38 ปีที่รอคอย : ‘วูล์ฟส์’ ดีพอจะชูถ้วยยูโรป้าลีกหรือไม่?

 

ย้อนกลับไปในปี 1982 คือฤดูกาลที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส เกือบเป็นปีที่พวกเขาล้มละลายและกลายเป็นแค่ร่องรอยประวัติศาตร์ในวงการลูกหนังโลกเสียแล้ว ก่อนจะได้พี่น้องฟาตีมาช่วยแก้ไขวิกฤตการเงินให้ในท้ายที่สุด

 

ทว่าผู้ช่วยชีวิตสโมสรไว้กลับกลายเป็นผู้ทำลายเสียเอง หลังลงทุนในการซื้อขายที่ดินผิดแผนจนทำให้งบประมาณและการลงทุนในสโมสรถูกตัดออกไป จน 3 ปีต่อมา ทีมหมาป่าก็ค่อยๆร่วงตกชั้นไปเรื่อย และหล่นไปอยู่ลีกระดับ 4 ของอังกฤษครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีมเมื่อปี 1986 แลต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าที่ดิ้นรนกลับมาเล่นในลีกสูงสุดของประเทศได้อีกครั้ง

 

แต่ปัจจุบันพวกเขาดูมีอนาคตที่สดใสกว่าตอนนั้นมากหลายเท่าตัว เมื่อวูล์ฟสได้โอกาสเข้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปอีกครั้งในรอบ 38 ปีกับศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่สโมสรมีส่วนก่อตั้งให้เกิดขึ้นเมื่อ 60 กว่าปีก่อนด้วย   

 

และฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาเล่นงานทีมบรรดาท็อปซิกซ์ในพรีเมียร์ลีกได้อยู่หมัด แถมยังเอาชนะคู่ชิงยูโรป้าลีก ฤดูกาลก่อนอย่าง เชลซี และ อาร์เซน่อล ได้ทั้ง 2 ทีมอีกด้วย 

 

เพราะฉะนั้น คำถามที่เราสงสัยคือ วูล์ฟส์จะดีพอในการฝ่าด่านสโมสรต่างๆทั่วโยุโรปได้ไปชูถ้วยแชมป์รายการนี้ที่ กดังส์ ในวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2020 หรือไม่?

 

 

ประสบการณ์ในบอลยุโรป

 

 

การเข้ามาเล่นในยูโรป้าลีกรอบแบ่งกลุ่มได้ถือว่าไม่ใช้งานง่ายหรือเป็นอะไรที่มีไม่มีความหมายเลยสำหรับทีมอย่าง วูลฟ์แฮมป์ตัน

 

ชัยชนะทั้งในและนอกบ้าน ณ การแข่งขันรอบเพลย์ออฟกับ โตริโน่ ถือเป็นครั้งที่ 11 สำหรับทีมจากอังกฤษที่สามารถเอาชนะทีมจากอิตาลีได้แบบขาไปและขากลับในประวัติศาสตร์รายการฟุตบอลยุโรปเท่านั้น

 

นี่ถือเป็นความสำเร็จที่น่าจดจำมากๆสำหรับทีมที่เป็นตัวตั้งตัวตีทำให้เกิดรายการแข่งขันในยุโรป

 

ณ วันที่ 13 ธันวาคม 1954 ภายใต้แสงไฟและต่อหน้าตากล้องสื่อมวลชนในสนามโนลินิวซ์ สเตเดี้ยม วูล์ฟส์ ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์ประจำเกาะอังกฤษ ต้องลงฟาดแข้งกับ ฮอนเวด บูดาเปสต์ ยอดทีมจากประเทศบัลแกเรีย และมีศักขีพยานในเกมนั้นกว่า 55,000 คน โดยที่เจ้าบ้านเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-2 ก่อนที่การแข่งขันในนัดนี้จะเป็นตัวจุดกระแสที่ทำให้การแข่งขันฟุตบอลรายการยุโรปถือกำเนิดขึ้นในอีก 9 เดือนต่อมา

 

เจ้าของฉายา ‘หมาป่า’ ในแดนผู้ดี เป็นสโมสรจากอังกฤษทีมที่ 2 ที่ได้ลงเล่นในรายการยูโรเปี้ยน คัพ ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยลงเล่นในฤดูกาล 1958-59 และ 1959-60 นอกจากนี้พวกเขายังได้เข้าชิงยูฟ่า คัพ ในปี 1972 อีกด้วย ก่อนจะไปพ่ายให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในนัดชิง 2 เลก ณ สมัยนั้น

 

และนั่นเป็นประสบการณ์ในฟุตบอลยุโรปที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน เคยทำไว้เลย 

 

 

ชัยชนะ 6 นัดติด

 

 

ปัจจุบัน วูล์ฟส์ทำสถิติคว้าชัยชนะในเกมยุโรป 6 นัดติด ซึ่งเป็นสถิติเก่าของสโมสร หลังเอาชนะทีมกระทิงหินจากอิตาลีมาได้ 2-1 ในเกมเพลย์ออฟรอบสุดท้าย นัดที่ 2 

 

ราอูล ฆิมิเนซ กองหน้าชาวเม็กซิกัน ก็ทำสถิติซัดไปแล้วกว่า 6 ประตูในฟุตบอลรายการยุโรป แถมยิงประตูเบิกสกอร์แรกในเกมนั้นด้วย

 

และสำหรับ สตีฟ บิช็อป แฟนบอลพันธ์แท้ของวูล์ฟส์ นี่ถือเป็นอีกเกมที่น่าจดจำ รวมไปถึงทริปที่เดินทางกว่า 10,251 กิโลเมตร ไปอาร์เมเนีย เพื่อดูเกมที่เอาชนะ พิวนิคได้ 4-0 ด้วยเช่นกัน แม้เขาจะได้ดูเกมนั้นแค่ 18 นาทีเท่านั้น เนื่องจากไฟท์บินของเขาดีเลย์ทำให้มาถึงช้ากว่ากำหนด

 

“เรามีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในยุโรป คุณแค่ต้องมีอายุมากหน่อยถึงจะจำเรื่องนี้ได้” บิช็อบกล่าว

 

 

“ผมจำได้ดีกับเกมนัดชิงที่พบกับ สเปอร์ส แต่น่าผิดหวังเช่นกันที่ผมไม่เคยได้ไปชมเกมวันนั้น และชัดเจนว่าเราไม่เคยก้าวไปถึงจุดนั้นได้เลย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

 

“เรื่องก็คือที่วูล์ฟส์นั้น เราคิดเสมอว่าเราเป็นสโมสรใหญ่ อาจจะไม่ใช่ทีมระดับหัวแถวของวงการ แต่ก็อยู่ต่ำกว่าแค่ระดับนี้เท่านั้น แต่ก็เป็นเวลา 40 ปีมาแล้วที่เราไม่สามารถเติมเต็มศักยภาพของทีมเราได้”  

 

 

มีดีพอควัาชูถ้วย?!

 

 

เบซิคตัส, บราก้า และ สโลวาน บราติสลาว่า คือ คู่แข่งสุดแกร่งที่วูล์ฟแฮมป์ตันจะต้องเผชิญหน้าในกลุ่ม K 

 

กุนซือทีมหมาป่า นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทีมมีพัฒนาการมากขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่เข้ามานั่งเก้าอี้ในถิ่น โมลินิวซ์ สเตเดี้ยมแห่งนี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2017

 

แต่ถึงอย่างนั้น นายใหญ่ชาวโปรตุเกสปฏิเสธที่จะทำนายว่าทีมของเขามีโอกาสมากแค่ไหนที่จะเข้าชิงในรายการนี้ โดยช่วงที่มีการจับฉลากรอบแบ่งกลุ่ม เขากล่าวแค่ว่า “หลังจากที่ซ้อมกันเสร็จสิ้น ผมจะดูการจับฉลาก”

 

ทว่าคนอื่นๆที่อยู่ในสโมสร พวกเขากลับคิดว่ามีโอกาสไม่น้อยเลยที่ทีมนี้จะเข้าชิงหรือดีพอคว้าแชมป์รายการนี้

 

“ใช่ พวกเขามีความสามารถที่จะทำมันได้เลยล่ะ” เมล อีฟส์ อดีตนักเตะวูล์ฟส์ที่เคยลงเล่นให้ทีมมากกว่า 214 นัด และลงเล่นในทีมบ้านเกิดถึง 9 ปีเต็มๆ นับตั้งแต่ฤดูกาล 1975 และก่อนฤดูกาลนี้ เขาเป็นนักเตะคนล่าสุดของวูล์ฟส์ที่ทำประตูได้ในฟุตบอลยุโรปได้

 

 

“คนที่อายุต่ำกว่า 40 ปีคงไม่มีความทรงจำอะไรเลว่าวูล์ฟส์เคยเป็นสโมสระดับยุโรปเลย ยกเว้นพวกที่มีอายุมากกว่านั้น และถือว่านี่เป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จแล้วที่เจ้าของทีมคนปัจจุบันพยายามจะเอาเยี่ยงอย่างทีมในยุคนั้น”

 

“ ในปี 1970 เราแข็งแกร่งพอที่จะแข่งขันกับทีมอย่างลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แม้ว่าเราจะทำผลงานแบบคงเส้นคงวาได้ไม่ดีพอจนคว้าแชมป์ลีกได้ก็ตาม”

 

“ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับ บิวรี่ หรือ โบลตัน ทำให้ง่ายที่จะจดจำได้ว่าเรื่องนี่ก็เคยเกิดขึ้นกับเราด้วย เมื่อวูล์ฟส์เคยมีปัญหาเรื่องนี้ และหล่นไปเล่นในลีกระดับล่าง”

 

“แต่เจ้าของสโมสรในตอนนี้ต้องการให้เรากลับไปอยู่ในยุคที่เราเคยยิ่งใหญ่และเกรียงไกรอีกครั้งและนั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการเช่นกัน”