เมื่อท็อฟฟี่อยากลองพิซซ่า : เอฟเวอร์ตันจะเป็นอย่างไรในมือของ ‘อันเช่’

 

เหล่าสาวกท็อฟฟี่คงยินดีไม่น้อย เมื่อได้ยินว่าเร็วๆนี้ ทีมรักของพวกเขาจะได้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนเข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค ภายในสัปดาห์นี้

 

หลังจากที่ล้มเหลวกับ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ, โรนัลด์ คูมัน และ มาร์โก ซิลวา กุนซอคนก่อนที่โดนปลดไปในเดือนที่ผ่านมา นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของเอฟเวอร์ตัน หากอันเชล็อตติเข้ามารับงานที่นี่จริงๆ

 

เรื่องความสำเร็จในงานกุนซือ อันเช่ ไม่เป็นรองใครก็จริง แต่ว่าเขาจะใช่คนที่บอร์ดท็อฟฟี่ตามหามานานหลายปีหรือไม่ และจะเปลี่ยนโฉมทีมสีน้ำเงินจากเมอร์ซี่ย์ไซด์อย่างไร ทาง UFA ARENA จะพาทุกท่านไปวิเคราะห์และร่วมหาคำตอบในบทความชิ้นนี้กัน

 

 

ประวัติคร่าวๆของ ‘คาร์เลตโต้’

 

 

อันเช็ล็อตติ เริ่มต้นงานคุมทีมกับ เรจจิน่า ในปี 1995 แต่แชมป์ระดับเมเจอร์แรกที่เขาทำได้ในฐานะกุนซือคือ แชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพ ในปี 1999 กับ ยูเวนตุส

 

นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นกุนซือคนเดียวในโลกที่พาทีมคว้าแชมป์ได้จาก 5 ลีกใหญ่ของยุโรป (อังกฤษ, อิตาลี, เยอรมัน,ฝรั่งเศส และ สเปน) อีกทั้งยังคว้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ถึง 3 สมัยด้วย (มิลาน 2 สมัย, เรอัล มาดริด 1 สมัย)

 

ในช่วงที่เขาคุมเชลซีในอังกฤษ อันเช่ พาสิงห์บลูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2009-10 แต่ก็ถูกปลดในปีต่อมา หลังคว้าแค่อันดับ 2 ในลีกและมือเปล่าในบอลถ้วย

 

ในช่วงที่ผ่านมา กุนซือวัย 60 ปี ถูกนาโปลี ปลดพ้นจากตำแหน่งนายใหญ่ของทีม หลังมีประเด็นกับ ออเรลิโอ เด ลอเรนติส เจ้าของสโมสร แม้ว่าเขาจะพาทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ก็ตาม

 

แต่ความสำเร็จทั้งหมดของเขา ไม่ว่าจะเป็นเหรียญแชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย, แชมป์ลีกจาก อิตาลี,อังกฤษ, ฝรั่งเศส และ เยอรมัน รวมไปถึงบอลถ้วยในรายการต่างๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้การแต่งตั้งอันเชล็อตติเป็นกุนซือคนใหม่ของเอฟเวอร์ตันมีความเสี่ยงน้อยลงแต่อย่างใด

 

 

คุมดาวดังได้อยู่หมัด

 

 

นอกเหนือจากความสามารถในด้านแทคติกและความเข้าใจเกม กุนซือวัย 60 ปี ยังมีชื่อเสียงในเรื่องจากจัดการผู้เล่นได้ยอดเยี่ยมและรับมือได้ดีกับนักเตะที่มีพรสวรรค์แต่ก็เต็มไปด้วยอีโก้ที่สูงเช่นกัน

 

“เขาเหมือนกับหมีใหญ่เลย แต่ผมก็บอกได้ว่าเป็นคนที่น่ารักเช่นกัน เป็นคนที่อ่อนไหวเลยล่ะ เขาพูดกับพวกเราทุกวัน ไม่ใช่แค่ผม แต่กับผู้เล่นทุกคน เขาสนุกกับพวกเรา เขาเป็นคนที่เหลือเชื่อมากๆ ผมอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสร่วมงานกับเขาจริงๆ” คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กล่าวถึงช่วงที่เขาร่วมงานกับ อันเชล็อตติ ในเรอัล มาดริด

 

อีกทั้ง กุนซือชาวอิตาเลี่ยนยังเผยถึงวิธีที่เขากระตุ้นแข้งราชันชุดขาวในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2014 ด้วยการโชว์คำอวยพรสั้นๆจากครอบครัวของนักเตะ ก่อนจะเดินทางไปที่สนามแข่งขันด้วย

 

“ผมจำได้ที่เรอัล มาดริด ก่อนนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ผมได้รับข้อความและคำอวยพรจากเพื่อนๆและครอบครัวของนักเตะ เช่นภรรยา,ลูกๆ หรือ พ่อแม่ มันเป็นคำพูดที่น่ารักมาๆเลยในตอนท้ายที่ลูกๆอวยพรให้พ่อของเขาทำผลงานได้ดีในเกม”

 

นอกจากนี้ เขายังอธิบายการคัดเลือกในทีม และบอกให้ผู้เล่นรับรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนใน 11 ตัวจริงของเขา และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะบอกกันได้ง่ายๆเลย

 

 

“ผมประกาศไลนอัพในวันแข่ง ถ้าผมมีเวลา ช่วง 2 วันก่อนเกมในช่วงซ้อมเรื่องแทคติก ผมจะทดสอบทีม แต่จากนั้นผมก็จะหมุนเวียนผู้เล่นด้วย ดังนั้น ผมมักจะทดสอบ 2-3 สถานการณ์ที่แตกต่างกันเสมอ”

 

“ด้วยวิธีนี้ทำให้ผู้เล่นไม่แน่ใจว่าตัวเองได้เป็นตัวจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีผู้เล่นที่มีความสงสัยค้างคาอยู่ อาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของเขาได้ ผมก็อาจบอกเขาก่อนเวลา สิ่งที่ผมไม่ต้องการคือผู้เล่นที่ไม่อยากเล่น เพราะนั้นเป็นการดึงความมั่นใจของทีมในลดลงไป”

 

ด้วยระบบการจัดการทีมแบบนี้ ได้ส่งต่อมายัง ซีเนดีน ซีดาน กุนซือของ โลส บลังโกส คนปัจจุบัน ที่รับช่วงต่อจากเขา และแสดงให้เห็นถึงการคุมสตาร์ดังในทีมให้อยู่หมัดได้เป็นอย่างดี

 

 

ผู้ชายใจเย็น

 

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในเอฟเวอร์ตัน ไม่เช่เรื่องนั้นแน่นอน จริงอยู่ที่ภายใต้การดูแลของ ดันแคน เฟอร์กูวัย กุนซือรักษาการพาทีมเก็บได้ 4 แต้มจาก 2 เกมที่พบเชลซี และ แมนเชสสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่พวกเขาก็ยังจบอยู่อันดับที่ 16 ในตาราง มี 3 แต้มเหนือโซนตกชั้นเท่านั้น

 

ริชาร์ลิสัน, อเล็กซ์ อิโวบี้ และ เยอร์รี่ มีน่า ทั้ง 3 คนนี้มีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวขึ้นเป็นดาวเด่นของทีมได้ แต่ในตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงที่เขาเบ่งบานที่สุด และในทีมก็ผู้เล่นไม่กี่คนที่เคยคว้าแชมป์มา

 

ท็อฟฟี่ในยุคของ ซิลวา ผู้ใจเย็น ทีมต้องพบกับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเกิดมาจากความผิดพลาดส่วนบุคคล, ขาดความคิดสรางสรรค์ และถูกคู่แข่งบีบกดดันอย่างรวดเร็ว

 

แต่ต่อมา พวกเขาตอบสนองต่อวิธีการเล่นของ บิ๊กดังก์ ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นที่ดุดันมากขึ้น, เกมรับที่มีระเบียบวินัย และ วิธีการเล่นที่ไม่ประณีประนอมให้คู่ต่อไป ทำให้นักเตะในทีมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 

เพราะฉะนั้น กุนซือที่เยือกเย็นและสงบนิ่งอย่าง อันเชล็อตติ จะเป็นคนที่สามารถตอบโจทย์ที่เอฟเวอร์ตันได้หรือไม่? แม้จะมีข้อสงสัยอยู่ แต่คำตอบนั้นก็ง่ายมากๆ เพราะกุนซือทุกคนที่เข้ามารับงานใน กูดิสัน ปาร์ค นับตั้งแต่ เดวิด มอยส์ ลาทีมไป ก็ต้องเจอความเสี่ยงอยู่แล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

อีกทั้งกุนซือระดับเดียวกับ อันเช่ ก็ไม่ได้โผล่มาเป็นตัวเลือกให้ทีมอย่างเอฟเวอร์ตันได้บ่อยๆเช่นกัน เพราะฉะนั้นการเลือกเมินเขาเพราะมองว่าแทคติกและบุคลิกไม่เหมาะสมกับทีมคงเป็นอะไรที่งี่เง่าอยู่พอสมควรเลย

 

 

ใครได้หรือเสียประโยชน์ ถ้าอันเช่ จอย ‘ท็อฟฟี่’

 

ได้ประโยชน์ 

 

มอยเซ่ คีน 

 

 

หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ทำให้สาวกท็อฟฟี่ตื่นเต้นมากที่สุดในซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ก็พอจะบอกว่าได้ว่า คีน ยังไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่แฟนๆคาดหัวงเท่าไหร่ เนื่องจากเขายังทำประตูไมได้เลย และออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแต่ 2 นัดเท่านั้น

 

แถมล่าสุด กองหน้าชาวอิตาเลี่ยน ถูกเปลี่ยนตัวออกทั้งๆที่เพิ่งลงเล่นในฐานะตัวสำรองแค่ 18 นาทีเท่านั้น ในเกมที่เสมอกับปีศาจแดงเมื่อสัปดาห์ก่อน 

 

แต่แข้งวัย 19 ปีก็ยังเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่มีศักยภาพก้าวขึ้นไปเป็นกองหน้าระดับท็อปของยุโรป และภายใต้การดูแลของ อันเชล็อตติ คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดแล้วในตอนนี้

 

 

ลูคัส ดีญ

 

 

ดีญทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาค้าแข้งกับทีมสีน้ำเงินในเมอร์ซีย์ไซด์ และยังทำได้ดีอยู่ในตอนนี้ แต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมของเอฟเวอร์ตัน นั่นส่งผลต่อการเติมเกมรุกของแข้งชาวฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน

 

หาก อันเชล็อตติ เข้ามาจริงๆ เราจะได้เห็นการทำทีมที่เน้นให้ฟูลแบ็คที่ดันสูงและเติมเกมรุกมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่เขาชื่นชอบมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และแน่นอนว่าตัวเต็งตำแหน่งนี้คงหนีไม่พ้น ดีญ แน่นอน

 

 

โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน

 

 

อันเชล็อตติ ใช้ระบบการเล่น 4-4-2 ซึ่งต้องมีคนที่เป็นคู่หูของ คีน ในแดนหน้า และขณะที่กองหน้าชาวอิตาเลี่ยนเป็นตัวจบสกอร์ อันเช่น่าจะหานักเตะอีกคนที่ทำงานสกปรกให้ และคนๆนั้นน่าเป็น คัลเวิร์ต-เลวิน

 

แข้งวัย 22 ปี มีงานต้องทำอีกเยอะทั้งการสร้างโอกาส และ ครองบอล แต่การเล่นที่ไม่เห็นแก่ตัว ทั้งวิ่งทำทางให้เพื่อน หรือดึงตัวประกบเพื่อเปิดช่องว่าง เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 เกมล่าสุด และนี่อาจจะทำให้แฟนบอลได้เห็นคู่หูอันตรายคู่ใหม่ในพรีเมียร์ลีกก็เป็นได้

 

 

ฟาร์ฮัด โมชิริ

 

 

แม้จะมีการลงทุนที่มากมายมหาศาลจาก ฟาร์ฮัด โมชิริ ในสโมสรแห่งนี้ แต่ก็ยังมีความสงสัยข้องใจจากแฟนเอฟเวอร์ตันอยู่เป็นเวลานานพอสมควร เนื่องจากทีมไม่ได้พัฒนาเป็นรูปเป็นร่างหรือเติบโตมากนัก

 

แต่การเข้ามาของ อันเชล็อตติ นอกจากจะทำให้แฟนบอลมีความหวังในอนาคตแล้ว นี่เป็นประกาศแบบอ้อมๆของ นักธุรกิจชาวอิหร่าน และบอกให้แฟนบอลได้รู้ว่าเขาจริงจังและทุ่มเทกับเอฟเวอร์ตันมากแค่ไหน

 

 

เสียประโยชน์

 

ไมเคิล คีน

 

 

ณ เวลานี้ เอฟเวอร์ตันมีตัวเลือกในตำแหน่งกองหลังน้อยมาก ดังนั้น คีนอาจไม่ถูกดร็อปในทันทีที่ อันเชล็อตติ เข้ามาเป็นกุนซือหรอก อย่างไรก็ตาม นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนต้องการแข้งที่เล่นกับบอลได้ดีและพร้อมเป็นหัวใจในแผงหลัง

 

และถ้าเขามีงบในตลาดนักเตะเดือนหน้า เราอาจเห็นกองหลังหน้าใหม่ในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค และกองหลังชาวอังกฤษอาจกลายเป็นตัวเลือกสุดท้าย เนื่องจาก เมสัน โฮลเกต และ มีน่า สามารถเล่นกับบอลได้ดีกว่านั่นเอง

 

 

กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน

 

 

กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของเอฟเวอร์ตันในตอนนี้ แต่การเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าและความคล่องแคล่วที่ขาดหายไป ทำให้เขามีแนวโน้มว่าจะหลุดเป็นตัวสำรองไม่น้อยเลย หากทีมสามารถหาแผงกองกลางตัวจริงได้ในเร็วๆนี้

 

อันเชล็อตติ ชื่นชอบการใช้มิดฟิลด์ประเภท บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ คู่กันักเตะอีกคนในแดนกลาง ซึ่งทำให้แข้งชาวไอซ์แลนด์หลุดโผไปแน่นอน ขณะที่อีกตำแหน่งคือคนที่สามารถสร้างสรรค์เกมจากแนวลึกและเล่นเกมรับได้เด็ดขาด และนั่นก็ไม่ใช่จุดแข็งของ ซิกูร์ดส์สัน อีกเช่นกัน

 

 

อาร์เซน่อล

 

 

ปืนใหญ่เป็นอีกหนึ่งสโมสรในอังกฤษที่มีข่าวจริงจังกับ อันเชล็อตติ ซึ่งทีมในตอนนี้มีทั้งนักเตะที่มากความสามารถพร้อมกับอัตตาที่มีมากว่านักเตะทั่วไป ทั้ง ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง, อเล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ และ นิโคลาส์ เปเป้

 

เพราะฉะนั้น กุนซือชาวอิตาเลี่ยนจึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเข้ามาแก้ปัญหาในจุดๆนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาอาจพลาดไม่น้อย เมื่อมีข่าวว่ากำลังจะได้ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ ทั้งๆที่ไม่มีประสบการณ์ในการคุมทีมเลย

 

 

คาดแผนผังการเล่นของ เอฟเวอร์ตันในยุค ‘อันเช่’

 

 

เนื่องจากทั้งคู่ชอบแผน 4-4-2 เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้การเปลี่ยนแนวทางการเล่นในยุคบิ๊กดังก์ มาสู่ อันเชล็อตติ อาจไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก

 

จอร์แดน พิคฟอร์ด ยึดมือหนึ่งหน้าปากประตูโดยไม่ต้องสงสัย ขณะที่ ดีญ และ ฌิบริล ซิดิเบ้ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งฟูลแบ็ค 2 ฝั่ง ส่วนคู่เซ็นเตอร์แบ็ค อันเช่ที่เน้นการทำเกมแบบครองบอล อาจทำให้เราเห็น โฮลเกต คู่กับ มีน่า มากกว่า คีน

 

ในแดนกลางของท็อฟฟี่กำลังเจอปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บยกชุดอยู่ ดังนั้น ซิกูร์ดส์สัน อาจต้องจับคู่กับ ทอม เดวี่ส์ แบบชั่วคราวไปก่อน และถ้าหาก ฌอน ฟิลิปป์ บาแม็ง กองกลางตัวใหม่หายเจ็บกลับมาฟิตสมบูรณ์เมื่อไหร่ เขาจะกลายเป็นตัวตัดเกมคู่ใจของ อันเช็ล็อตติ แน่ๆ

 

ส่วนกองกลางอีกคนที่น่าจะจับคู่กับแข้งชาวไอวอรี่ โคสต์ในระยะยาวก็คือ อังเดร โกเมส ที่ดวงแตกข้อเท้าหักสยองจนต้องพักไปแบบยาวๆโดยไม่มีกำหนด แต่เมื่อไหร่ที่แข้งทีมชาติโปรตุเกสหายกลับมาแล้ว การทำเกมากแนวลึกและการครองบอลที่แนวแน่นจะกลายเป็นจุดสำคัญในการสร้างสรรค์เกมของเอฟเวอร์ตันต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ส่วนตัวริมเส้นเป็น ริชาร์ลิสัน และ อเล็กซ์ อิโวบี้ ที่น่าจะได้รับความไว้วางใจจาก อันเชล็อตติ ให้สร้างสรรค์หรือทำประตูคู่แข่งจากด้านกว้าง ขณะที่กองหน้าคู่คือ คัลเวิร์ต-เลวิน และ คีน ที่เราได้พูดถึงไปแล้วก่อนหน้านี้  

 

แน่นอนว่าเขาอาจต้องเสริมทัพเพิ่มในช่วงตลาดนักเตะเดือนต่อไป ทั้งกองหลังอย่างน้อย  1 คน, แบ็คขวาหน้าใหม่ที่เน้นใช้งานในระยะยาว และกองหน้าตัวเลือกอีกซักหนึ่งคน ซึ่งเชื่อว่านักเตะจะเข้ากับระบบแทคติกของอันเชล็อตติอยู่แล้ว 

 

เพียงคำถามต่อมาก็คือ พวกเขาจะเข้ากับวิธีการจัดนักเตะของกุนซือวัย 60 ปีหรือเปล่าเท่านั้นเอง?