สำหรับในโลกของฟุตบอลนั้นอาชีพผู้จัดการทีมเป็นงานที่ค่อนข้างหนักและต้องรับแรงกดดันสูงมากๆ ซึ่งอาจจะมากกว่านักฟุตบอลเป็นไหนไหน เพราะการวางแผนแท็กติกระบบการเล่นทุกอย่างต้องมาจากโค้ชเป็นอันดับหนึ่ง และเมื่อมีผลแพ้ชนะทุกสิ่งอย่างก็จะเข้ามาถาถมในตัวเทรนเนอร์เพียงอย่างเดียว ส่วนค่าแรงที่โดนจ้างมานั้นก็ไม่ได้มากเท่ากับนักฟุตบอลสักเท่าไร บางคนอาจได้เยอะได้น้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์,ฝีมือ,โชคลาบวาสนา
แต่หนึ่งในสโมสรที่ถือว่าเป็นยักษใหญ่บนเกาะอังกฤษที่มักจะจ้างโค้ชที่เก่งไว้ก่อนและจ่ายค่าเหนื่อยที่แสนแพงติดอันดับต้นๆนั่นก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะยูไนเต็ดนั้นมีเงินถุงเงินถังจากการตลาดนอกสนามเยอะมาก จึงไม่แปลกใจที่จะกล้าลงทุนแบบเปย์ให้หมดหน้าตัก ส่วนนายใหญ่คนล่าสุดที่ได้แต่งตั้งเข้ามานั้นก็คือโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ซึ่งเซ็นสัญญาถาวรไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเงินที่เขาได้รับต่อปีนั้นเป็นจำเงินทั้งสิ้น 7.5ล้านปอนด์ ซึ่งตกเฉลี่ยแล้วก็สัปดาห์ล่ะ145,000 ปอนด์ ซึ่งเหมือนจะมากแล้วแต่ก็ยังมีลูกทีมของเขาบางคนที่ได้มากว่าเขาอีก ซึ่งในวันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปติดตามกันว่าแข้งผีรายไหนบ้างที่ได้รับเงินค่าตอบแทนมากกว่าโซลชาร์
6. ลุค ชอว์ (195,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)
5 ปีแล้วตั้งแต่ชอว์ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจากเซาแธมป์ตันด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์แต่เขายังไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้แฟนบอลยูไนเต็ดได้มั่นใจมากพอว่าจะยืนระยะได้นานแค่ไหนในอนาคต เพราะหลังจากที่ขาหัก ฟอร์มของเขาก็ไม่เหมือนเดิม
ฤดูกาล 2018/19 เป็นครั้งแรกที่ชอว์เล่นมากกว่า 20 เกมให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาลเดียว และคราวนี้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำได้ดีที่สุดในตำแหน่งแบ็คซ้าย จนไม่มีใครมาแย่งพื้นที่ตรงนี้ได้เลย
อาชีพค้าแข้งของเขาไม่ค่อยเป็นใจมากนักหลังจากได้ผลกระทบจากอาการบาดเจ็บหนัก ทำให้ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเดิม นั่นจึงทำให้ชอว์โดนโชเซ่มูริน โญ่อดีตนายเก่าในโรงละครแห่งความฝันจวกออกสื่ออยู่บ่อยครั้งเ ขาเล่นเพียง 106 เกมให้กับปีศาจแดงใน 5 ฤดูกาลหลังโดยค่าเฉลียนั้นอยู่ที่ประมาณ 21 เกมต่อฤดูกาล
ดาวเตะทีมชาติอังกฤษเพิ่งสะบัดน้ำหมึกต่อสัญญากับยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ด้วยค่าแรงที่เพิ่มขึ้นกว่าเก่าแต่ไม่รู้ว่าการได้อยู่ต่อกับทีมต่อมันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิดกันแน่ เพราะนักเตะยังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าเหมาะกับเม็ดเงินจำนวนนี้
5.โรเมลู ลูกากู ( 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)
แมนยูไนเต็ดได้ตัวหัวหอกจอมถึกคนนี้มากจากเอฟเวอร์ตัน หลังเจ้าตัวโชว์ฟอร์มสวยหรูให้กับท็อปฟี่เมน เมื่อกระทุ้งไป 25 ดอกจากการลงเล่นไปทั้งสิ้น 37 นัดในฤดูกาลสุดท้ายก่อนเข้ามาที่โรงละครแห่งความฝัน จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้รับค่าเหนื่อยถึง 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ดาวยิงชาวเบลเยี่ยม ทำประตูให้กับต้นสังกัดปัจจุบันไปแล้ว 42 ลูกจาก 96 เกมและนั่นถือว่าเป็นผลงานที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ด้วยเงินค่าแรงที่แสนแพงขนาดนี้แต่ก็ยังถือว่ายังสอบไม่ผ่านในตำแหน่งนี้
ศูนย์หน้าอีซ้ายรายนี้ลงสนามในฤดูกาลที่เพิ่งจบลงไปได้แค่ 22 เกมเท่านั้นซึ่งสไตล์ของเขานั้นยังไม่ตอบโจทย์ของโอเล่ กุนนาร์โซลชาร์กุนซือของทีมสักเท่าไร นั้่นจึงทำให้ได้โอกาสลงสนามน้อยในซีซั่นนี้ ส่วนค่าแรงที่มหาศาลที่รับอยู่นั้นมันก็ดูแล้วดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรกับฝีเท้าธรรมดาแบบนี้ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีข่าวว่าอินเตอร์ มิลานหวังจะเอาไปเคลมต่อ
4. ดาวิด เดเคอา (200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)
หากจะหาผู้เล่นของยูไนเต็ดที่ดูแล้วเล่นคุ้มค่าเหนื่อยนั่นก็คงต้องเป็นประตูจอมหนึบชาวสเปนอย่าง เดเค อา ที่เล่นได้คงเส้นคงว่าที่สุดแล้วนับตั้งแต่ย้ายมาจากแอตเลติโก มาดริดในยุคของเซอร์ อเล็กเฟอร์กูสัน นั่นจึงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรเลยที่เขาจะได้โหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสร 3 ปีติด
ผลงานการเซฟที่ยอดเยี่ยมของ เดเคอา ที่ทำไว้กับปีศาจแดงนั้นทำให้เขาได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกถึง 5 ครั้งและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงผู้เล่นแห่งปีของ PFA ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากกับผู้รักษาประตูที่ราศีไม่ค่อยจับเท่าไร
ด้วยวัย 28 ปี นี่จะเป็นปีสุดท้ายของเจ้าตัวกับปีศาจแดงแล้วเพราะสัญญาของเขากำลังจะหมดลงหลังเดือนมิถุนายนปี 2020 และดูเหมือนเขายังลังเลกับการที่จะอยู่ในโอล์ดแทร๊ฟฟอร์ดต่อไป ทำให้แมนยูกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะยอมขายออกไปในหน้าร้อนนี้เลยหรือยอมปล่อยออกไปแบบฟรีๆในปีหน้า
3.อองโตนี่ มาร์ซิยัล ( 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)
มาร์ซิลยัลนั้นอยู่กับแมนฯยูไนเต็ดมา 4 ปีแล้ว แต่เขายังคงโดนโจมตีจากผู้คร่ำหวอดในโลกลูกหนังว่า ยังไม่สามารถรักษามาตรฐานให้อยู่กับร่องกับรอยได้เสียที จึงไม่แปลกใจที่โดนตำหนิเรื่องความทุ่มเทจากเจ้านายอย่างโอเล่ กุนนาร์โซลชาร์
จนถึงตอนนี้มาเที่่ยวหรือมาร์ซิลยัลอะไรก็แล้วแต่ ยังคงไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าคุ้มค่าแรงที่ต้นสังกัดจ่ายให้หรือไม่ เพราะเขายังคงเล่นสไตล์เดิมและไม่มีการพัฒนาฝีเท้าไปไหนเลย
ดาวเตะเฟร้นช์แมน ทำสัญญาอยู่กับแมนฯยูไนเต็ดทั้งหมด 4 ปีโดยมีออปชั่นในการได้ขยายสัญญาต่อได้อีกปี จนกระทั่งในเดือนธันวาคม 2018 สโมสรได้ใช้ตัวเลือกดังกล่าว หลังจากนั้นหนึ่งเดือนต่อมาเขาได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ 5 ปีกับสโมสรและนั่นทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้มีรายได้สูงที่สุดในโลก
หลังจากที่เขาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับผีแดงอดีตแข้งโมนาโกก็ได้ลงเล่นในสนามให้กับต้นสังกัดไป 13 เกมและสามารถยิงไปได้ 2 ประตูและจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 1 ลูก
2.พอล ป็อกบา ( 290,000 ต่อสัปดาห์)
การย้ายของป็อกบาไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่อเขาได้ย้ายทีมด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลก โดยเขาเซ็นสัญญา 5 ปีเมื่อหน้าร้อนปี 2016 ด้วยค่าจ้างที่มีมูลค่าถึง 290,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์แต่ในรายละเอียดสัญญาส่วนตัวนั้นไม่ได้ระบุเงื่อนไขการขยายสัญญาเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของ ป็อกบา เลยก็ว่าได้ในด้านการทำประตูในขณะที่เขายิงได้ถึง 16 ประตูจาก 47 เกมและยังเป็นผู้เล่นคนเดียวจากนอกเมืองแมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วมุมมองการเล่นของเขายังคงเป็นคำถามอยู่ว่าเต็มที่แล้วหรือยังกับการการเล่นให้ปีศาจแดง
ดาวเตะแชมป์โลกตกเป็นข่าวรายวันเลยว่าเตรียมที่จะเก็บของออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงปิดฤดูกาลนี้เพื่อไปอยู่กับเรอัล มาดริดซึ่งเป็นจุดหมายที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับเจ้าตัว
1.อเล็กซิส ซานเชซ (350,000 ต่อสัปดาห์)
การย้ายมาของอเล็กซิสนั้นเป็นหนึ่งในความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ พวกเขาเสนอค่าจ้างที่ทุบสถิติโลกเพื่อจ้างดาวเตะชิลีมาร่วมทีม และหวังว่าเขาจะช่วยให้ปีศาจแดงกลับมาผงาดอีกครั้ง
ทั้งนี้มีข่าวลือว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีปัญหาในการเจรจาสัญญากับผู้เล่นคนอื่น ๆ ในสโมสรโดยสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากที่อเล็กซิสได้รับเงินเป็นจำนวนมากที่สุดของสโมสรถึง 350,000 ต่อสัปดาห์ ทำให้การตกลงทำสัญญาฉบับใหม่ตามที่ อันเดร์ เอรเรร่ เรียกร้องนั้นต้องหยุดชะงักไปและอีกปัจจัยหนึ่งก็คือเอาเงินไปเทให้กับผู้เล่นอย่างอเล็กซิส, มาร์ซิยัลและ ชอว์
แข้งจอมเทคนิคทำไป 5 ประตูจาก 45 เกมให้กับแมนยูไนเต็ดโดยส่วนใหญ่จะลงมาเป็นตัวสำรองและดูเหมือนว่าอนาคตของเขาอาจจะไม่ได้อยู่กับปีศาจแดงต่อไป เพราะทางต้นสังกัดไม่อาจจะแบกค่าแรงอันมหาศาลของเขาไว้ได้ตลอด ทำให้พร้อมที่ปล่อยตัวให้กับทีมอื่นเอาไปใช้งานต่อ
