เทคโนโลยีวีดีโอช่วยตัดสิน หรือ VAR ถูกนำมาใช้ในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวช่วยนี้กลับสร้างเรื่องราวให้แฟนบอลได้ถกเถียงกันหนักกว่าเดิมอีก
นั่นเป็นเพราะในลีกมีการเปลี่ยนคำตัดสินทั้งสิ้นกว่า 27 ครั้ง หลังจากผ่านไปแค่เกือบ 3 เดือนเศษเท่านั้น โดยแบ่งเป็น การให้ประตู 7 ครั้ง,การริบประตู 16 ครั้ง, ให้จุดโทษ 5 ครั้ง, เปลี่ยนไม่ให้จุดโทษ 1 ครั้ง และ ใบแดงอีก 1 ครั้ง
ทาง UFA ARENA จึงขอพาทุกท่านไปเจาะลึกถึง 20 สโมสรจากลีกสูงสุดแดนผู้ดีว่าทีมไหนได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนคำตัดสินของ VAR และ ทีมไหนเสียประโยชน์กับมันมาที่สุดในตอนนี้
หมายเหตุ : เครื่องหมาย + หมายถึงได้ประโยชน์, เครื่องหมาย – เท่ากับเสียประโยชน์ โดยนับหน่วยเป็นจำนวนครั้ง
ปล. สถิตินี้นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลจนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560
20.คริสตัล พาเลซ (+3)
ทีมปราสาทเรือนแก้วพบการช่วยตัดสินจาก VAR แค่ 3 ครั้ง และเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมทั้งหมด และทั้ง 3 ครั้งที่ว่าก็ช่วยให้พวกเขาได้ประโยชน์ไปเต็มๆ
ครั้งแรกเกิดขึ้นกับลูกยิงของ จอร์แดน อายิว ในช่วงท้ายเกมที่พบกับเวสต์แฮม ที่เปลี่ยนให้เป็นประตู หลังตอนแรกตัดสินว่าล้ำหน้า, ครั้งที่ 2 คือการเปลี่ยนคำตัดสินมอบจุดโทษให้พาเลซแทน หลัง ทีแรกแจกใบเหลืองให้ วิลเฟร็ด ซาฮา ข้อหาพุ่งล้ม และ ครั้งที่ 3 ริบประตูช่วงท้ายเกมของ โซคราติสในเกมที่เสมอกับ อาร์เซน่อล 2-2
19.เลสเตอร์ ซิตี้ (+3)
หากจะบอกว่า VAR มีส่วนช่วยให้ให้เลสเตอร์ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีกได้แบบเหนือคาดความหมาย ก็คงไม่ผิดนัก หลังพวกเขาโดนริบประตูของ อโยเซ่ เปเรซ ในเกมพบกับ สเปอร์ส เท่านั้น
ส่วนที่เหลือทีมจิ้งจอกได้ประโยชน์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการริบประตูคู่แข่งของพวกเขาอย่าง วูล์ฟส, สเปอร์ส และ เบิร์นลีย์ บวกกับใบแดงของ ไรอัน เบอร์ทรานด์อีก 1 ในเกมที่พวกเขาถล่มเซาธ์แธมป์ตันแบบยับเยิน 9-0
18.แมนยูไนเต็ด (+2)
ถึงฟอร์มในลีกจะแย่แค่ไหน แต่ VAR ก็ยังเข้าข้างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นส่วนใหญ่ หลังรอดพ้นการเสียประตูในนัดเจอลิเวอร์พูล เนื่องจากซาดิโอ มาเน่ แฮนด์บอลไปก่อน และได้ 2 จุดโทษในนัดที่พบนอริช แม้ว่าพวกเขาจะยิงพลาดก็ตาม
ปีศาจแดงโดน VAR เล่นงานแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อเปลี่ยนคำตัดสินให้จังหวะที่ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เป็นประตูในเกมที่เสมอกับ อาร์เซน่อล 1-1
17.เซาแธมป์ตัน (+2)
ทีมนักบุญเจอการช่วยตัดสินด้วยวีดีโอไป 4 ครั้งในฤดูกาลนี้ และมีแค่ครั้งเดียวที่พวกเขาเสียหายก็คือใบแดงของ ไรอัน เบอร์ทรานด์
ส่วนประตูที่ โอลี่ แม็คเบอร์นี่, โจชัว คิง และ ราอูล ฆิมิเนซ ยิงใส่ทีมแดนใต้จากเกาะอังกฤษ ถูก VAR ตัดสินเปลี่ยนให้เป็นจังหวะล้ำหน้าทั้งหมด
16.ไบรท์ตัน (+1)
ทีมนกนางนวลลิ้มรสชาติ VAR เป็นครั้งแรกจากจังหวะถูกริบประตูคืนของ เลอันโดร ทรอสซาร์ด ในเกมที่พบกับ เวสต์แฮม เดือนสิงหาคม
แต่หลังจากนั้น ไบรท์ตันก็เจอเรื่องดีๆจาก VAR ในเวลาต่อมา กับลูกยิงของคอนเนอร์ ฮูริฮาน แข้งแอสตัน วิลล่า ที่ไม่นับเป็นประตู และ ช่วยให้อารอน คอนนอลลี่ ได้จุดโทษในนัดที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-2
15.เบิร์นลี่ย์ (+1)
แม้ว่าเบิร์นลี่ย์จะอดได้ประตูหลัง VAR ปฏิเสธการทำเข้าประตูตัวเองของ จอนนี่ อีแวนส์ ในเกมชนเลสเตอร์ พวกเขาก็ได้ฝ่ายได้ประโยชน์บ้าง เมื่อลูกยิงของ จอห์น แม็คกิน แข้งจากแอสตัน วิลล่า ไม่ถูกนับ
นอกจากนี้ เดอะ คลาเร็ต ยังรอดพ้นจากการเสียจุดโทษ หลังกรรมการเช็คจาก VAR และมองว่า คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย เจตนาพุ่งล้มในกรอบมากกว่า
14.สเปอร์ส (+1)
สเปอร์รอดพ้นจากความปราชัยต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ในเดือนสิงหาคม เมื่อลูกยิงของ กาเบรียล เฆซุส ถูกริบคืน ณ ช่วงท้ายเกม เมื่อเดือนสิงหาคม
จากนั้นไก่เดือยทองก็ได้และเสียประโยชน์อย่างละครั้ง กับจังหวะลูกยิงของ อโยเซ่ เปเรซ ที่ถูกปฏิเสธ และ ลูกยิงของ แซร์จ ออริเย่ร์ แบ็คขวาของทีมที่โดนแบบเดียวกันในเกมพ่ายเลสเตอร์ 2-1
13.วัตฟอร์ด (+1)
วัตฟอร์ดเจอกับ VAR แค่ครั้งเดียว และก็ได้ประโยชน์แบบสุดๆ เมื่อสโมสรฉายา ‘แตนอาละวาด’ ได้จุดโทษ หลังผู้ตัดสินมองว่า เคราร์ด เดโลเฟว ถูก จอร์จินโญ่ สกัดล้มในกรอบ 18 หลา
แต่ประตูนั้นก็ไม่เพียงให้กับพวกเขาตามตีเสมอเชลซีได้ทัน ก่อนจะไปพ่ายไปด้วยสกอร์ 2-1
12.บอร์นมัธ (0)
2 ครั้งที่เดอะ เชอร์รี่ส์ ต้องเผชิญหน้ากับ VAR คือ ลูกยิงของโจชัว คิง กลายเป็นประตูในเกมพบเวสต์แฮม และ ลูกยิงของ แข้งชาวนอร์เวย์คนเดิมที่ถูกเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าในเกมพบ เซาแธมป์ตัน
11.นิวคาสเซิล (0)
สาลิกาดงเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ไม่ต้องเจอกับเปลี่ยนคำตัดสินไปๆมาๆของ VAR ให้หัวเสียหรือสับสนในฤดูกาลนี้
10.ลิเวอร์พูล (0)
เหล่าเดอะ ค็อป ต่างโล่งใจสุดๆที่ลูกยิงของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ไม่ถูกนับเป็นประตูในเกมที่ลิเวอร์พูลเอาชนะเชลซีไปสุดมันส์ 2-1
แต่แฟนหงส์แดงก็ต้องหัวเสียไม่น้อยกับประตูของ ซาดิโอ มาเน่ที่ถูกริบไปในเกมแดงเดือด แม้จะยิงประตูตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกมก็ตาม
9.อาร์เซน่อล (-1)
ประตูของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ในนัดที่เสมอกับ แมนยูไนเต็ด แต่เดิมถูกเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ก่อนจะเปลี่ยนคำตัดสินใหม่หลังชมภาพย้อนหลังจาก VAR
แต่ ปืนใหญ่ก็ต้องโดนเทคโนโลยีนี้เล่นแง่ถึง 2 ครั้งในนัดที่พบ คริสตัล พาเลซ หลังกรรมการเปลี่ยนคำตัดสินให้จุดโทษจากจังหวะล้มในกรอบเขตโทษของ วิลเฟร็ด ซาฮา และริบประตูของ โซคราติส คืนในช่วงท้ายเกม จนทำให้พวกเขาทำได้แค่เสมอกับคู่แข่งในบ้าน 2-2
8.เอฟเวอร์ตัน (-1)
VAR ถูกใช้กับเอฟเวอร์ตันแค่ครั้งเดียวก็จริง แต่ก็ส่งผลต่อพวกเขาอย่างรุนแรง หลังท่านเปาได้เปลี่ยนคำตัดสินให้ท็อฟฟี่เสียจุดโทษจากจังหวะที่ ไมเคิล คีน ทำฟาวล์ใส่ อารอน คอนเนลลี่ ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะพ่ายไปด้วยสกอร์ 3-2
7.แมนซิตี้ (-1)
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร กาเบรียล เฆซุส ถึงมีประเด็นกับ VAR บ่อยกว่าแข้งรายอื่น เมื่อประตูของเขาในเกมที่พบ เวสต์แฮม และ สเปอร์ส ถูกริบคืนทั้งหมด
แต่อย่างน้อย เรือใบสีฟ้าก็ยังได้ประโยชน์อยู่บ้าง กับจุดโทษในเกมที่พบขุนค้อน เนื่องจาก ดีเคลน ไรซ์ ไปทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เซร์คิโอ้ อเกวโร่ จะเปลี่ยนเป็นประตูในเวลาต่อมา
6.นอริช ซิตี้
ขณะที่ทีมนกขมิ้นเหลืองอ่อน โดนผลกระทบจาก VAR ในทางที่ไม่ดีถึง 2 ครั้ง แต่การริบประตูของ เคิร์ท ซูม่า ก็ช่วยให้ผลการแข่งขันของพวกเขาไม่เละไปกว่านี้ ในนัดที่พ่ายเชลซีไป 3-2
ส่วน 2 ครั้งที่กล่าวไปในข้างต้นจากเกมที่ นอริช เปิดแคโรว์ โร้ด พ่าย แมนยูไนเต็ดไป 3-1 หลัง VAR มอบจุดโทษย้อนหลังให้กับทีมเยือนถึง 2 ลูก แต่ทิม ครูล นายทวารของทีมก็เซฟลูกยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ไว้ได้เช่นกัน
5.เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (-1)
ทีมน้องใหม่หน้าเก่าอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นอีกทีมที่โดน VAR เล่นงานเพียงแค่ครั้งเดียวในฤดูกาลนี้ โดยเกิดขึ้นกับลูกยิงของ โอลิ แม็คเบอร์นี่ ที่ไม่ถูกนับเป็นประตูในเกมพบเซาแธมป์ตันเมื่อเดือนกันยายน
4.เวสต์แฮม (-1)
ทีมของมานูเอล เปเยกรินี่ ต้องเจอกับ VAR ถึง 5 ครั้ง และต้องเจอกับผลลัพธ์ที่ปะปนกันไป
ในเกมที่พบกับ แมนซิตี้ และ ไบรท์ตัน ประตูของทีมคู่แข่งถูกริบคืนจาก VAR แต่พวกเขาก็เป็นฝ่ายเสียประโยชน์บ้างในนัดที่พบ บอร์นมัธ และ คริสตัล พาเลซ หลังกรรมการเปลี่ยนให้ลูกล้ำหน้าของคู่แข่งในตอนแรกให้กลายเป็นประตูในภายหลัง
นอกจากนี้ ทีมขุนค้อน ยังต้องเสียจุดโทษในนัดที่พบกับซิตี้อีก หลังผู้ตัดสินมองว่า ดีเคลน ไรซ์ ฟาวล์คู่แข่งในกรอบเขตโทษ ก่อนที่พวกเขาจะโดนแชมป์เก่ายำใหญ่ไป 5-0
3.แอสตัน วิลล่า (-2)
ทีมสิงห์ผงาดต้องพลาดโอกาสยิงประตูใส่คู่แข่งเพราะ VAR ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ซึ่ง 1 ในนั้นส่งผลต่อการแข่งขันของพวกเขาเต็มๆ
ลูกยิงของ จอห์น แม็คกินน์ ไม่ถูกนับในเกมพบเบิร์นลี่ย ทำให้วิลล่าได้แค่ผลเสมอ 2-2 ขณะที่อีกครั้งเกิดขึ้นกับโอกาสยิงของ คอนเนอร์ ฮูริฮาน ในเกมดวลกับ ไบรท์ตัน แต่อย่างน้อยทีมน้องใหม่ก็ยังเอาชนะไปได้ 2-1 อยู่ดี
2.วูล์ฟแฮมป์ตัน (-2)
เช่นเดียวกับ แอสตัน วิลล่า วูล์ฟแฮมป์ตันก็โดน VAR ริบประตูคืนถึง 2 ครั้งไม่ต่างกัน โดยแบ่งเป็นจังหวะยิงของ เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์ ในนัดที่พบกับ เลสเตอร์ เมื่อเดือนสิงหาคม และลูกยิงของ ราอูล ฆิมิเนซ ในนัดที่พบกับเซาแธมป์ตันเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ซึ่งทั้ง 2 การตัดสินนั้นทำให้ทีมหมาป่าจากเวสต์มิดแลนด์สทำได้แค่เสมอกับคู่แข่งและคว้าไปเพียงนัดละแต้มเท่านั้น
1.เชลซี (-4)
ไม่มีทีมไหนในพรีเมียร์ลีกที่เสียประโยชน์จาก VAR ไปมากกว่า เชลซีอีกแล้ว หลัง 4 ครั้งที่ผ่านมา ไม่มีครั้งไหนเลยที่ทีมจากลอนดอนเป็นฝ่ายได้เหมือนทีมอื่นๆบ้าง
ลูกยิงของ เคิร์ท ซูม่า และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ถูก VAR ปฏิเสธนับเป็นประตู ในเกมที่พบกับ นอริช และ ลิเวอร์พูล ขณะที่ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย จากจะได้จุดโทษก็โดนเปลี่ยนคำตัดสินเป็นการพุ่งล้มแทนในนัดพบกับเบิร์นลี่ย์ แถมพวกเขาต้องเสียจุดโทษให้วัตฟอร์ดอีก เมื่อกรรมการดูภาพย้อนหลังและมองว่า จอร์จินโญ่ ไปดึง เคราร์ด เดโลเฟว ล้มในกรอบ 18 หลา
หลังจากชัยชนะแบบหืดจับกับแตนอาละวาด กุนซือของเชลซีอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ถึงกับกล่าวว่า “ถ้าเราพูดถึงเรื่องเปลี่ยนคำตัดสินคงจะเสี่ยงไม่น้อย เพราะกรรมการจากที่อื่นคิดว่านี่ควรเป็นจุดโทษมากกว่าที่กรรมการในสนามมอง นั่นทำให้ผมคิดว่าเราอยู่ในจุดที่อันตรายแล้วล่ะ”
“คุณจะต้องพบกับการเสี่ยงโยนหัวก้อยแบบนี้ทุกสัปดาห์เลย”