หลังจากไม่ชนะใครเลยใน 3 นัดหลังสุดด้วยฟอร์มการเล่นอันน่าหดหู่ ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สามารถกลับมาคว้าชัยได้อีกครั้งเหนือ นอริช ซิตี้ 4-0 จากประตูของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล , เมสัน กรีนวู้ด และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เหมาคนเดียว 2 ลูก
และต่อไปนี้ คือ 5 ประเด็นของปีศาจแดงในเกมที่พวกเขาไล่ยำใหญ่ใส่นกขมิ้นสีเหลืองในโรงละครแห่งความฝัน
มาต้าคือทีเด็ดทลายรถบัส
ถ้าเป็นลักษณะการโจมตีคู่แข่งแบบปกติของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่อาศัยความเร็วเป็นหลัก ฆวน มาต้า จะเป็นเพียงนักเตะแก่ๆคนหนึ่งในสนามเท่านั้น แต่หากเป็นเกมที่คู่ต่อสู้ลงไปตั้งรับลึก เพลย์เมคเกอร์สแปนิชคือหนึ่งในหมากที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานประเภทนี้ เพราะเจ้าตัวมีจุดเด่นคือการเคลื่อนที่หาพื้นที่ว่าง , เคาะบอลตามช่องโดยอาศัยจังหวะไม่มาก และสามารถจ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายได้ดี ซึ่งสองประตูที่ปีศาจแดงได้ในนัดนี้ก็มาจากการผ่านบอลอันเฉียบคมของเจ้าตัว
บางที เจสซี่ ลินการ์ด อาจต้องศึกษาการเล่นจาก มาต้า ดูสักหน่อย จริงอยู่ที่ทักษะการเล่นกับบอลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ แต่การเคลื่อนที่อย่างชาญฉลาด , การจ่ายบอล และการเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบเพื่อเจาะกำแพงรถบัส คือสิ่งที่ บีนส์ บีนส์ สามารถขอวิชาจากมิดฟิลด์เลือดกระทิงได้
ไอ้หนูวิลเลี่ยมส์กินชอว์ขาดเรื่องเกมบุก
คุณสมบัติเด่นที่ทำให้ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ เหนือกว่ารุ่นพี่อย่าง ลุค ชอว์ อย่างเห็นได้ชัด คือจังหวะการเติมเกมบุก และพละกำลังที่วิ่งขึ้นลงได้ทั้งเกม ซึ่งนั่นทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีทางเลือกในการจู่โจมคู่แข่งเพิ่มอีกหนึ่งจุด และประตูที่สองจากลูกจุดโทษของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากจังหวะการเติมเกมของแบ็คซ้ายวัย 19 ปี ที่วิ่งทะลุผ่านช่องว่างแนวรับของทีมเยือนเข้าไปโดน ทิม ครูล ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ
เปเรร่าต้องเล่นกลางรุกเท่านั้น
นี่เป็นอีกนัดที่ อันเดรส เปเรร่า พิสูจน์ให้เห็นว่าตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของตัวเองคือตรงไหน ด้วยความสามารถเฉพาะตัว , วิชั่นในการออกบอล , ความดุดันในการเพรสซิ่งแดนบน และที่สำคัญ คือจังหวะการเคลื่อนที่ยามไม่มีบอลที่ไหลลื่นของดาวเตะบราซิเลี่ยน ทั้งหมดทำให้เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีมิติมากขึ้น ซึ่งก็หวังว่าหลังจากนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะไม่หน้ามืดถอยเจ้าตัวลงต่ำไปยืนเป็นคู่กลางให้แฟนบอลด่าเล่นอีก
นัดที่ 200 อันแสนชื่นมื่นของแรชฟอร์ด
มาร์คัส แรชฟอร์ด จัดการบวกสกอร์ให้กับตัวเองเพิ่มได้อีก 2 ลูก ในเกมที่ 200 ของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ในฤดูกาลนี้ ยอดรวมที่แนวรุกทีมชาติอังกฤษซัดได้ทุกรายการขึ้นไปอยู่ที่ 18 ประตูแล้ว ซึ่งหากนับเฉพาะนักเตะในพรีเมียร์ลีกด้วยกัน มีเพียงแค่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (20 ลูก) ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนเดียวเท่านั้นที่ยิงประตูได้มากกว่าเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 ปีศาจแดง
อย่าเพิ่งได้ใจ
แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะโชว์ฟอร์มได้อย่างสวยหรูในเกมนี้ แต่อย่าลืมว่าศัตรูที่พวกเขาเพิ่งเผชิญหน้ามาคือทีมบ๊วยของตารางอย่าง นอริช ซิตี้ ที่ในลีก 8 นัดก่อนหน้านี้ชนะใครไม่ได้เลย (เสมอ 4 แพ้ 4) ดังนั้น มันจึงยังวัดอะไรไม่ได้มากกับศักยภาพปัจจุบันของพลพรรคอสูร โดย 6 เกมหลังจากนี้ โซลชา จะต้องนำทีมลงเจอกับทั้ง วูล์ฟแฮมป์ตัน , ลิเวอร์พูล , แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ซึ่งนี่จะเป็นตัวชี้วัดที่แท้จริงว่าปีศาจแดงพัฒนาไปถึงไหนแล้วหลังผ่านครึ่งทางของซีซั่น