ศึกฟุตบอลยูโรป้าลีกรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายคู่ระหว่าง สตองดาร์ ลิแอช เปิดบ้านพบกับ อาร์เซน่อล
เริ่มเกมมานาทีที่ 11 เจ้าบ้านได้โอกาสลุ้นก่อนจากจังหวะจ่ายบอลพลาดหน้าประตูของ มาฟโรปานอส ไปเข้าทางของ การ์เซล่า-กอนซาเลซ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงบอลไปตรงตัว มาร์ติเนซ ไม่กี่นาทีถัดมาปืนใหญ่ได้สวนกลับมาบ้างจาก สมิธ โรว์ ก่อนซัดเสาแคบบอลถูกปัดผ่านหน้าประตูไปแต่ซาก้าเข้าชาจไม่ทัน
ถัดมานาทีที่ 27 อาร์เซน่อลทำเกมบุกขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ซาก้าทำชิ่งกับเนลสันหลุดขึ้นมาสุดเส้นหลังก่อนเลือกยิงมุมแคบแต่ก็ยังติดเซฟผู้รักษาประตู
ก่อนจบครึ่งแรกนาทีที่ 44 อาร์เซน่อลเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะไหลออกซ้ายของเนลสัน ไปให้กับ ซาก้าวิ่งมาซัดติดเซฟ บอลเด้งออกมาเข้าทางอีกทีหยอดให้ เนลสันที่รอตรงกลางโหม่งอีกครั้งก็ยังไม่เป็นประตู และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังเริ่มขึ้นมาแค่นาทีเดียว เจ้าบ้านก็ได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ ซามูแอล บาสเตียง ซัดบอลไปแฉลบผู้เล่นของทัพปืนโตก่อนที่บอลจะเด้งเข้าประตูไป พาสตองดาร์ขึ้นนำไปก่อน 1-0
นาทีที่ 54 เจ้าบ้านยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่อง จากจังหวะเลี้ยงลุยมาของ บาสเตียง แทงบอลทะลุมาให้กับ การ์เซล่า-กอนซาเลซ เข้าชาจไม่โดน ต่อมานาทีที่ 68 เจ้าถิ่นได้ประตูนำห่างออกไปอีกจากจังหวะเปิดบอลเข้ากลางมาโดนขา วิลล็อค ไปเข้าทาง เซลิม อมัลลาห์ ล็อคบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดเข้าไปเป็น 2-0
นาทีที่ 78 อาร์เซน่อลได้ประตูตีไข่แตกจนได้จากการบุกขึ้นมาทางฝั่งซ้าย บูกาโย่ ซาก้า เปิดบอลเข้าไปตรงกลางให้กับ ลากาแซตต์ที่รอออยู่พุ่งเข้ามาโหม่งจ่อๆเข้าไปทำให้สกอร์ไล่มาเป็น 2-1 ไม่กี่นาทีถัดมา ปืนใหญ่ได้ประตูที่สองติดๆกัน รอบนี้เป็น บูกาโย่ ซาก้า ที่เลี้ยงบอลลุยเข้าไปทำชิ่งกับ มาร์ติเนลลีที่เป็นตัวสำรอง ก่อนซัดบอลตรงเข้าตาข่ายเป็น 2-2
หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้และจบลงด้วยผลเสมอกันไป 2-2 ส่วนแฟร้งเฟิร์ต ดันไปพลิกล็อคแพ้ กิมาไรส์ 3-2 ทำให้ อาร์เซน่อลเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ
นักเตะที่ลงสนาม
สตองดาร์ ลิแอช: อาร์นัวด์ โบดาร์(GK) – คอลลินส์ ไฟ, ซินโฮ วานฮูสเด้น, คอนสแตนตินอส ไลฟิส, นิโกลัส กาวอรี่ – โยอาคิม การ์เซล่า-กอนซาเลซ, ซามูแอล บาสเตียง, เซลิม อมัลลาห์ , กอยโก ซิมิร็อต, ปอล เอ็มโปกู – เรอนัวด์ เอมงด์
สำรอง: ฟิลิปเป้ อวาเน็ตติ(46), มักซิม เลสเตียนน์(85),คัลลั่ม โรบินสัน(82)
อาร์เซน่อล: เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ(GK) -คอนสตานตินอส มาฟโรปานอส, ดาวิด ลุยซ์, โซคราติส ปาปาสธาโทปูลอส – ไอน์สลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส,โจเซฟ วิลล็อค, มัตเตโอ กูเอ็นดูซี่ , บูกาโย่ ซาก้า – เอมิล สมิธ โรว์, อเล็กซ็องเดร ลากาแซตต์ , ไรสส์ เนลสัน
สำรอง: กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (69) , แคลัม เชมเบอส์(78) ,ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง(85)