เหตุผลที่ปืนต้องคว้า “การ์ราสโก้”

ท่ามกลางข่าวลือเรื่องงบประมาณอันน้อยนิดเพียง 40 ล้านปอนด์ หากไม่มีอะไรพลิกโผสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” น่าจะใกล้ได้เห็นนักเตะใครคนแรกของทีมในซัมเมอร์นี้

 

หลายวันที่ผ่านมา กระแสข่าวของ “ยานนิค แฟร์ไรร่า การ์ราสโก้” เรียกว่าแรงขึ้นเรื่อยๆ ตัวนักเตะอยากกลับยุโรป และทีมเดียวที่เป็นข่าวก็คือ อาร์เซนอล

 

ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม อาจจะไม่ใช่สตาร์เกรดเอ แต่ชื่อชั้นก็หาใช่โนเนมมั้ย และน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลยที่จะเข้ามาช่วยยกระดับเกมรุกของทีม “ปืนใหญ่” จากซีซั่นที่ผ่านมา

 

ส่วนเหตุผลที่ทำให้ “การ์ราสโก้” เป็นภารกิจที่ อาร์เซนอล ควรจะปิดดีลให้ได้นั้นจะมีอะไรบ้าง ข้ออธิบายเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้

1.เอเมรี่ ไม่นิยมเพลย์เมกเกอร์

 

ตลอด 1 ฤดูกาลที่เข้ามากุมบังเหียนทีม “ปืนใหญ่” ค่อยข้างชัดเจนเหลือเกินว่าสไตล์การทำทีมของ อูไน เอเมรี่ โดยเฉพาะเกมรุกจะเน้นโจมตีจากเกมริมเส้นเป็นหลัก

 

ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่นักเตะซูเปอร์สตาร์อย่าง เมซุต โอซิล หรือ เฮนริค มคิตาร์ยาน จะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการพิชิต 11 ตัวจริง

 

เพราะเท่าที่เช็กประวัติมากุนซือชาวสแปนิช วัย 47 ปี ไม่นิยมที่จะใช้เพลย์เมกเกอร์ธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 คอนเซ็ปต์แผงกลางจะเป็น ตัวตัดเกม, ห้องเครื่อง และตัวสอดทะลุ

 

เหมือนช่วงต้นฤดูกาลที่ เอเมรี่ เคยยืนยันว่าอยากทำทีมโดยมี อารอน แรมซี่ย์ เป็นจุดศูนย์กลาง ทว่าน่าเสียดายที่ปัญหาการต่อสัญญาทำให้เจ้าตัวไม่สามารถใช้งานมิดฟิลด์ทีมชาติเวลส์ ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

 

หาก การ์ราสโก้ ย้ายมาอยู่กับทีมจริง ก็น่าจะเติมเต็มจินตนาการของอดีตกุนซือเซบีญ่า เพราะครึ่งหลังของฤดูกาลการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าปรับมาเป็น 3-4-1-2 ตามปัจจัยสภาพผู้เล่นที่มี การได้เห็น เซอัด โคลาซินัช และ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ครอสบอลแต่ละทีแฟนบอล “ปืนใหญ่” ตัวจริงคงไม่ต้องอธิบายให้มากความ

2.เก่งกว่า “อิโวบี้”

 

อย่างที่ว่าไว้ในข้อแรกว่า อูไน เอเมรี่ อยากสร้างทีมที่มีเกมรุกริมเส้นที่วูบวาบและอันตราย ทว่าการลองผิดลองถูกหลายๆ ครั้งกับไม่เวิร์กอย่างที่ควรจะเป็น

 

ไม่ว่าจะเป็นการถ่าง เมซุต โอซิล หรือ เฮนริค มคิตาร์ยาน หรือถอย ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง มาเล่นริมเส้น ก็ดูผิดแปลกธรรมชาติของผู้เล่นทั้ง 3 คน

 

ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่ อเล็กซ์ อิโวบี้ จะกลายเป็นผู้เล่นที่แม้แฟนบอล อาร์เซนอล ส่วนใหญ่ร้องยี้ กลับได้ลงสนามเป็นตัวจริงมากถึง 22 เกมในพรีเมียร์ลีก เยอะที่สุดสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน

 

3 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ของมิดฟิลด์ทีมชาติไนจีเรีย ดูแล้วไม่ขี้เหร่เลย แต่หากเทียบคุณภาพและประสบการณ์ การ์ราสโก้ ยังไงก็ดูดีกว่า และหากย้ายมาอยู่จริงคงหนีไม่พ้นตำแหน่ง “ปีกเบอร์ 1” อย่างแน่นอน

3.ราคาถูก

 

ใครเป็นแฟนบอล อาร์เซนอล ชั่วโมงนี้อาจจะรู้สึกหดหู่เป็นอย่างยิ่ง จากทีมลุ้นแชมป์ กลายมาเป็นทีมลุ้นท็อปโฟร์ ที่งบประมาทในการทำทีมน้อยเป็นเบอร์ต้นๆ ของทีมท็อปซิกซ์ สูสีกับ “บัตรคนจน” ของประเทศสารขัณฑ์ เลยก็ว่าได้

 

นโยบายของทีม “ปืนใหญ่” นาทีนี้คือ “งมเข็มในมหาสมุทร” ต้องคอยสอดส่องหาแข้้งฝีเท้าดีมาเจียรไนเอาเอง ยิ่งไม่ได้โควต้าเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ลืมเหล่านักเตะบิ๊กเนมไปได้เลย

 

เอาแค่นักเตะเกรดบีบวกอย่าง วิลเฟร็ด ซาฮา นาทีนี้ก็แทบไม่มีปัญญาไปซื้อ ตลาดนักเตะที่ปั่นป่วนทำให้นักเตะหลายคนคุณภาพราคาเกินฝีเท้าไปไกลโข ปีกมะขามข้อเดียวอย่าง ไรอัน เฟรเซอร์ จีบกันดีๆ ก็น่าจะโดน บอร์นมัธ โขกไม่ต่ำกว่า 20 ล้านปอนด์

 

ดังนั้นหากมีนักเตะฝีเท้าดี อายุอานามก็ไม่ได้มากแค่ 25 ปี และมีค่าตัวเพียง 25 ล้านปอนด์ หาก อาร์เซนอล ไม่เอา การ์ราสโก้ ในตอนนี้ ก็เรียกว่า “บ้า” ที่สุดเลยตัวเอง

4.มากประสบการณ์

 

แม้อายุปัจจุบันของ การ์ราสโก้ อาจจะไม่มากมายนัก แต่เรื่องประสบการณ์ค้าแข้งต้องบอกว่าไม่เป็นสองรองใคร เจ้าตัวผ่านการค้าแข้งมาแล้วถึง 3 ประเทศก็คือ ฝรั่งเศส, สเปน และลีกเอเชียอย่าง จีน

 

ขณะที่เกมระดับเวทียุโรป ก็ผ่านมาครบทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก เช่นเดียวกับระดับทีมชาติ ที่ดาวเตะของ ต้าเหลี้ยน อี้ฟาง พา เบลเยี่ยม ลุยรอบสุดท้ายมาหมดแล้วทั้ง ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 และฟุตบอลโลก 2018

 

ผ่านเวทีมาโชกโชนขนาดนี้สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ก็คิดบวกได้เลยว่าน่าจะเป็นดีลที่ “คุ้ม” แน่ หากสามารถปิดดีลมาร่วมทีมได้จริงตามข่าว

5.เกมรุกอเนกประสงค์

 

พูดถึงสไตล์การเล่นของ การ์ราสโก้ ต้องบอกว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่ครบเครื่องมากๆ เลี้ยงบอลดี ยิงได้ทั้งขวาและซ้าย จังหวะลากตัดเข้ามาซัดถือว่าเป็นทีเด็ด แถมยังยิงฟรีคิกได้อีกตั้งหาก

 

แม้ตำแหน่งถนัดอาจจะประจำการอยู่ทางฝั่งซ้ายเป็นหลัก แต่เอาเข้าจริงตัวรุกฝั่งขวา หรือเป็นกองหน้าตัวต่ำ เจ้าตัวก็เล่นได้หมด ถ้าใครได้ดู ฟุตบอลโลก 2018 ตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายเจ้าตัวก็เคยถูกให้เล่นมาแล้ว

 

ดังนั้นออปชั่นครบจบที่คนเดียวแบบนี้ หาก เอเมรี่ ได้มาเป็นลูกทีมจริงๆ คงจับใช้สอยได้อย่างมันส์มือแน่ เพราะกุนซือชาวสแปนิช ก็จอมแท็กติก ปรับนู้น เปลี่ยนนั้นอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว