เรื่องราวสุดดราม่าประจำตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ คงจะไม่มีดีลไหนเกินไปกว่าการย้ายทีมของ อองตวน กรีซมันน์ ที่ดูเหมือนว่า บาร์เซโลน่า จะคว้าตัวมาแบบไม่ชอบมาพากล จนทำให้ แอตเลติโก มาดริด ออกอาการโมโหอย่างหนัก และเตรียมดำเนินคดีกับพวกเขา ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อาซูลกราน่าก่อปัญหาในการซื้อผู้เล่น ดังนั้น วันนี้เราจะพามาดูกันกับ 5 การย้ายทีมที่ไม่ใช่เรื่องดีงามเลยของเจ้าบุญทุ่ม
มัลค่อม
ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2018 โรม่า สามารถตกลงค่าตัวของ มัลค่อม กับทาง บอร์กโดซ์ ได้แล้วเรียบร้อย และนักเตะจะต้องบินไปกรุงโรมเพื่อตรวจร่างกายในคืนดังกล่าวเลย อย่างไรก็ตาม อีก 11 ชั่วโมงต่อมา บาร์เซโลน่า ได้เข้าสู่การต่อสู้ในดีลนี้ และทำการเกทับด้วยจำนวนเงินที่มากกว่า สโมสรจากลีกเอิงจึงหยุดไม่ให้ปีกบราซิเลี่ยนเดินทางไปอิตาลี พร้อมเปลี่ยนตั๋วให้เขาไปเซ็นสัญญาที่คาตาลันแทน
วิธีการเช่นนี้ของ บาร์เซโลน่า ได้ทำให้ผู้อำนวยการกีฬาของ โรม่า อย่าง มอนชี่ ควันออกหู และเขาก็ขู่ที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับอาซูลกราน่า แม้ทาง บาร์ซ่า จะออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หมาป่ากรุงโรมก็ปฏิเสธไม่รับคำขอโทษนั้น พร้อมออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันที
“บาร์เซโลน่า ขอโทษในการกระทำของพวกเขา และวิธีการที่พวกเขาทำสิ่งต่างๆ ผมไม่ยอมรับคำขอโทษทั้งหมดนั้น ทางเดียวที่ผมจะยอมรับคำขอโทษจาก บาร์ซ่า คือการที่พวกเขาส่งผู้เล่นมาให้เราคืน และนั่นคงจะไม่เกิดขึ้น บางทีอย่างน้อยที่สุดที่พวกเขาจะสามารถทำได้คือการส่ง เมสซี่ มาให้เรา”
แม้จะมีความยุ่งยากกว่าจะได้ มัลค่อม มา แต่ในฤดูกาลที่แล้ว เจ้าตัวกลับไม่ได้รับความสำคัญมากนักจาก บาร์เซโลน่า และมีความเป็นไปได้เหมือนกันที่เขาจะย้ายออกจากถิ่น คัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์นี้
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 บาร์เซโลน่า เสีย เนย์มาร์ ไปให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และพวกเขาต้องการนักเตะที่มีคุณภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเข้ามาทดแทน โดยมีชื่อของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เป็นเป้าหมายหลัก แต่ก็แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล ย่อมไม่อยากขายผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมออกไป
แต่เมื่อ คูตี้ รับรู้ถึงความสนใจจาก บาร์ซ่า จิตใจของเจ้าตัวก็ล่องลอยไปคาตาลันทันที พร้อมเรียกร้องขอขึ้นบัญชีย้าย อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาเพื่อประกาศว่าดาวเตะรายนี้ไม่ได้มีไว้ขาย แต่ถึงกระนั้น แม้เพลย์เมคเกอร์บราซิเลี่ยนจะเข้าร่วมช่วงปรีซีซั่นตามปกติ แต่เขากลับตัดสินใจหนีหายไปดื้อๆในช่วงต้นฤดูกาล เพื่อพยายามบังคับให้ต้นสังกัดยอมปล่อยออกจากทีม
หงส์แดงยังคงยืนกรานที่จะไม่ขาย และบอกปัดข้อเสนอจากอาซูลกราน่าหลายครั้งในตลาดซื้อขายหน้าร้อน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว หลายคนที่เกี่ยวข้องกับ บาร์ซ่า ได้ออกมาพูดสนับสนุนให้เกิดการย้ายทีมขึ้นต่อสาธารณะ อย่างเช่นการให้สัมภาษณ์ของ หลุยส์ ซัวเรซ หรือ เปาลินโญ่ โดยวิธีการใช้สื่อเป็นเครื่องมือนี้ มันได้สร้างความโกรธเคืองให้เหล่าเดอะค็อปเป็นอย่างมาก
สุดท้าย ตัวรุกแซมบ้าก็ได้ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า สมใจในเดือนมกราคมปี 2018 และกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดที่ ลิเวอร์พูล ขายออกจากทีม
อุสมาน เดมเบเล่
บาร์เซโลน่า ล้มเหลวจากการตามล่า คูตินโญ่ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 แต่พวกเขาก็สามารถคว้าตัว อุสมาน เดมเบเล่ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ในตลาดซื้อขายรอบนั้น ในฐานะตัวแทนแก้ขัดของ เนย์มาร์
โดยก่อนหน้าที่การย้ายทีมจะลุล่วง ทัพต่างดาวแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าต้องการตัว เดมเบเล่ แต่ ดอร์ทมุนด์ ปฏิเสธที่จะขายแข้งรายนี้ไปให้ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือปีกเฟรนช์แมนตัดสินใจโดดซ้อม และเดินทางไปสเปนเพื่อบีบให้ต้นสังกัดยอมปล่อย อย่างไรก็ตาม ทีมเสือเหลืองแก้เผ็ดด้วยการดองเจ้าตัวไปเรื่อยๆ ทั้งยังบอกปัดข้อเสนอที่สูงถึง 100 ล้านยูโร ที่ยื่นเข้ามา
แต่ต่อมา ดอร์ทมุนด์ ก็ได้เปลี่ยนท่าทีของตัวเอง และอนุญาตให้ เดมเบเล่ ย้ายทีมด้วยค่าตัว 105 ล้านยูโร บวกกับแอด-ออนส์อีก 40 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นดีลดังกล่าว แนวรุกเลือดน้ำหอมดันออกมาคุยโวการกระทำของตัวเองที่ทำให้ยอดทีมจากบุนเดสลีก้าถึงกับควันออกหูเมื่อได้ยิน
“ผมตัดสินใจไม่ไปซ้อม ผมไม่อยากไป ผมมองหาข้ออ้างที่จะไม่ไป หากมันไม่ได้ผล และผมไม่ได้ทำในส่วนของผมเพื่อย้ายไป บาร์ซ่า ตอนนี้ผมคงจะกำลังเสียใจกับความจริงที่ว่าผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมตื่นเต้นจริงๆ แม้ว่าผมจะได้พักผ่อนในตอนกลางคืน ผมก็อยากให้มันผ่านไปโดยเร็วที่สุด”
เนย์มาร์
เนย์มาร์ เคยย้ายทีมสองครั้งในอาชีพการค้าแข้ง และทั้งสองหนก็มีเรื่องให้ต้องพูดถึงมากมาย โดยในครั้งแรกที่เขาย้ายจาก ซานโตส ไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2013 ตอนแรกทุกอย่างจบลงไปแบบไม่มีปัญหาใดใด แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เห็น
ในเดือนมกราคมปี 2014 สำนักงานอัยการในกรุงมาดริด ได้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการย้ายทีมของ เนย์มาร์ และพบว่ามีข้อมูลที่ขัดแย้งกัน ไม่กี่วันหลังจากนั้น ในวันที่ 23 มกราคม ประธานสโมสรบาร์ซ่าอย่าง ซานโดร โรเซลล์ ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และหลายวันต่อมา ก็มีการเปิดเผยว่าจริงๆแล้ว ดีลดังกล่าวมีค่าธรรมเนียมการย้ายทีมเกือบ 100 ล้านยูโร ซึ่งไม่ตรงกับรายงานที่แจ้งมาก่อนหน้านี้ว่ามีมูลค่า 57.1 ล้านยูโร
ท้ายที่สุดก็มากระจ่างชัดว่าครอบครัวของ เนย์มาร์ ได้รับเงินจำนวน 40 ล้านยูโร จาก บาร์เซโลน่า และผลจากการกระทำดังกล่าว ทำให้อาซูลกราน่าถูกตั้งข้อหาโกงภาษี นอกจากนี้ ซานโตส อดีตต้นสังกัดของสตาร์แซมบ้า ก็ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ฟีฟ่า เพื่อขอเงินชดเชยจากการทำผิดสัญญาซื้อขายในครั้งนี้
อองตวน กรีซมันน์
และนี่คือเรื่องฉาวล่าสุดของ บาร์เซโลน่า…
มันไม่ใช่ความลับที่ บาร์ซ่า พยายามจะเซ็นสัญญากับ กรีซมันน์ ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 แต่เจ้าตัวตัดสินใจที่จะอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด ต่อ อย่างไรก็ตาม ก่อนสิ้นสุดฤดูกาล 2018-19 ทีมตราหมีได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าแนวรุกทีมชาติฝรั่งเศสจะย้ายออกจากทีมแน่นอนในช่วงตลาดซื้อขายหน้าร้อน
ทั้งนี้ ค่าฉีกสัญญาของ กรีซมันน์ จะลดจาก 200 ล้านยูโร เหลือ 120 ล้านยูโร ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป และในวันที่ 12 กรกฎาคม บาร์เซโลน่า ก็ประกาศคว้าตัว กรีซมันน์ มาร่วมทัพด้วยการจ่ายค่าฉีกสัญญา 120 ล้านยูโร แต่หลังจากนั้นเพียงวันเดียว แอตเลติโก ได้ออกมาโต้แย้งข้อตกลงดังกล่าว และบอกว่าอาซูลกราน่ายังต้องจ่ายเพิ่มอีก 80 ล้านยูโร สำหรับดีลนี้
ทีมตราหมี ระบุว่านักเตะได้ตกลงกับ บาร์เซโลน่า ไปแล้วก่อนที่ค่าฉีกสัญญาจะลดลง และพวกเขาจะดำเนินการทางกฎหมายกับแชมป์ลาลีก้า เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งในขณะนี้ เรื่องราวดังกล่าวยังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวน