สำหรับนักเตะสาวทีมชาติไนจีเรีย ศึกฟุตบอลโลกหญิงครั้งนี้เป็นมากกว่าเกมลูกหนังทั่วไป
แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ หญิง 11 สมัย จากทีมเดียวจากกาฬทวีปที่ผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1991 จนถึงปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นนักเตะในประเทศก็ยังต้องเจอกับอุปสรรคที่คอยขวางกั้นพวกเขาอยู่ เพราะบางที่ในประเทศไนจีเรีย มองว่ากีฬาฟุตบอลไม่ใช่อาชีพที่ยอมรับได้ในเพศหญิง
แต่เพราะอะไรกันที่ทำให้เป็นเช่นนั้น 2 กองหน้าดาวเด่นในทัพอินทรีมรกตจะพาทุกคนไปหาคำตอบเรื่องนี้กัน
อาชีพที่ไม่เหมาะกับผู้หญิง
“นี่ไม่ใช่เแค่ในประเทศไนจีเรียเท่านั้น แต่เป็นทั้งทวีปแอฟริกาต่างหาก” อาสซัส โอโชล่า กองหน้าวัย 24 ปี จากบาร์เซโลน่าและดาวเด่นประจำทีมอินทรีมรกตกล่าว “พวกผู้หญิงควรจะเป็นแม่บ้าน ควรจะทำงานในครัว นั่นแหละคือปัญหา และเราพยายามที่จะเปลี่ยนความคิดนั้น”
ในวัยเด็กของ โอโชล่า ก็ไม่ได้ต่างจากเด็กสาวทั่วไปในประเทศที่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยการหาเลี้ยงชีพด้วยการเตะลูกกลมๆไปมาแบบนี้
“ฉันคงจะอยู่กับพวกเขาและไม่มีเงินมาซื้ออาหารประทังชีวิตแน่” หนึ่งในแข้งบาร์เซโลน่าชุดรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่ล่าสุดพูดถึงชีวิตค้าแข้งของตัวเอง
“ฉันต้องเดินไปซ้อมเอง เพราะพวกท่านไม่ต้องการให้เงินฉันไปทำอะไรแบบนั้น”
“บางครั้ง ฉันต้องเลิกโรงเรียนเพื่อมาซ้อม จากนั้นก็รีบกลับบ้านทันที แถมบางครั้งฉันต้องโกหกพ่อแม่และแวะบ้านเพื่อนก่อนไปเล่นฟุตบอล ถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันเห็นพ่อขึ้นมา ฉันก็จะวิ่งหนีเพื่อไม่ให้เขาเห็น”
ทีมชาติไนจีเรียหญิงทำผลงานได้ดีที่สุดในรายการนี้เมื่อปี 1999 ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ โดยผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่หลังจากนั้นพวกเธอก็ไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้เลยในฟุตบอลโลก 4 ครั้งล่าสุด
และในครั้งนี้ แม้โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปในฟุตบอลโลกครั้งนี้นั้นมีไม่มาก เพราะต้องเจอกับทีมแข็งๆอย่าง นอร์เวย์ หรือ ฝรั่งเศส แต่อย่างน้อยก็หวังว่าจะสร้างความประทับใจและเปลี่ยนความคิดของผู้คนในประเทศได้
อย่างไรก็ตาม แข้งสาวจากทีมชาติไนจีเรียก็ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งของทวีปแอฟริกา และฝ่าฟันอุปสรรคเกินกว่าที่ใครหลายคนจินตนาการไว้เลยทีเดียว
ใครอยากจะแต่งงานกับนักบอลหญิง?
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าฟุตบอลหญิงในแอฟริกาไม่ได้เป็นที่นิยมอย่างเช่นในยุโรป หรือ เอเชีย และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลยในเร็วๆนี้
“ในแอฟริกา มีแค่ไม่กี่คนที่สนใจในฟุตบอลหญิง” โอโชล่ากล่าวต่อ “พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่อยากให้ลูกๆของพวกเขาเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพ พวกเขาอยากให้เข้าไปเรียนหนังสือมากกว่า และนั่นก็เกือบส่งผลต่ออาชีพค้าแข้งของฉันเช่นกัน แต่โชคดีที่ฉันผ่านมันมาได้”
และกองหน้าจากเซี่ยงไฮ้ เชงลี่ ฟรานซิสก้า ออร์เดก้า เพื่อนร่วมทีมชาติของโอโชล่า ก็คิดว่าไนจีเรียคงใช้เวลาอีกนานในการเปลี่ยนความเข้าใจในวงการฟุตบอลหญิงใหม่
“บ่อยครั้งที่ผู้คนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ออร์เดก้า กล่าวกับ BBC “พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งฉันคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ถ้าหากเปลี่ยนเป็นทีมชาย คงมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
กองหน้าสาววัย 25 ปีเคยไปค้าแข้งมาแล้วทั้งใน รัสเซีย, สวีเดน, อเมริกา, ออสเตรเลีย,สเปน และประเทศล่าสุดอย่าง จีน ครั้งหนึ่งเธอเคยโดนแม่แท้ๆของตัวเองบอกว่า ชีวิตนี้คงไม่ได้แต่งงานแน่ๆ ถ้าเอาแต่คลุกอยู่กับฟุตบอล
“ผู้คนรอบตัวฉันเอาแต่บอกว่า ‘เธอคงไม่ได้แต่งงานแน่ เพราะไม่มีใครอยากแต่งงานกับนักบอลหญิงหรอก’” ออร์เดก้ากล่าวถึงเรื่องนี้ “พวกเขาถามต่อว่าเรื่องนี้มันรบกวนฉันหรือเปล่า และฉันตอบกลับไปว่า ‘ไม่’ แต่ลึกๆแล้วมันก็รู้สึกอยู่ไม่น้อย เพราะคุณไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากคนที่คุณรักเลย”
“มีเรื่องเกิดขึ้นบ่อยในทุกๆวัน แม่ฉันต่อต้านเรื่องนี้มาก แต่ตอนนี้เธอโอเคแล้วล่ะ ซึ่งเธอก็ไม่อยากให้ฉันเล่นฟุตบอลเพราะเหตุผลเหล่านั้น แต่ฉันมันเป็นพวกดื้อรั้น ตัดสินใจทำให้สิ่งที่ฉันรัก และฉันก็ดีใจมากเพราะความดื้อด้านทำให้ฉันก้าวมาถึงจุดนี้ได้”
เปลี่ยนแนวคิดใหม่และสร้างแรงบันดาลใจในทวีป
ในการเปลี่ยนความคิดของผู้คนที่มีต่อฟุตบอลหญิง ออร์เดก้าต้องการผลักดันให้แข้งหญิงได้รับค่าจ้างที่ดีขึ้นในไนจีเรีย
“ระดับค่าเหนื่อยนั้นต่ำตามหลังทีมชายเยอะมาก” แข้งวัย 25 ปีพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆ “ถ้าเราได้ค่าจ้าซัก 30-40 เปอร์เซนต์ที่พวกผู้ชายได้ คงจะดีไม่น้อย ซึ่งในตอนนี้เราได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์ของฟุตบอลชายเลยด้วยซ้ำ”
“เราทำได้ทุกอย่างเหมือนที่เขาทำ เราลงเล่นตลอด 90 นาที เราผ่านไปเล่นทั้งในฟุตบอลโลกและโอลิมปิก”
แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องเงินก็ไม่ใช่สิ่งที่ออร์เดก้าคาดหวังเป็นอันดับแรก เพราะสำหรับเธอแล้ว สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือการสร้างแรงบัลดาลใจให้กับแข้งเยาวชนรุ่นใหม่ๆต่างหาก
“ผู้คนบอกกับฉันว่าลูกๆของพวกเขาอยากเป็นแบบฟรานซิสก้า” ออร์เดก้ากล่าว “นั่นทำให้รู้สึกยินดีและมีความสุขมากๆเลยล่ะ”
“มันเกี่ยวกับว่าคุณมีอิทธิผลต่อคนอื่นมากแค่ไหน ซึ่งสำหรับตัวฉันก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ฉันอยากให้มีคนพูดว่า ‘ฉันอยากเป็นแบบคุณในอนาคตจังเลย’ ฉันยินดีมากๆที่สามารถสร้างผลกระทบด้านบวกต่อชีวิตของใครซักคน”
ไนจีเรียผ่านเข้าเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายพร้อมๆกับ แคเมอรูน และ ทีมที่ได้โอกาสเล่นในรายการนี้ครั้งแรกอย่าง แอฟริกาใต้
แต่ถึงอย่างนั้น แข้งสาวทีมอินทรีมรกตก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของคนทั้งทวีปแอฟริกาในฟุตบอลโลกครั้งนี้มากที่สุดในฐานะแชมป์ทวีป
“เราเป็นเจ้าลูกหนังในแอฟริกาได้ แม้จะเตรียมตัวได้ไม่ดีนัก นั่นบ่งบอกอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับทีม” โอโชล่า กล่าวเสริมขึ้นมา “การเข้าแข้งขันฟุตบอลโลกในฐานะแชมป์ทวีปทำให้เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น เนื่องจากนี่หมายถึงการเป็นตัวแทนของคนแอฟริกาทั้งทวีป”
รอวันชำระแค้น
ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ไนจีเรียคว้า 3 แต้มสำคัญมาได้ หลังเอาชนะเกาหลีใต้ไป 2-0 ในเกมรอบแบ่งกลุ่ม A นัดสอง และโอกาสในการเข้ารอบต่อไป ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันของเกมในนัดสุดท้ายของรอบนี้ที่พวกเธอจะต้องเจอกับ ฝรั่งเศส ทีมเจ้าภาพ ซึ่งมีประวัติกับแข้งสาวไนจีเรียอยู่พอสมควรเลย
ออร์เดก้ายังจำได้ดีว่าทีมของเธอพ่ายต่อแข้งสาวแดนน้ำหอมไป 8-0 เมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นสิ่งเดียวที่ติดอยู่ในใจของแข้งสาวไนจีเรียก็คือ ‘ต้องชำระแค้นให้ได้’
“เราไม่ได้กลัวฝรั่งเศส” ออร์กล่าวถึงคู่แข่ง “ฉันชอบความท้าทาย เราเคยพบกับพวกเขามาก่อนในเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ซึ่งผลออกมาแย่มากๆ แต่นั่นแหละฟุตบอล”
“ในฟุตบอลโลกปี 2011 ที่เยอรมัน เราแพ้ให้กับฝรั่งเศส 8-0 ในช่วงเตรียมตัวก่อนทำศึก แต่ในทัวร์นาเม้นต์จริงๆ พวกเขาแทบยิงประตูใส่เราไม่ได้เลย และเรารู้ดีว่าฝรั่งเศสเป็นทีมที่ดีแค่ไหน”
โอโชล่า กองหน้าไนจีเรียอีกคนกล่าวเพิ่มว่า “เขาไม่มีทางเอาชนะเรา 8-0 และกลับมาทำซ้ำไปซ้ำมาได้อีกรอบหรอก ไม่มีวัน”
“เราทุ่มเทเต็มร้อยกับพวกเขาแน่นอน เราอยากให้พวกเขาได้รู้ว่า ตอนนั้นเป็นแค่ความผิดพลาด เราต้องดึงเอาภาพลักษณ์ของทีมกลับมาให้ได้ และมันจะเป็นเกมที่น่าสนใจมากๆเลยล่ะ” กองหน้าจากบาร์เซโลน่ากล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : World Cup 2019: Nigeria on ‘changing mentality’ of women’s football in Africa
: https://www.bbc.com/sport/football/48297084
