แม้ว่าการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ของศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019/20 จะเป็น ลิเวอร์พูลที่เข้าวินไปแบบสบายๆไร้คู่ต่อกรแล้ว แต่จากบทเรียนในอดีตก็ทำให้รู้ว่าอะไรก็ยังไม่แน่นอนจนกว่าจะถึงนัดสุดท้าย เพราะมีทีมไม่น้อยที่โชว์ฟอร์มได้ดีมาตลอดครึ่งฤดูกาลแรก แต่พอผ่านพ้นปีใหม่แฟนบอลก็เหมือนได้อีกทีมที่แย่ลงมาผิดหูผิดตา
วันนี้ UFAARENA จะขอพาทุกคนไปย้อนดู 7ทีม ที่โชว์ฟอร์มโหดในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่กลับฟอร์มดิ่งหลังผ่านปีใหม่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2003/04
ซีซั่น 2003/04 เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นฤดูกาลไร้พ่ายของอาร์เซน่อล แต่ในปีนั้นทัพปีศาจแดงก็ถือเป็นคู่แข่งตัวฉกาจไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ได้ไร้พ่ายแต่ช่วงครึ่งปีแรกก็แพ้ไปแค่ 3นัด เสมอนัดเดียว และชนะไปถึง 15นัด ซึ่งก็สามารถขับเคี่ยวกับทั้ง อาร์เซน่อล และ เชลซี ที่กำลังลุ้นแชมป์ไปด้วยกัน แถมช่วงปลายปียังขึ้นไปครองจ่าฝูงได้ด้วย แต่หลังจากเริ่มปี 2004 อาร์เซน่อลที่ยังคงฟอร์มดีต่อเนื่องก็สามารถทวงบัลลงก์จ่าฝูงคืนไปได้ ส่วนปีศาจแดงก็เริ่มหลุดแพ้ หลุดเสมอช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยได้เลยตลอด 4นัด และไปแพ้ 3นัดติด ช่วงท้ายฤดูกาลอีก ทำให้สุดท้ายแม้ว่าผลงานจะไม่ได้ย่ำแย่มากนัก แต่ก็อดไปชูถ้วยแชมป์ด้วยความผิดพลาดของตัวเอง และความยอดเยี่ยมของคู่แข่ง ก่อนที่จะไปจบอันดับ 3ของฤดูกาล
นอริช ซิตี้ 1988/89 และ 1992/93
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อยสำหรับทัพนกขมิ้นที่ในฤดูกาล 1988/89 เป็นซีซั่นที่พวกเขาเข้าใกล้แชมป์มากที่สุดของสโมสรเลยก็ว่าได้ เพราะในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก พวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการแพ้ไปแค่ 2นัดเท่านั้น แต่ด้วยผลงานที่ไปหลุดเสมอบ่อยๆ ทำให้พวกเขาตกมาอยู่ที่ 2 ก่อนจบปี 1988
พอเริ่มต้นปีใหม่ พวกเขาก็ยังคงทำผลงานได้ดี แต่ก็ยังดีไม่พอที่จะแซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปอยู่จ่าฝูงได้เลย ซ้ำร้ายช่วงท้ายซีซั่นยังไปหลุดแพ้บ่อยจนสุดท้ายไปจบอันดับ 4จนได้
ต่อมาในปี 1992/93 เป็นอีกปีที่พวกเขาทะยานขึ้นไปรั้งจ่าฝูงไว้ได้ในช่วงครึ่งแรกของซีซั่น แต่ด้วยฟอร์มอันย่ำแย่ตลอดเดือนธันวาคมจนถึงกลางเดือนมกราคม ทำให้พวกเขาเป็นอันต้องร่วงจากอันดับ 1 และสุดท้ายก็ไม่สามารถกู้ฟอร์มได้และไปจบที่อันดับ 3
สวอนซี 1981/82
ถือว่าเป็นผลงานที่ดีไม่น้อยสำหรับทีมที่เพิ่งขึ้นมาจากลีกรอง ที่สามารถเริ่มต้นครึ่งฤดูกาลแรกได้อย่างยอดเยี่ยม จนไปอยู่ในตำแหน่งหัวตารางที่อันดับ 2 แต่อยู่ๆช่วงปลายปี 1981 ยังไม่ทันเปลี่ยนปีปฏิทิน พวกเขาก็ช็อตไปซะดื้อ และกลายเป็นว่าพวกเขาเก็บชัยไปได้แค่นัดเดียวเท่านั้นในเดือนธันวาคม ลากไปจนถึงต้นเดือนมกราคม แม้ว่าต่อจากนั้นพวกเขาจะกู้ฟอร์มคืนมาได้ แต่ก็ไปพลาดแพ้ติดๆกันอีกรอบในช่วงท้ายซีซั่นอีกอยู่ดีจนทำให้จบที่อันดับ 6 แทนที่จะได้เกาะอยู่ในหัวตาราง ส่วนแชมป์ก็ตกไปเป็นของ ลิเวอร์พูล ที่ในฤดูกาลนั้นเริ่มต้นได้อย่างย่ำแย่ในช่วงต้น
นิวคาสเซิล 1995/96
สาลิกาดงภายใต้การคุมทัพของ เควิน คีแกน สามารถเข้าใกล้คำว่าแชมป์ได้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1927 และทำคะแนนทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับคนสำคัญในเวลานั้นถึง 12ขนาดในช่วงเดือนมกราคม 1996 แถมทัพปีศาจแดงในตอนนั้น ก็ยังโดนปรามาสว่าเป็นทีมที่มีแต่เด็ก พร้อมวลีในตำนานของอดีตแข้งลิเวอร์พูลอย่างที่กล่าวว่า “คุณไม่มีทางคว้าแชมป์ได้ด้วยเด็กพวกนี้” หรือก็คือ “Class of ’92” ที่กลายเป็นตำนานของแมนฯยูในเวลาต่อมา
เส้นทางของนิวคาสเซิลดูสวยหรู ทั้งแต้มต่อที่เยอะกว่า และสภาพทีมที่เหนือกว่าคู่แข่ง แต่อยู่ๆเซอร์อเล็กซ์ เฟอรืกูสัน ก็ออกมาทำสงครามจิตวิทยา จน คีแกนรับมือไม่ไหว และเป็นฝ่ายฟอร์มหลุดไปเองด้วยการแพ้ปีศาจแดงทั้งเหย้าและเยือน พร้อมเสียแชมป์ให้กับทีมเด็กที่โดนดูถูกอย่างลูกทีมของป๋าเฟอร์กี้ไปในท้ายที่สุด
ลิเวอร์พูล 1996/97
ทัพหงส์แดงในฤดูกาลดังกล่าวทำผลงานได้อย่างดีก่อนจบปี 1996 แม้ไม่ได้เป็นฟอร์มที่ดีอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็เกาะตำแหน่งหัวตารางมาได้เรื่อยๆ และสามารถจบปีด้วยการเป็นจ่าฝูง แต่หลังจากเริ่มปีปฏิทินใหม่พวกเขาดันไปหลุดแพ้หลุดเสมอบ่อยกว่าในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล ทำให้อันดับของพวกเขาร่วงลงไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็ไปจบที่อันดับที่ 4 ของตาราง ซึ่งทัพหงส์แดงเองเป็นอีกทีมที่สามารถครองตำแหน่งจ่าฝูงช่วงคริสมาสได้บ่อยที่สุด (2008,2013และ2018) แต่ก็พลาดแชมป์ไปทั้งสามครั้ง
แอสตัน วิลล่า 1998/99
ฤดูกาล 1998/99 ถือเป็นฤดูกาลที่ทัพสิงห์ผงาดที่นำมาโดย จูเลี่ยน โจอาคิม และ ดีออน ดับลิน ทำให้มีโอกาสกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงปี 1998 จนสามารถครองตำแหน่งจ่าฝูงได้จนจบปี แต่อย่างไรก็ตามพอผ่านพ้นปีไปเริ่มปีใหม่ ฟอร์มของพวกเขาก็ดิ่งลงเหวด้วยการไร้ชัยติดต่อกันถึง 10นัด ทำให้กลายสภาพจากทีมลุ้นแชมป์กลายเป็นทีมที่ไม่ได้อะไรเลยสักอย่างแม้แต่พื้นที่ไปลุยเกมยุโรปกับการจบอันดับที่ 6 ของตาราง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1971/72
นับว่าเป็นการฟอร์มตกที่น่าเหลือเชื่อที่สุดครั้งนึงของวงการฟุตบอลอังกฤษกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 1971/72 ที่ตลอดปี 1971 พวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และรั้งอันดับหนึ่งของตารางมาได้ตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น พร้อมจบปีด้วยสถิติ ชนะ 14นัด เสมอ 7นัด และแพ้ไปแค่ 2นัดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านปี 1971ไป อยู่ๆไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มของทัพปีศาจแดง กับการเริ่มปี 1972 ด้วยผลงานแพ้ 8นัดรวด จนอันดับร่วงไปเรื่อยๆ ก่อนที่สุดท้ายจากทีมเต็งแชมป์ เปลี่ยนร่างกลายเป็นทีมกลางตารางจบอันดับ 8 ส่วนแชมป์ลีกก็ตกไปเป็นของ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ที่รักษาฟอร์มได้ต่อเนื่องมากกว่าแทน