อดีตกองกลางชื่อดังของยูเวนตุสอย่าง มาร์คิซิโอ้ ประกาศถึงเวลาอำลาอาชีพค้าแข้งที่ตนเองรักแล้ว
เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้ อดีตกองกลางมากทักษะชาวอิตาเลี่ยน ได้ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการผ่านงานแถลงข่าวในสนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม และ ทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของตนเองในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีนี้
กองกลางวัย 33 ปีกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังแยกทางกับ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังจาก รัสเซีย พรีเมียร์ลีก และมีข่าวลือว่าอาจย้ายไปค้าแข้งกับทีมดังในยุโรป ทั้ง เรนเจอร์ส และ โมนาโก
อย่างไรก็ตาม ตัวเขาแข้งแดนมักกะโรนีได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ว่าได้เวลาบอกลาฟุตบอลอาชีพแล้ว หลังค้าแข้งมานานกว่า 14 ปี โดยมีใจความว่า “ผมได้สัญญากับเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพว่า ผมยังคงลงเล่นด้วยความรู้สึกมหัศจรรย์ ตอนนี้ผมไม่สามารถเติมเต็มคำสัญญานั้นได้อีกต่อไปแล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงเลิกเล่น ขอบคุณความฝันที่มอบความแข็งแกร่ง,ความสำเร็จ และ ความสนุกมาให้”
I’d made a promise to the kid who dreamt to become a football player. I would have played until I had felt the marvel stepping into the pitch. I wasn’t fulfilling my promise anymore, that’s why I prefer to stop. So, thank you dream, you gave me strength, success and joy! pic.twitter.com/PZ3umLN8mC
— Claudio Marchisio (@ClaMarchisio8) October 3, 2019
โดย ลากาเซ็ตโต้ เดลโล่ สปอร์ต ได้รายงานเพิ่มเติมว่า มาร์คิซิโอ้ จะจัดงานแถลงข่าวเรื่องนี้อย่างเป็นทางการที่อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม รังเหย้าของยูเวนตุส ในวันนี้ พร้อมกับเผยว่า เขาอาจจะกลับไปรับงานเบื้องหลังกับเบี่ยงโคเนรี่แทน
สำหรับเส้นทางค้าแข้งของมาร์คิซิโอ้ เริ่มต้นด้วยการเป็นลูกหม้อจากอคาเดมี่ของทีมม้าลายตั้งแต่ปี 1993 และขึ้นชุดใหญ่ในปี 2005 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นแบบเต็มตัวตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นก็ช่วยให้ทีมจากตูรินคว้าแชมป์มากมาย ทั้งแชมป์เซเรียอา 7 สมัย, เซเรียบี 1 สมัย, โคปา อิตาเลีย 4 สมัย และ ซุปเปอร์โคปา อิตาเลียอีก 3 สมัย จากการลงเล่นให้ทีมกว่า 389 นัด และประตูอีก 37 ลูก
หลังหมดสัญญากับยูเว่ เขาก็ย้ายซบ เซนิต ในปี 2018 แม้จะคว้าแชมป์รัสเซีย พรีเมียร์ลีกอีก 1 สมัยแต่ก็ลงเล่นได้เพียง 15 นัด ก็ตัดสินใจแยกทางกับสโมสรจากแดนหมีขาวในซัมเมอร์นี้
ส่วนเส้นทางในทีมชาติอิตาลี มาร์คิซิโอ้ ลงเล่นไปทั้งหมด 55 นัด ยิงได้ 5 ประตู และได้เป็นตัวแทนของชาติทั้งในรายการระดับทวีปและของโลก ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลกปี 2010, 2014 และศึกยูโร ปี 2008 และ 2012
