เรื่องใหญ่ในกาตาลัน : เหตุใด บาร์ซ่า จึงแยกทางกับ บัลเบร์เด้?

 

เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา บาร์เซโลน่าได้ประกาศปลด เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ออกจากตำแหน่งกุนซือของทีม แม้ว่าจะพาทีมรั้งจ่าฝูงในลาลีก้าอยู่ แต่ปัญหาภายในทีมก็ยังมีอยู่ตลอดในช่วงที่เขากุมบังเหียน

 

เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น แม้ว่า บาร์ซ่า จะรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในลีกสูงสุดแดนกระทิง เหนือ เรอัล มาดริด คู่แค้นตลอดกาล ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า และพวกเขายังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของ แชมเปี้ยนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มด้วย

 

แถมตัว บัลเบร์เด้ เองก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยติดใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา อีกทั้งยังคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ และ สแปนิช ซุปเปอร์ คัพ อย่างละสมัยในปี 2018 ด้วย โดยเขาเพิ่งต่อสัญญาใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้ แต่ก็มีออปชั่นขยายเพิ่มไปอีก 12 เดือนเช่นกัน

 

ความพ่ายแพ้ต่อ ตราหมี ที่ซาอุดิอาราเบีย 3-2 ทั้งที่เป็นขึ้นนำไปก่อน 2-1 ส่งผลให้อาซูลกราน่ามองหาความเปลี่ยนแปลงทันที และล่าสุดแต่งตั้ง กีเก้ เซเตียน อดีตเฮดโค้ชเรอัล เบติส เข้ามาทำหน้าที่แทน บัลเบร์เด้

 

แต่เพราะเหตุทำไม่ ทีมดังแคว้นกาตาลัน ถึงปลดอดีตกุนซือ แอธเลติก บิลเบา กลางอากาศเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ทั้งๆที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัย ทาง UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์และร่วมหาคำตอบของเรื่องนี้กัน

 

 

ความล้มเหลวในบอลยุโรป

 

 

กุนซือวัย 55 ปี พาทีมเข้าไปชนกับ นาโปลี ใน 16 ทีมสุดท้ายเดือนหน้ากับ นาโปลี ทีมสุดแกร่งจาก เซเรียอา แต่สถิติในรายการของเขาต้องบอกว่าดูไม่ค่อยดีเลย

 

หลังจากที่ตกรอบด้วยกฏประตูทีมเยือน ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่พบกับโรม่า เมื่อปี 2017 ทั้งๆที่ชนะในนัดแรกที่ คัมป์ นู ถึง 4-1 แต่ความอัปยศยังไม่จบอยู่แค่นั้น เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขาได้พ่ายแก่ ลิเวอร์พูล ในรอบรองชนะเลิศ 4-3 แม้จะเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบด้วยการคว้าชัยไป 3-0 ในนัดแรก

 

การประสบความสำเร็จในลีกบ้านเกิด ถูกทำลายย่อยยับด้วยความล้มเหลวในฟุตบอลระดับทวีป เขาไม่สามารถสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจให้ทีมได้เลย ผิดกับสมัยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทีม เคยคว้าแชมป์รายการนี้ได้ 2 ครั้งจาก 4 ฤดูกาล 

 

บัลบาร์เด้ ได้กล่าวถึงความพ่ายแพ้ที่ แอนฟิลด์ ในเดือนพฤษภาคมปี 2019 ว่า “สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการทำความผิดพลาดซ้ำรอยของปีที่แล้วอีก”

 

และการที่ บาร์ซ่า พ่าย ตราหมี ก็ย้ำเตือนให้เห็นถึงความล้มเหลวเหมือนตอนพบกับ โรม่า และ ลิเวอร์พูล ไม่แปลกที่มันจะสร้างความปวดใจให้กับ สาวกเจ้าบุญทุ่ม จนถึงปัจจุบัน

 

 

เกมเยือนแย่ เกมรับยุ่ย

 

 

สิ่งต่างๆดูกระจ่างขึ้นนับตั้งแต่เริ่มศักราชใหม่ เมื่อ หวู่ เล่ย ยิงประตูสำคัญให้ เอสปันญ่อล ตามตีเสมอ บาร์ซ่าได้ 2-2 ได้ในเกมดาร์บี้  ซึ่งความจริงแล้ว พวกเขาที่รั้งตำแหน่งบนๆของลีก ควรเอาชนะทีมท้ายตารางได้แบบสบายๆ แต่กลับเป็นพวกเขาที่ทำตัวเองลำบากซะได้

 

การถูกไล่ออกของ แฟรงกี้ เดอ ยอง มาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของกองกลางชาวดัตช์ อีกทั้งนั่นยังทำให้ทีมเยือนค่อยๆกลับมาสู่เกมอีกครั้งด้วย

 

เหตุผลในการแต่งตั้ง บัลเบร์เด้ เริ่มแรก มาจากผลงานที่แสดงให้เห็นในสมัยคุมทีมดังจากแคว้นบาสก์ แถมยังได้รับการยกย่องจาก กวาร์ดิโอล่า, อันเดรส อิเนียสต้า และ หลุยส์ เอ็นริเก้ แต่ท้ายที่สุด บอร์ดบริหารก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงด้วยการยึดจากผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมา

 

กองกลางอย่าง เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์, เดอ ยอง หรือ อิวาน ราคิติช ควรจะทำผลงานได้ดีกว่านี้ แต่พวกเขากลับตกที่นั่งลำบาก และไม่สามารถคุมเกมในแดนกลางสู้กับทีมนกแก้วได้เท่าที่ควร จนกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้ บัลเบร์เด้ โดนเด้งในเวลาต่อมา

 

จาก 7 ใน 10 เกมเยือนของ บาร์เซโลน่า ในลาลีก้าฤดูกาลนี้ พวกเขาไม่สามารถเก็บคลีนชีทได้เลยแม้แต่นัดเดียว โดนล่อเป้าไป 11 ประตู อีกทั้งยังคว้าชัยได้เพียง 4 นัด

 

ความพ่ายแพ่ต่อ บิลเบา, กรานาด้า และ เลบันเต้ บวกกับการเสมอ โอซาซูน่า, เรอัล โซเซียดาด และ เอสปันญ่อล เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับบาร์เซโลน่า โดยเฉพาะในช่วงที่ 2 ทีมจากเมืองมาดริดกำลังกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง

 

คุมคนไม่อยู่

 

 

‘มากกว่าสโมสร’ คือคติประจำทีมบาร์เซโลน่า ซึ่งแสดงให้พวกเขาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของวัฒนธรรมของแคว้นกาตาลุนญ่า

 

แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เคราร์ด ปิเก้ ได้ลงทุนเรื่องนอกสนามมากมาย จนมีรายงานว่าสร้างความขุ่นเคืองให้กับต้นสังกัดเป็นอย่างมาก ถึงขนาดแทรกเงื่อนไขในสัญญาให้ลดเรื่องต่างๆที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลลง

 

กองกลางวัย 32 ปี มีบทบาทสำคัญในการดูแลการแข่งขันเทนนิสอย่าง เดวิส คัพ ขณะที่เขาก็ทำหน้าที่ดูแล อันดอร์ร่า เอฟซี ที่เทคโอเวอร์มาตั้งแต่ปี 2018 ด้วย

 

นั่นทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมา ปิเก้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ให้ความสำคัญกับฟุตบอลในสนามเหมือนอย่างเคย และส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของเขาอยู่ไม่น้อย

 

นอกจากนี้ บัลเบร์เด้ ยังถูก ปีเก้ หักหน้าเต็มๆ เมื่อปราการหลังชาวสแปนิช เดินทางไป ออร์แลนโด้ โดยไม่ได้รับอนุญาต ในช่วงที่แข่งขันศึก สแปนิช ซุปเปอร์ คัพ ในปี 2019 อีกต่างหาก

 

นี่แสดงให้เห็นว่า นักเตะภายใต้การทำงานของ บัลเบร์เด้ ดูให้ความใส่ใจกับต้นสังกัดน้อยลงกว่าเดิม แม้ทั้งหมดนั้นจะไม่ใช่ความผิดของเขาก็ตาม แต่มันก็ส่งผลกระทบอย่างมากในตอนนี้

 

 

ซื้อใครก็ไม่ได้ความ

 

 

เรื่องราวกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม เมื่อบาร์เซโลน่า ยืนยันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งของทีมจะต้องพักยาวไป 4 เดือน หลังจากเข้ารับการผ่าตัดบริเวณหัวเข่าขวา

 

ซึ่ง บัลเบร์เด้ พึ่งพาทั้ง ซัวเรซ และ ลิโอเนล เมสซี่ มากเกินไปในฤดูกาลนี้ เรื่องจากทั้งคู่ยิงรวมกันถึง 24 จาก 49 ประตูในลีก (คิดเป็น 48 เปอร์เซนต์)

 

แข้งชาวอุรุกวัยจะอายุ 34 เต็มตัวในเดือนกุมภาพันธ์ นั่นทำให้แผนการหาตัวแทนของ ซัวเรซ กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง

 

เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าของ อินเตอร์ มิลาน ตกเป็นข่าวว่าจะเข้ามาแทนที่ ซัวเรซ ในถิ่นคัมป์ นู แต่แข้งชาวอาร์เจนไตน์ มีค่าฉีกสัญญาสูงถึง 95 ล้านปอนด์ ขณะที่ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา สโมสรก็ไม่สามารถคว้าตัว เนย์มาร์ กลับมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้

 

 แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า บัลเบร์เด้ จะสามารถใช้เงินซื้อนักเตะได้เหมือนอย่างเคย เนื่องจากทีมหมดเงินไปเยอะกับ ดีลของ กรีซมันน์ ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 

อีกทั้ง นักเตะส่วนใหญ่ที่เขาคว้ามาในช่วง 2 ปีครึ่ง มีไม่กี่คนที่ทำผลงานได้เข้าตา เช่น เคลม็องต์ ลองช์เล่ต์ กองกลางชาวฝรั่งเศสจาก เซบีย่า หรือ อาร์ตูร์ กองกลางทีมชาติบราซิลจาก เกรมิโอ 

 

นอกนั้นส่วนใหญ่ ก็ไม่สามารถฝากฝังความหวังได้เท่าที่ควร หากเทียบจากราคาที่ทีมเสียไป  

 

เช่น 3 แข้งที่มีค่าตัวรวมกันถึง 300 ปอนด์อย่าง อองตวน กรีซมันน์, อุสมาน เดมเบเล่ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ก็พิสูจน์ว่ายังไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ ภายในการทำงานของ บัลเบร์เด้