นี่เป็นอีกฤดูกาลหนึ่งที่แข้งหงส์แดงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ใครหลายคนคาดคิดไว้ หลังพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ไปครอง น่าเสียดายที่ทำได้แค่รองแชมป์ในพรีเมียร์ลีก ทั้งๆที่ทำแต้มได้มากถึง 97 แต้มก็ตาม
ด้วยความสำเร็จครั้งนี้ของพลพรรคเร้ด แมชชีน ทำให้ทาง UFA ARENA สงสัยว่ากว่าที่พวกเขาจะกลายเป็นแข้งระดับแชมป์ทวีปในระดับสโมสร พวกเขาเคยเคยค้าแข้งหรือฝีกวิชาลูกหนังร่วมกับแข้งดังคนอื่นๆบ้างหรือไม่
และนี่คือ 11 นักเตะที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับแข้งหงส์แดงชุดแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ในฤดูกาลนี้กัย บอกเลยว่าคาดไม่ถึงว่าพวกเขาเหล่านี้จะเคยอยู่ทีมกันมาก่อนแน่นอน
อลิสซอน – ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (อินเตอร์นาซิอองนาล)
ฟอร์ลันประสบความสำเร็จอย่างมากยามค้าแข้งกับ บียาร์เรอัล และ แอตเลติโก้ มาดริด ในสเปน แต่ทว่าในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ กองหน้าชาวอุรุกวัยไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่ดีนักยามลงเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่แฟนผีหลายคนคงจดจำประตูของเขาที่ยิงใส่ เจอร์ซี่ ดูเด็ค นายทวารลิเวอร์พูลในแอนฟิลด์ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย
และถ้าพูดถึงหงส์แดงแล้ว ฟอร์ลันก็เคยค้าแข้งร่วมกับนายทวารมือหนึ่งของเร้ด แมชชีนในตอนนี้อย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ ด้วยในฤดูกาล 2013-14 กับทีมอินเตอร์นาซิอองนาล ในบราซิล ซึ่งในขณะนั้นมือกาวชาวแซมบ้ายังเป็นแค่นายประตูมือสามที่ไร้ประสบการณ์อยู่เลย
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ (ลิเวอร์พูล)
แบ็คขวาจอมแอสซิสต์รายนี้อาจจะยังอยู่ในช่วงที่เป็นดาวรุ่งอยู่ แต่เขาก็ได้เจอผู้เล่นมากหน้าหลายตาในช่วงแรกๆที่เขาเพิ่งขึ้นมาอยู่ในชุดใหญ่ของลิเวอร์พูล
หนึ่งในนั้นคือ อเล็กซ์ แมนนิ่งเกอร์ นายทวารมือสามที่คอยเป็นอะไหล่ให้กับ ลอริส คาริอุส และ ซิมง มินโญ่เล่ต์ ในฤดูกาล 2016-17 เชื่อว่าถ้าคุณไม่ใช่เดอะ ค็อป พันธุ์แท้จริงๆก็คงจำเขาไม่ได้แน่นอน
ทั้งคู่มีอายุห่างกันถึง 21 ปี และที่สำคัญ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ตอนที่อดีตนายทวารทีมชาติออสเตรียคว้าดับเบิ้ลแชมป์กับอาร์เซน่อลในฤดูกาล 1997-98
โจเอล มาติป – ราอูล กอนซาเลซ (ชาลเก้ 04)
ในฤดูกาลที่สองของอาชีพค้าแข้ง มาติปได้กลายเป็นเพื่อนร่วมทีมกับตำนานแข้งจากแดนกระทิง อย่าง ราอูล กอนซาเลซ ซึ่ง ณ ตอนนั้น เขายังรั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดในทีมเรอัล มาดริดอยู่ ก่อนที่ชาลเก้จะคว้าตัวเขามาร่วมทีมในฤดูกาล 2010-11
ทีมราชันสีน้ำเงินในยุดนั้นมีทั้ง มานูเอล นอยเออร์ เป็นผู้รักษาประตู, มีอิวาน ราคิติช ประสานงานกับ จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ ในแดนกลาง และ ‘เดอะ ฮันเตอร์’ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ เป็นกองหน้า ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล และ เดเอฟเบ ซุปเปอร์ คัพมาครอง ในปี 2011
ชาลเก้ได้ตัดสินใจแขวนเสื้อหมายเลข 7 เพื่อเป็นเกียรติแก่ราอูล แต่ทว่าในเวลาต่อมาพวกเขาก็ได้ยกเลิกการแขวนเบอร์นั้น และนำกลับมาใช้ใหม่เช่นในปัจจุบัน
เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค – ตีมู ปุ๊กกี้ (เซลติก)
หลายคนอาจจะรู้แล้วว่า กองหลังจอมแกร่งคนนี้เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับ ดูซาน ทาดิช ตอนค้าแข้งกับเซาธ์แฮมป์ตัน หรือ หลุยส์ ซัวเรซ ตอนเล่นให้โกรนิ่งเก่นในบ้านเกิดเมื่อฤดูกาล 2011-12 แต่คงมีน้อยคนที่จะรู้ว่าฟาน ไดจ์ค เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ชิพฤดูกาลล่าสุดอย่าง ตีมู ปุ๊กกี้
ทั้งคู่เคยเล่นด้วยกันสมัยที่ค้าแข้งกับเซลติกใน สก็อตดิช พรีเมียร์ลีก เพียงแต่ว่าตอนนั้น ฟาน ไดจ์ก กลับผลงานได้เปรี้ยปร้างจนย้ายไปค้าแข้งกับนักบุญ ขณะที่หัวหอกชาวฟินแลนด์ไม่สามารถโชว์เก่งได้จนถูกขายให้กับบรอนด์บี้ในปี 2014
และ ทั้ง 2 คนจะต้องมาห่ำหั่นกัน โดยที่มีดีกรีแข้งยอดเยี่ยมประจำศึกแชมเปี้ยนส์ชิพและศึกพรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพัน ในลีกสูงสุดแดนผู้ดีฤดูกาลหน้า ยามที่หงส์แดงของฟาน ไดจ์จ ต้องฟาดแข้งกับทีมน้องใหม่ในลีกอย่าง นอริช ซิตี้ ของปุ๊กกี้
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (ฮัลล์)
ขณะที่โรเบิร์ตสันกำลังฉายแสงอยู่ในพรีเมียร์ลีกแบบเต็มที่หลังจากเริ่มต้นกับฮัลล์ ซิตี้ แต่ว่าเพื่อนเก่าของเขาอย่าง เบน อาร์กฟา กลับไม่สามารถแจ้งเกิดในเส้นทางลูกหนังได้อย่างควรจะเป็น
ทัศนคติคือสิ่งที่ให้ปีกแดนน้ำหอมตกต่ำลง หลังเขาได้ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น เคคอม สเตเดี้ยม หนึ่งฤดูกาลเต็มๆ แต่จู่ๆในเดือนธันวาคมปี 2014 เขาก็หายไปจากทีมดื้อๆ แม้แต่ตัว สตีฟ บรูซ กุนซือเดอะ ไทเกอร์ส เองก็ไม่ทราบว่าเจ้าตัวหายไปไหน
ทั้งโรเบิร์ตสันและ เบน อาร์กฟา ทำให้เรารู้ถึงวิธีการใช้ความสามารถของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุดและวิธีทำให้พรสวรรค์เสียของเป็นอย่างไร
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – คัลลัม วิลสัน (โคเวนทรี่)
ปัจจุบันทั้ง เฮนเดอร์สัน และ วิลสัน เป็นเพื่อนร่วมทีมในทัพสิงโตคำรามแล้ว แต่ครั้งแรกที่พวกเขาเล่นด้วยกันจริงๆคือตอนที่ค้าแข้งกับทีมโคเวนทรี่ในปี 2009 ต่างหาก
หัวหอกบอร์นมัธสร้างชื่อกับทีมจากเขตมิดแลนส์ ขณะที่เฮนโด้ ย้ายจากซันเดอร์แลนด์มาเล่นให้ที่นี่แบบยืมตัวสั้นๆ โดยลงเล่นไปแค่ 13 เกมเท่านั้นในสีเสื้อเดอะ สกาย บลูส์
นอกจากนี้ในสมัยที่กัปตันทีมหงส์แดงเป็นดาวรุ่งในทีมแมวดำ เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับแข้งดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดไวท์ ยอร์ค, เบาเดอไวน์ เซนเด้น, ซัลลี่ย์ มุนตารี่ หรือ มหาเทพอย่าง แดนนี่ เวลบิอุส เอ้ย เวลเบ้ค ด้วย
ฟาบินโญ่ – คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด)
คงจะมีแค่สาวกมาดริดนิสต้าเดนตายที่เท่านั้นที่พอจะจดจำภาพของ ฟาบินโญ่ ในสีเสื้อของราชันชุดขาวได้
กองกลางชาวบราซิลเลี่ยนได้ลงเล่นแค่ 14 นาทีเท่านั้นในเกมที่โลส บลังโกส เอาชนะ มาลาก้าที่มีผู้เล่นแค่ 9 คนไป 6-2 ในเดือนพฤษภาคม ปี 2013 หลังเลื่อนมาจากทีมกาสตีย่า
ราอูล อัลบิโอล เป็นคนเบิกสกอร์แรกได้ในเกมวันนั้น ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆของฟาบินโญ่อย่าง โรนัลโด้, โอซิล, เบนเซม่า, โมดริช และ ดิ มาเรีย จะทำไปคนละประตู ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปสร้างชื่อกับโมนาโก ก่อนที่ย้ายมาร่วมทีมหงส์แดงของเจอร์เก้น คล็อปป์ ในฤดูกาลล่าสุด
จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม – จอน ดาห์ล โทมัสสัน (เฟเยนูร์ด)
โทมัสสันเป็นนักเตะในชุดแชม์ยุโรปฤดูกาล 2002-03 กับเอซี มิลาน ซึ่งในตอนนั้นไวจ์นัลดุมยังเป็นแค่นักเตะเยาวชนของทีมสปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัมอยู่เลย
แต่ในช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง กองหน้าชาวเดนส์ได้ย้ายกลับมาเล่นให้กับทีมเก่าของเขาอย่าง เฟเยนูร์ด และได้พบกับแข้งดาวรุ่งดวงใหม่ในวงการลูกหนังดัชต์ ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปในปี 2011
ไวจ์นัลดุม และ โทมัสสัน นอกจากเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันแล้ว พวกเขาทั้งคู่ยังค้าแข้งให้กับนิวคาสเซิลแค่ฤดูกาลเดียวเหมือนกันด้วย
ซาดิโอ มาเน่ – โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)
ในชัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ 11 ตัวจริงของลิเวอร์พูลมีอยู่หลายคนที่เคยอยู่ค้าแข้งและสร้างชื่อกับเซาธ์แฮมป์ตันมาก่อน แต่ว่าทีมคู่แข่งอย่างสเปอร์สกลับมีแค่อัลเดอร์ไวเรลด์คนเดียวเท่านั้นที่เคยเล่นให้นักบุญ
กองหลังชาวเบลเยี่ยมได้มาค้าแข้งในถิ่นเซ็นต์แมรี่ ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปีจากแอตเลติโก้ มาดริด และด้วยแผงหลังสุดแข็งแก่งที่มีอัลเดอร์ไวเรลด์ยืนป้องกันให้ บวกกับแนวรุกที่จิ๊ดจ๊าดอย่าง มาเน่ ช่วยให้เซาธ์แฮมป์ตันคว้าอันดับ 7 มาครองในฤดูกาล 2014-15
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้ย้ายมาอยู่ในทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล และกลายเป็นนักเตะชั้นนำอันดับต้นของศึกพรีเมียร์ลีกเช่นที่เราเห็นปัจจุบัน
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ – กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน (ฮอฟเฟ่นไฮม์)
แม้ทั้งคู่จะทีมคนละฝากของเมอร์ซียไซด์ในตอนนี้ แต่ฟีร์มิโน่ และ ซิกูร์ดส์สัน เคยเล่นให้ทีมในตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้กับฮอฟเฟ่นไฮม์มาก่อน โดยเพลย์เมกเกอร์ชาวไอซ์แลนด์เป็นฝ่ายย้ายมาก่อนจากทีมเร้ดดิ้งในปี 2010 ขณะที่แข้งเบอร์ 9 ของหงส์แดงได้ย้ายจากบราซิลมาค้าแข้งในยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 2011
แต่ว่ากราฟชีวิตของทั้งคู่ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน โดยหลังจากที่ซิกูร์ดส์สันได้รับการโหวตจากแฟนบอลให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2010-11 เขาก็กลายเป็นตัวสำรองในปีถัดมา ก่อนจะย้ายไปเล่นให้สวอนซีแบบยืมตัวเพื่อตำแหน่งตัวจริงในเวลาต่อมา
ส่วนฟีร์มิโน่นั้นประสบปัญหาเรื่องเกี่ยวกับวินัยในช่วงแรกที่ย้ายมา ก่อนค่อยๆปรับปรุงตังเองจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับมองที่สุดในศึกบุนเดสลีก้า ซึ่งเจอร์เก้น คล็อปป์ ประทับใจฟอร์มการเล่นของเขาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ก่อนจะดึงตัวมาร่วมทีมหงส์แดงในปี 2015
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – ไมกาห์ ริชาร์ด (ฟิออเรนติน่า)
หลังจากใช้เวลากับพี่น้องชาก้านาน 2 ปีในบาเซิลและล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับเชลซี, ซาลาห์ตัดสินใจย้ายมากู้ชื่อเสียงคืนกับ ฟิออเรนติน่า ในกัลโช่ เซเรียอา ซึ่งมีนักเตะอย่าง มาร์กอส อลอนโซ่,อัลแบร์โต้ อควิลานี่, วาควิน, อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่, มาริโอ โกเมซ รวมไปถึงแข้งชาวผู้ดีส่วนน้อยที่ออกมาค้าแข้งต่างแดนอย่าง ไมกาห์ ริชาร์ด
ด้วยโอกาสในทีมแมนซิตี้ที่มีไม่มาก ประกอบกับร่างกายที่สูงใหญ่ กำยำ ทำให้ทีมวิโอล่าได้ยืมตัวเขามาเล่นในอิตาลี ซึ่งซาลาห์ก็มีชาตะกรรมที่ไม่ต่างกันหลังไม่มีโอกาสโชว์ฝีเท้ากับทีมสิงห์บลูมากนัก แต่เป็นแข้งชาวอียิปต์ที่ดูไปได้สวยกับทีมใหม่นี้ โดยยิงไปทั้งหมด 9 ประตูจากการลงสนาม 26 นัดในทุกรายการ ส่วนริชาร์ดไม่สามารถยึดตัวจริงในทีมได้และลงเล่นแค่ 7 เกมให้ทีมม่วงมหากาฬเท่านั้น
หากจะบอกว่านี่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของทั้งคู่คงไม่ผิดนัก หลังโชว์ฟอร์มเก่งกับฟิออเรนติน่า เขาก็รักษามาตรฐานได้ตอนย้ายไปโรม่า ก่อนไปโชว์ฟอร์มร้อนแรงกับลิเวอร์พูลได้คว้ารางวัลดาวซัลโวได้ 2 ฤดูกาลติด พร้อมกับพาหงส์แดงคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 มาครองในปีนี้ แต่สำหรับอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษวัย 30 ปี ล่าสุดเพิ่งถูกแอสตัน วิลล่า ปล่อยตัวออกจากทีม หลังจากที่ไม่ได้ลงสนามให้ต้นสังกัดมานานเกือบ 3 ปี