Ballon d’Or Game :ใครเหมาะสมจะคว้าบอลทองคำแห่งปี 2021 ? 

 

 

เป็นประจำในช่วงปลายปี ที่จะมีการประกาศรายชื่อนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของ  ฟรองซ์ ฟุตบอล นิตยสารฟุตบอลอังทรงคุณค่าของฝรั่งเศส ภายใต้ชื่อเรียกว่า บัลลงดอร์  ซึ่งหลังจากปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ไม่มีการประกาศรางวัลจากช่วงสถานการณ์โควิด19 แต่ในปีนี้การประกาศรางวัลดังกล่าวก็หวนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตตอนนี้ได้มีการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงทั้ง 30 คนออกมาเรียบร้อยแล้ว 

 

 

ที่น่าสนใจคือในปีนี้ เลอ กิ๊ป สื่อชื่อดังของเมืองน้ำหอม ได้ทำกาเปิดโผตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลลูกฟุตบอลทองคำ “บัลลงดอร์” ออกมาเรียบร้อย ซึ่งจะเป็นการแย่งชิงกันระหว่าง 5 แข้งที่ผลงานดีที่สุดตลอดทั้งปีอย่าง ลิโอเนล เมสซี (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง), คริสติอาโน่  โรนัลโด้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), จอร์จินโญ (เชลซี), โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (บาเยิร์น มิวนิก) และ คาริม เบนเซมา (เรอัล มาดริด) 

 

 

 

  รางวัลอันทรงคุณค่านี้ จะมีเพียงหนึ่งเดียวที่จะคว้ามันไปครอง ซึ่งต้องบอกว่าทั้ง 5 ชื่อที่เข้ามาลุ้นนั้นต่างมีผลงานที่ยอดเยี่ยม กันคนละด้านแตกต่างกันไป ก่อนจะมีการประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 พ.ย. วันนี้ UfaArena จะพาไปดูว่าใครกันที่เหมาะสมกับมันมากที่สุด

 

คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด /ฝรั่งเศส)

 

 

มีไม่บ่อยครั้งที่กองหน้าอย่าง เบนเซม่า จะเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้ลุ้นบอลทองคำ แต่นับตั้งแต่ที่ดาวยิงฝรั่งเศส ก้าวขึ้นมาเป็นเดอะแบกของทัพ “ราชันชุดขาว” แบบเต็มตัวนับตั้งแต่ โรนัลโด้ อำลาทีม ทำให้ในปีนี้ดาวยิงวัย 33 ปีจึงมีชื่ออยู่ด้วย

 

 

เบนเซม่า นั้นระเบิดฟอร์มสุดยอดในปีที่ผ่านมา เพราะเขายิงไปถึง 34 ประตู และทำแอสซิสต์ ไป13 ครั้ง และล่าสุดเขาก็เพิ่งเป็นฮีโร่ยิงประตูสุดสวยช่วยให้ ทัพตราไก่ ทีมชาติฝรั่งเศส เอาชนะ ทีมชาติ สเปน คว้าแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกมาครองได้สำเร็จ นั่นทำให้เขาอาจจะเป็นแข้งฝรั่งเศส คนแรกต่อจาก ซีเนอดีน ซีดาน ที่เคยคว้ารางวัลนี้ไปครองตั้งแต่ปี 1998 

 

โอกาสคว้าบัลลงดอร์ : 40 เปอร์เซนต์ 

 

ลีโอเนล เมสซี่ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง/อาร์เจนติน่า) 

 

 

ดาวยิงอาร์เจนไตน์คือเจ้าของรางวัลนี้มากที่สุดถึง 6 สมัย ที่ปีนี้มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะก้าวขึ้นไปคว้า ดราก้อนบอล (บัลงดอร์) ครบ 7 ลูก เพราะจากผลงานสำคัญที่ช่วยให้ทัพ “ฟ้าขาว” ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ผงาดแชมป์ โคปา อเมริกา ได้สำเร็จ ส่วนผลงานส่วนตัวแม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ร่วมกับ บาร์เซโลน่า อดีตทีมรักได้ แต่ดาวเตะวัย 34 ปี นั้นก็ซัดประตูไปถึง 38 ลูก พร้อมกับ 14 แอสซิสต์ ซึ่งนั่นยแสดงให้เห็นว่าผลงานส่วนตัวก็ไม่ได้ตกลงไปเลยแม้แต่น้อย 

 

แม้เวลานี้ เมสซี่ จะกำลังพยายามปรับตัวกับสโมสรใหม่ของเขาอย่าง เปแอสเช แต่เชื่อว่าโดยรวมแล้ว หากเขาจะคว้ารางวัลในปีนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด 

 

 

โอกาสคว้าบัลลงดอร์ : 70 เปอร์เซนต์

 

 

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิก /โปแลนด์)

 

 

อันที่จริงแล้ว เลวานดอฟสกี้ นั้นสมควรคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มาครองได้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แต่น่าเศร้าอย่างยิ่งที่โลกเราต้องเจอสถานการณ์ โควิด19 ทำให้ไม่มีการประกาศรางวัลในปีที่ผ่านมา จนดาวยิงโปแลนด์ ต้องพลาดโอกาสสำคัญของตัวเองไป 

 

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาย่อท้อ เพราะมาถึงปีนี้ ตลอดปีที่ผ่านมา ดาวยิงวัย 33 ปี นั้นคงยังระเบิดฟอรืมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการซัดไปถึง 48 ประตู จาก 40 นัดในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยิงในลีกถึง 41 ประตู จาก 29 นัด ทำลายสถิติอันยาวนานที่ แกรด์ มุลเลอร์ ตำนานทีมชาติเยอรมนี ทำเอาไว้ด้วย และหากนับผลงานมาถึงฤดูกาลนี้เขาก็ซัดไปแล้วถึง 50 ประตู เรียกว่าผลงานส่วนตัวไม่มีใครเกินหน้าแน่นอน

 

 

ส่วนผลงานกับสโมสรต้นสังกัด ก็คว้าทั้งแชมป์ บุนเดสลีกา ,เดเอฟเบโพคาล  และ ชิงแชมป์สโมสรโลก แต่ก็นั่นแหละหากส่องผลงานในระดับชาติต้องบอกว่าน่าเศร้าเพราะ ทีมชาติโปแลนด์ นั้นตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2020 

 

โอกาสคว้าบัลลงดอร์ : 60 เปอร์เซนต์

 

 

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / โปรตุเกส)

 

 

ไม่ว่าจะยังไงแล้ว เราไม่สามารถตัดชื่อของ โรนัลโด้ ออกจากผู้ท้าชิงได้ แม้เขาจะต้องผิดหวังกับ ยูเวนตุส สโมสรเก่า ที่ชวดแชมป์กัลโช่ ในรอบ 10 ปี แต่การที่ดาวยิงโปรตุกีส ซัดให้ทีมไปถึง 30 ประตู พร้อมคว้าแชมปื โคปปาอิตาเลีย ก่อนที่จะมาระเบิดฟอร์มกับ แมนฯยูไนเต็ด ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการยิงไป 5 ประตู จาก 6 เกมแรกที่ลงสนาม นั่นก็แสดงให้เห็นว่า อายุในวัย 36 ปีเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ 

 

ที่สำคัญคือในปีนี้ โรนัลโด้ เพิ่งจะทำสถิติที่ใครยากจะทำได้นั่นคือการเป็นดาวซัลโวระดับชาติ หลังทำลายสถิติเดิมที่ อาลี ดาอี ดาวยิงทีมชาติ อิหร่านเคยทำเอาไว้ที่ 109 ประตู เมื่อปี 2006 ลงได้สำเร็จ เพราะถึงเวลานี้ ดาวยิง CR7 ซัดให้กับทีมชาติโปรตุเกสไปแล้วถึง 115 ประตู จากการลงสนาม 182 นัด และเชื่อว่าการถล่มประตูนั้นจะยังไม่หยุดลงในเร็ววันนี้แน่ๆ 

 

โอกาสคว้าบัลลงดอร์ :  40 เปอร์เซนต์ 

 

 

จอร์จินโญ่ (เชลซี / อิตาลี)

 

นี่คือแข้งที่ถูกสื่อทั่วโลกคาดกันว่ามีลุ้นสอดแทรกขึ้นมาคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มากที่สุด หลังจากที่ จอร์จินโญ่ นั้นสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ให้กับทั้งสโมสร เชลซี ด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนในทีมชาติ อิตาลี ห้องเครื่องรายนี้ก็เป็นคีย์แมนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ ยูโร 2020 มาครอง เรียกว่าถ้วยรางวัลแทบจะการันตีที่จะคว้าบอลทองคำมาครองเลยทีเดียว

 

สิ่งเดียวที่จะทำให้ จอร์จินโญ่ เป็นรองแข้งรายอื่นที่ลุ้นเข้ามาชิงชัย คือการที่เขาไม่ได้เล่นในตำแหน่งแนวรุก หรือกองหน้า ที่มีผลโดยตรงกับการทำประตูให้ทีมก็เท่านั้น แต่หากผลงานโดยรวมแล้วต้องบอกว่านี่คือขวบปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้งของห้องเครื่องวัย 29 ปี และหากจะมีซักครั้งที่จะมีแข้งที่ไม่ใช่กองหน้าคว้ารางวัลไปครอง ปีนี้ก็เหมาะสมที่สุด

 

 

โอกาสคว้าบัลลงดอร์ : 70 เปอร์เซนต์ 

 

สรุปรายชื่อนัก 30 แข้งที่เข้าชิงลุ้นคว้า บัลลงดอร์ 2021 มีดังนี้

เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา (เชลซี / สเปน)

นิโคโล บาเรลลา (อินเตอร์ มิลาน / อิตาลี)

คาริม เบนเซมา (เรอัล มาดริด / ฝรั่งเศส)

เลโอนาร์โด โบนุชชี (ยูเวนตุส / อิตาลี)

เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เบลเยียม)

จอร์โจ คิเอลลินี (ยูเวนตุส / อิตาลี)

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / โปรตุเกส)

รูเบน ดิอาส (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / โปรตุเกส)

จานลุยจิ ดอนนารุมมา (เอซี มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / อิตาลี)

บรูโน เฟอร์นันเดส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / โปรตุเกส)

ฟิล โฟเด้น (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / อังกฤษ)

เออร์ลิง ฮาแลนด์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ / นอร์เวย์)

จอร์จินโญ (เชลซี / อิตาลี)

แฮร์รี เคน (ทอตแนม ฮอตสเปอร์ / อังกฤษ)

เอ็นโกโล ก็องเต (เชลซี / ฝรั่งเศส)

ซิมอน เคียร์ (เอซี มิลาน / เดนมาร์ก)

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (บาเยิร์น มิวนิก / โปแลนด์)

โรเมลู ลูกากู (อินเตอร์ มิลาน, เชลซี / เบลเยียม)

ริยาด มาห์เรซ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แอลจีเรีย)

เลาตาโร มาร์ติเนซ (อินเตอร์ มิลาน / อาร์เจนตินา)

คีเลียน เอ็มบัปเป (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / ฝรั่งเศส)

ลีโอเนล เมสซี (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / อาร์เจนตินา)

ลูกา โมดริช (เรอัล มาดริด / โครเอเชีย)

เคราร์ด โมเรโน (บียาร์เรอัล / สเปน)

เมสัน เมาท์ (เชลซี / อังกฤษ)

เนย์มาร์ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / บราซิล)

เปดรี (บาร์เซโลนา / สเปน)

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล / อียิปต์)

ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / อังกฤษ)

หลุยส์ ซัวเรซ (แอตเลติโก มาดริด / อุรุกวัย)

 

                                                           DaboyG