ผ่านไปไวเหมือนโกหก : การรับชมฟุตบอลเปลี่ยนไปอย่างไรในรอบทศวรรษ

 

ในขณะที่เรากำลังเดินเข้าสูทศวรรษใหม่อีกครั้งในปีหน้า หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปโดยที่เรานั้นไม่ทันสังเกตุหรือรู้ตัวแบบทันที และฟุตบอลก็คือหนึ่งในนั้น

 

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โลกของลูกหนังก็ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตประจำวันของแฟนบอลอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าประสบการณ์ในการรับชมเกมนั่นต้องบอกว่ามันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน

 

บางอย่างก็ดีขึ้น ไม่ก็แย่ลง แต่ความสำคัญนั้นไปไกลมากกว่าแค่การรับชมเกมการแข่งขันแบบสดๆแล้ว แทนที่เราจะนั่งดูเกมในสนามร่วมกับแฟนบอลนับพัน นับหมื่น ในยุคนี้เราแค่นั่งรถกลับไปบ้านเพื่อกลับไปดูเกมคู่บิ๊กแมตช์ผ่านจอแก้วหรือสมาร์ทโฟนในห้องนอนของตัวเอง รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆที่คุณไม่สามารถเห็นได้ในเกมอีกมากมายผ่านโลกออนไลน์

 

และนี่คือการรับชมเกมลูกหนังของแฟนบอลที่เปลี่ยนไปในยุดโลกาภิวัตน์และพัฒนาขึ้นนนับตั้งแต่ปี 2010…

 

 

ยูทูปเปลี่ยนโลก(ลูกหนัง)

 

 

ยูทูปกลายเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ช่วง 4-5 ปีแรกของยูทูป คอนเท้นต์เกี่ยวกับฟุตบอลมีเต็มที่ก็แค่ลีลาเด็ดๆของนักเตะในสนามเท่านั้น แม้จะมีช่องอย่างเป็นทางการของสโมสรดังๆถูกสร้างขึ้นแล้วก็ตาม

 

แต่ด้วยการเติบโตของยูทูปที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทีมต่างๆเริ่มเน้นการสร้างเนื้อหาด้านวีดีโอที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพการซ้อม, การแถลงข่าวทั้งก่อนและหลังเกม, บทสัมภภาษณ์ หรือ กิจกรรมสนุกๆของนักเตะภายในทีม รวมไปถึงแฟนบอลบางกลุ่มก็สร้างช่องของตัวเองขึ้น จนกลายเป็นยูทูปเบอร์ที่สามารถทำเงินได้มากมายในปัจจุบัน

 

โดยในตอนนี้ ลิเวอร์พูลคือสโมสรฟุตบอลที่มีรายได้จากยูทูปมากที่สุดในปี  2019 โดยได้มากถึง 663,940 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเดือน มากกว่า บาร์เซโลน่า ที่ได้ไป 415,522 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเดือน ทั้งๆที่ทีมจากอังกฤษมียอดผู้ติดตามแค่ 3 ล้านคนเท่านั้น น้อยกว่าทีมจากสเปนถึง 5 ล้านคนเลย

  

 

อิทธิพลจากโซเชียล มีเดีย

 

 

อินสตราแกรม สื่อโซเชียล มีเดีย ยอดฮิตในยุคนี้ ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในวันที่ 6 ตุลาคม ปี 2010 ซึ่งในยุคเริ่มแรกมันมีจุดประสงค์หลักๆเพื่อโพสต์รูปลงไปเท่านั้น แต่ปัจจุบันมันก้าวหน้าไปกว่านั้นเยอะ 

 

ฟอร์บส นิตยสารด้านการเงินระดับโลกเผยว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส ได้เงินมากกว่า 36.2 ล้านปอนด์ต่อปี จากอินสตราแกรม ซึ่งเป็นรายรับที่มากกว่าการที่ลงเล่นฟุตบอลให้กับยูเวนตุสที่เป็นหนึ่งในสโมสรระดับโลกซะอีก

 

มากไปกว่านั้น รายได้จาก IG ของแข้งวัย 34 ปี ยังมีมากกว่า ลิโอเนล เมสซี่ แข้งคู่รักคู่ตลอดกาลจากบาร์เซโลน่า รวมไปถึง คนดังระดับโลกอย่าง เคนดัล เจนเนอร์, เซเลน่า โกเมซ หรือ เดวิด เบ็คแฮม ด้วยซ้ำ

 

ในขณะที่โซเชียล มีเดียอื่นๆ ทั้ง เฟสบุ๊ค หรือ ทวิตเตอร์ โรนัลโด้ก็ยังมียอดผู้ติดตามมากกว่านักเตะทุกคนบนโลกใบนี้ และมากกว่าสโมสรทุกทีมบนโลกเช่นกัน

 

ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าแค่ว่า 10 ปี นักฟุตบอลอาชีพจะกลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อโลกได้ขนาดนี้ในปัจจุบัน

 

 

วีดีโอเกมไม่ไร้สาระอีกต่อไป

 

 

การแข่งขันก้าวขึ้นมาเป็นเกมฟุตบอลอันดับ 1 ของโลกระหว่าง ฟีฟ่า และ โปร เอฟโวลูชั่น ซ็อคเกอร์ (วินนิ่ง อีเลฟเว่นในอดีต) ได้เข้ามามีส่วนผูกพันธ์กับแฟนบอลทั่วโลกเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว

 

ตัวเกมมีความซับซ้อนมากขึ้น เช่นเดียวกับกราฟิกที่มีความเหมือนจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาของนักเตะ, เสื้อผ้าหน้าผม, บรรยากาศของสนาม หรือ ลิขสิทธิ์การแข่งขันที่ทั้ง 2 ค่ายต่างต้องการคว้าไปอยู่ในเกมของตัวเอง

 

ในตอนนี้ นักเตะสามารถได้รับการอัพเกรดค่าพลังให้ตรงตามฟอร์มการเล่นจริงๆในตอนนี้ด้วย ทั้งเกมจากค่าย EA Sports หรือ Konami เช่นเดียวกับหน้าตาและผมของผู้เล่น

 

นอกจากนี้ ทีมฟุตบอลดังๆระดับโลกก็มีทีมอีสปอร์ตเป็นของตัวเองแล้ว เช่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีการแข่งขันชิงเงินรางวัลกันถึงระดับโลกอยู่หลายรายการต่อปีเลย

 

 

สารคดีลูกหนังกลับมาอีกครั้ง

 

 

ปัจจุบัน สารคดีเกี่ยวกับฟุตบอลได้ถูกนำมาปัดฝุ่นและสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น  All or Nothing ของ แมนเชเตอร์ ซิตี้, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่มี Amazon เป็นผู้ถ่ายทำ หรือ ทางฝั่งของ Netflix ที่นำเสนอวิธีการในการก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่ทำเงินเป็นอันดับต้นโลกของ ยูเวนตุส

 

ส่วนบาร์เซโลน่า ทีมระดับต้นๆในสเปน ก็กำลังมีสารคดีใหม่เกี่ยวกับพวกเขา ที่มี John Malkovich ดาราเจ้าบทบาทชื่อดังชาวอเมริกันมาเป็นคนบรรยายเสียงให้ด้วย

 

ขณะที่ลิเวอร์พูล น่าจะมีสารคดีใหม่ของพวกเขาอย่างแน่นอนในอนาคต หากพวกเขาว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นสมัยแรกในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ และช่วงที่รอคอยเวลานัน เราแนะนำให้หาสารคดีเรื่อง  Being: Liverpool ในปี 2012 ที่เล่าเรื่องปีแรกของ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่แอนฟิลด์ รับรองว่าบันเทิงแน่นอน

 

 

วีดีโอประกาศแข้งใหม่

 

 

เทรนด์การใช้วีดีโอเพื่อเปิดตัวนักเตะใหม่ในทีมเริ่มใช้กันอย่างกว้างขวางในฤดูกาล 2016-17 ซึ่งได้สร้างเสียงตอบรับในโซเชียล มีเดีย ได้มากมายมหาศาล ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ที่แต่ละสโมสรจะนำเสนอออกมา

 

อย่าง เยโอวิล ทาวน์ ที่นำรูปแบบของ Tinder แอฟหาคู่ออนไลน์มาผสมผสานได้อย่างลงตัว, แอสตัน วิลล่า ที่ใช้กลุ่ม Whatsapp เปิดตัวจอห์น เทอร์รี่ หรือที่เกรียนสุดๆต้องยกให้กับ โรม่า ในตอนที่เปิดตัว พาทริค ชิค ในปี 2017

 

แต่ที่โด่งดังมากที่สุดต้องยกให้ช็อตเปิดตัวของ อเล็กซิส ซานเชซ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังบรรเลงบทเพลงผ่านเปียโน และต้องบอกเลยว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าจดจำที่สุดที่เขาเคยได้ทำได้ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จริงๆ

   

 

คืนมาหอนของตลาดนักเตะ

 

 

วันสุดท้ายของตลาดนักเตะคือเหตุการณ์สำคัญที่แฟนบอลติดตามเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งในไทยเราสามารถติดตามว่าใครย้ายไปทีมไหนได้แบบเรียลไทม์ผ่านโลกออนไลน์ทันที แตกต่างจากเมื่อก่อนที่เราสามารถติดตามเรื่องนี้ได้ผ่านทางสื่อโทรทัศน์, วิทยุ หรือ หนังสือพิมพ์ เท่านั้น

 

แต่ในอังกฤษ หรือต่างประเทศ เมื่อก่อนนั้นดูวุ่นวายและน่าสนุกในเวลาเดียวกัน เนื่องจากแฟนบอลที่นั่นมักจะเห็นพิธีกรลงไปยังพื้นที่จริงๆเพื่อรายงานสถานการณ์สดผ่านทางโทรทัศน์ และพวกเขาต้องรับมือกับแฟนบอลตัวป่วนที่มักจะเขามาก่อกวนอยู่บ่อยครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น หลังเหตุการณ์ที่แฟนบอลใกล้กับ สนามกูดิสัน ปาร์ค ใช้เซ็กซ์ทอยแหย่หู อลัน เออร์วิน พิธีกรของสกาย สปอร์ต ในช่วงรายงานสด ทำให้สื่อส่วนใหญ่เปลี่ยนไปรายงานวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายในห้องส่งแทนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

 

มีมส์ในวงการลูกหนัง

 

 

นับตั้งแต่อินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ภาพล้อเลียนต่างๆที่หลายคนเรียกว่า ‘มีม’ ก็ค่อยๆได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามมา ซึ่งสิ่งนี้ได้ลุกลามไปถึงวงการฟุตบอลที่เราชื่นชอบอีกด้วย

 

อีกทั้งสิ่งเหล่านี้ยังได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการหยอกล้อของแฟนบอลไปแบบสิ้นเชิงเลย เพราะในยุคก่อนนั้น หากเราต้องการจะล้อเพื่อนซักคนที่ทีมของเขาเพิ่งแพ้แบบยับเยินมาในเกมสุดสัปดาห์ ก็ต้องไปเจอหน้ากับคนๆนั้นตรงๆ 

 

แต่ในสมัยนี้การเดินออกไปนอกบ้านไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเราสามารถแท็กมีมล้อเลียนทีมหรือนักเตะสุดฮาผ่านทางเฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ได้ทันทีหลังเกมจบ หรือแม้ส่งภาพสุดฮาเหล่านั้นผ่านทางแชทส่วนตัวของเรากับเพื่อนซี้ก็ทำได้เช่นกัน