แม้จะผ่านมาหลาย 10 ปีหรือหลายทศวรรษนักฟุตบอลจากทวีปเอเชียยังคงเป็นตลาดที่น่าลงทุนสำหรับบรรดาสโมสรชั้นนำของยุโรปอยู่เสมอมา เพราะด้วยศักยภาพที่สามารถพิสูจน์ให้ชาวโลกได้เห็นแล้วว่าพวกเขาเหล่านี้มีดีแค่ไหนกับเวทีที่หลายคนใฝ่ฝันที่จะมาเล่นสักครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมามีแข้งจากย่านเอเชียที่ถูกทีมในยุโปคว้าตัวไปร่วมทีมเป็นจำนวนไม่น้อย โดยแต่ละคนก็ทำผลงานได้ดีและได้ไปต่อจนเป็นกำลังสำคัญให้กับต้นสังกัดที่เซ็นสัญญาดึงพวกเขาไปใช้งานกระทั่งแจ้งเกิดแบบเต็มตัว ทำให้วันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะจัดผู้เล่นจากทวีปเอเชียที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดบนแผ่นดินยุโรปในทศววรษนี้มาให้ได้ติดตามกันว่ามีใครกันบ้าง
5.ยูโตะ นากาโตโม (ญี่ปุ่น)
ยูโตะ นากาโตะโมอาจจะไม่ใช่นักเตะจากแดนอาทิตย์อุทัยที่มีชื่อเสียงมากนักในเวทีระดับยุโรป แต่ถึงอย่างไรฟูลแบ็ครายนี้ก็มีบทบาทสำคัญของอินเตอร์ มิลานในช่วงหนึ่งของทศวรรษนี้ นากาโตะโมเซ็นสัญญากับเนรัซซูรี่ จากสโมสรเซเซน่าในปี 2011 หลังยืมตัวมาใช้งานและโชว์ผลงานได้น่าประทับใจ จากนั้นเขาก็เล่นในถิ่นซานซิโร่ จนถึงปี 2018 ช่วยให้ยักษ์หลับค่ายนี้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
นากาโตะโมะลงสนามให้กับยอดทีมแห่งเมืองมิลานไปมากกว่า 200 นัดในช่วงระยะเวลา 7 ปีครึ่ง โดยทำไปได้ 11 ประตู นอกจากนี้ดาวเตะซามูไรยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเล่นได้ทั้งแบ็คซ้ายและขวา ฤดูกาล 2012/13 เป็นปีที่น่าประทับใจสำหรับเจ้าตัวเลยก็ว่าได้เมื่อเขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ AFC Asian International จากนั้นเขาก็ย้ายออกจากรังงูใหญ่ไปร่วมทีมกาลาตาซารายในปี 2017 และคว้าแชมป์กับยักษ์ใหญ่แดนไก่งวงถึง 4 รายการ
ตั้งแต่ปี 2010 แนวรับร่างตันเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติญี่ปุ่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆหลายรายการทั้งฟุตบอลโลก 3 ครั้ง, คอนเฟเดอเรชัน คัพ 1 ครั้งและ เอเอฟซี เอเชียนคัพอีก 2 ครั้ง
4.ชินจิ โอกาซากิ (ญี่ปุ่น)
การย้ายทีมของ ชินจิ โอกาซากิ มาอยู่กับเลสเตอร์ ซิตี้ในปี 2015 ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โตอะไรมากมาย เพราะในอังกฤษไม่มีใครได้ติดตามฝีเท้าของดาวเตะยุ่นรายนี้สักเท่าไร แถมการเซ็นสัญญาก็ไม่แพง ทำให้เขาไม่ได้ถูกตั้งความหวังไว้กับสุนัขจิ้งจอกมากนัก จากนั้น 10 เดือนต่อมาเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับต้นสังกัดแบบคาดไม่ถึง
โอกาซากิประสานงานร่วมกับเจมี่ วาร์ดี้ในแดนหน้าของฤดูกาลแรกที่เขามาอยู่กับเลสเตอร์ได้อย่างเข้าขารู้ใจ และแม้จะยิงประตูให้กับทีมไม่ค่อยได้แต่แข้งแดนปลาดิบก็มีบทบาทสำคัญมากกับการคว้าแชมป์ลีกของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เขาทำได้ 5 ประตูจากการลงสนามไปทั้งหมด 36 นัดซีซั่นการคว้าแชมป์และได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ AFC ในปีเดียวกัน
ก่อนที่เลสเตอร์จะได้ตัวเขาเข้ามายังถิ่นคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม โอกาซากิเคยค้าแข้งในประเทศเยอรมันกับทีมสตุ๊ตการ์ตและไมนซ์ 05 ซึ่งเขาเป็นผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดจากประเทศบ้านเกิดของเขา โดยในปัจจุบันเจ้าตัวย้ายไปเล่นในศึกลีก้า 2 ของสเปนกับทีมฮูเอสก้าและได้ลงสนามรับใช้ทีมชาติญี่ปุ่นไปแล้วเกินหนึ่งร้อยนัด
3.ชินจิ คากาวะ (ญี่ปุ่น)
เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชาติของชินจิ โอกาซากิ อย่างชินจิ คากาวะที่กำลังเล่นอยู่ในลีก้าสองของสเปนกับเรอัล ซาราโกซ่า อย่างไรก็ตามครั้งหนึ่งเพลย์เมกเกอร์ชาวญี่ปุ่นรายนี้เคยเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของยุโรปในทศวรรษนี้
เยอร์เก้นส์ คล็อปป์ กุนซือเฮฟวี่ เมทัลของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในขณะนั้น ขยับ คากาวะขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม เพื่อดึงดูดความสนใจจากยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดีอย่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กองกลางร่างเล็กรายนี้ร่วมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้ากับเสืองเหลืองถึง 2 สมัย ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพปีศาจแดงในที่สุด
ยูไนเต็ดจ่ายเงินค่าตัวเพื่อแลกกับดาวเตะเชิงรุกเป็นจำนวน 12 ล้านปอนด์บวกกับเงื่อนไขตามสัญญาข้อตกลงในปี 2012 อย่างไรก็ตามคากาวะกลับไม่ได้โชว์ผลงานที่ดีที่สุดออกมาให้เห็นเหมือนสมัยที่อยู่ดอร์ทมุนด์ แม้ว่าเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับแมนฯยูไนเต็ดก็ตาม เขากลับไปเล่นกับเสือเหลืองอีกครั้งในปี 2014 และอยู่ในถิ่นเวสท์ ฟาเลินชตาดิโยนถึงปี 2019
นอกเหนือจากรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเอฟซีในปี 2015 คากาวะยังกลายเป็นแข้งญี่ปุ่นที่ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปบ่อยครั้งที่สุด สามครั้งที่เขาเข้าชิง ถือว่าเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศของตัวเองที่ไปค้าแข้งบนเวทีลีกยุโรป
2.มาโกโตะ ฮาซาเบะ (ญี่ปุ่น)
มีผู้เล่นชาวเอเชียเพียงไม่กี่คนที่สามารถลงเล่นให้กับสโมสรในยุโรปมากว่าร้อยนัด แต่มาโกโตะ ฮาซาเบะ แสดงให้เห็นมาแล้วถึง 2 ครั้ง
กองกลางตัวรับชาวญี่ปุ่นย้ายมาเล่นในลีกเมืองเบียร์ตั้งแต่ 11 ปีก่อน เขาย้ายจากอูราวะ เรดไดมอนส์ มาร่วมทีม โวล์ฟสบวร์ก เมื่อปี 2008 ถัดจากนั้น 1 ปีเจ้าตัวก็คว้าแชมป์แรกกับตันสังกัด เขาใช้เวลา 7 ปีในชายคาโฟล์กสวาเกนอาเรนา ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เนิร์นแบร์ก
ฮาซาเบะใช้เวลาเพียงแค่ฤดูกาลเดียวในการเล่นกับเนิร์นแบร์กและย้ายสู่ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต จนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับแต่นั้นมาเขาก็ลงรับใช้อินทรีแดงดำไปมากกว่าร้อยนัดแล้ว
มิดฟิลด์ตัวตัดเกมมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของเขาบนเวทียุโรปในปี 2018 กับวัย 34 ปี เขาถูกจับไปยืนเป็นกองหลัง 3 คน ในแผนการทำทีมของ อาดี ฮุตเตอร์ เทรนเนอร์ชาวออสเตรีย และยังมีส่วนสำคัญในการพาสโมสรเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศในถ้วยยูโรป้าลีก แถมยังติดทีมยอดเยี่ยมของ UEL ในฤดูกาลนั้น ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น AFC International Footballer of the Year
1.ซน ฮึง-มิน (เกาหลีใต้)
ซน ฮึง-มิน เป็นชื่อที่นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ดาวเตะจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เป็นแข้งเอเชียรายเดียวที่ไม่ได้มาจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัล AFC International Footballer แห่งปีมากกว่าหนึ่งครั้งและเป็นชาวผิวเหลืองเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รางวัลนี้ในยุโรป
ในประเด็นสุดท้าย ซน อาจจะไม่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลจากทวีปเอเชียที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่เขาก็เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของเวทียุโรปที่เคยมาค้าแข้ง ณ ดินแดนตะวันตกในทศวรรษนี้และทศวรรษที่ผ่านมา
ดาวเตะโสมขาวเป็นปีกที่ครบเครื่องคนหนึ่งเลยทีเดียวในรอบแปดปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเรื่องสปีดความเร็วและการจบสกอร์ เขาทำประตูให้กับสโมสรได้ 10 ประตูหรือมากกว่านั้นในช่วง 7 ถึง 8 ปีหลังกับ 3 ทีมที่เคยร่วมงานรวมไปถึงลงเล่นอีก 7 รายการสำคัญ เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ จากผลงานที่เข้าตากรรมการในปี 2019 ต่อมาตัวรุกจากแดนกิจิก็คว้ารางวัลนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของเอเชีย อีกทั้งยังกวาดรางวัลระดับชาติและนานาชาติอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งส่งผลให้เขาได้รับการยอมจากฝั่งยุโรปมากยิ่งขึ้น
ดาวยิงจากเกาหลีใต้ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งถ้วยรางวัลบนถนนสายยุโรปของเขานั้นยังคงต้องรอต่อไป