถึง 9 ประตู และต้องลุ้นเข้ารอบกันจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนประตูของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จะถูกปฎิเสธด้วย VAR
ที่สำคัญทั้งสองทีมผลัดกันยิงเสมอ 2-2 ตั้งแต่ 11 นาทีแรก ซึ่งนับเป็นสถิติสกอร์รวม 4 ประตูในเกมเดียวที่เร็วที่สุดที่ แชมเปี้ยนส์ลีก เคยมีมาเลยทีเดียว
5.”ซอน” ขึ้นแท่นแข้งเอเชียยิงUCLเยอะสุด
2 ประตูที่ซัดใส่ “เรือใบสีฟ้า” ทำให้ยอดรวมการทำประตูของ ซอน เฮือง มิน ในแชมเปี้ยนส์ลีก ทะลุ 12 ประตูกลายเป็นนักเตะเอเชีย ที่ทำประตูได้มากที่สุดใน แชมเปี้ยนส์ลีก แซงหน้าเจ้าของสถิติเดิม คซิม ชัตส์คิกห์ อดีตแข้งอุซเบกิสถานของ ดินาโม เคียฟ ที่ทำไป 11 ประตู แม้ สเปอร์ส จะยังล้มเหลวไร้แชมป์ แต่ในแง่ผลงานส่วนตัวต้องบอกว่านี่คือปีทองของพ่อหนุ่มกิมจิ อย่างแท้จริง
6.”มูร่า” กับ2สถิติรอบรองฯ
– เกมสุดดราม่าที่ อัมเตอร์ดัม อารีน่า ใครที่พลาดชมสดต้องบอกว่าเสียดายมากๆ นี่คือเกมที่สุดของการคัมแบ็ก ลูคัส มูร่า ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยิง 3 ประตูพาทีมแซงชนะ อาแจ็กซ์ เข้ารอบได้แบบเหลือเชื่อ
ซึ่ง 3 ประตูดังกล่าวทำให้ มูร่า กลายเป็นนักเตะแซมบ้า คนแรกที่ทำแฮตทริกได้ในเกมรอบรองฯ แชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นนักเตะคนแรกที่ใช้ขาข้างไม่ถนัดยิงแฮตทริกได้ในรอบนี้อีกด้วย
7.ตาม2ลูกพลิกชนะทีมแรกอังกฤษ
เกมเลกที่สองกับ อาแจ็กซ์ เรียกได้ว่าเป็นที่สถิติมาเต็มมากสำหรับ สเปอร์ส เพราะนอกจากเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยส่วนตัวของ ลูคัส มูร่า แล้ว เกมนี้ยังเป็นครั้งแรกที่สโมสรจากอังกฤษ พลิกจากสกอร์ตามหลัง 0-2 ในครึ่งแรกแล้วกลับมาชนะได้ในตอนจบเกม
ทีมที่ว่าแน่ๆ อย่าง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี ยังทำไม่ได้เลย
8.ทีมที่สองแพ้เลกแรกแต่ได้ชิง
ฟุตบอลที่แข่งกันแบบเหย้า-เยือน หากใครประเดิมเลกแรกได้สวยกว่าโอกาสเข้าย่อมมีมากขึ้นไปในตัว ทว่าตำรานี้ใช้ไม่ได้กับ สเปอร์ส ชุดนี้ แม้พวกเขาจะแพ้ อาแจ็กซ์ คาบ้าน แต่สุดท้ายก็โกงความตายบุกไปชนะคืนก่อนเข้ารอบชิงฯ ด้วยกฎอะเวย์โกล์
งานนี้ต้องบอกว่าโลกกลมมากๆ เพราะ สเปอร์ส คือทีมที่สองในประวัติศาสตร์ ยูซีแอล ที่เลกแรกแพ้คาบ้านแต่ได้เข้าชิง ส่วนอีกทีมที่ทำได้ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหนก็คือ อาแจ็กซ์ คู่แข่งของพวกเขานี่เอง ที่ทำได้ในฤดูกาล 1995-96 หลังเลกแรกแพ้ พานาธิไนกอส 0-1 คาบ้าน แต่ไปถล่มคืนได้ 3-0 แต่ที่พีกเหมือนกันก็คือปีนั้น อาแจ็กซ์ ก็ได้แค่รองแชมป์เหมือนกัน เพราะนัดชิงเสียท่าให้กับ ยูเวนตุส ด้วยการยิงจุดโทษ
9.ผู้ดีทีมที่8ได้ชิงบิ๊กเอียร์
นับรวมแชมป์ล่าสุดของ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ตัวแทนจากอังกฤษ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปแล้ว 13 ครั้ง เป็นรองทีมจากลีกสเปน เพียงชาติเดียวที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้มากกว่า
ทว่าพูดถึงตัวแทนจากพรีเมียร์ลีก ที่ได้เข้าไปชิงชัยในรอบสุดท้าย สเปอร์ส เพิ่งจะเป็นทีมที่ 8 เท่านั้นที่ได้รับโอกาสนี้ โดยที่ผ่านมามีแค่ ลิเวอร์พูล (6), แมนฯ ยูไนเต็ด (3), น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (2), แอสตัน วิลล่า (1), เชลซี (1), ลีดส์ (0) และ อาร์เซนอล (0) ที่ผ่านสมรภูมินี้มาก่อนพวกเขา
10.หน้าใหม่ใจไม่นิ่งพอ
อย่างที่บอกไว้ข้างต้น สเปอร์ส เพิ่งผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรก สิ่งที่เห็นได้ชัดคือพวกเขาไม่ต่างอะไรกับน้องใหม่ตื่นสนาม ขาดซึ่งประสบการณ์และทีเด็ดทีขาดที่ดีพอ
สเปอร์ส กลายเป็นทีมหน้าใหม่ทีมที่ 6 ในประวัติศาสตร์ ยูซีแอล ที่ทะลุเข้าชิงครั้งแรกแล้วต้องพ่ายแพ้ ต่อจาก บาเลนเซีย ปี 2000, เลเวอร์คูเซ่น 2002, โมนาโก 2004, อาร์เซนอล 2006 และ เชลซี 2008