ประวัติศาสตร์หน้าใหม่! 8 สถิติพรีเมียร์ลีกที่ “เรือ-หงส์” อาจทำลายได้ในซีซั่นนี้

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-2019 เดินทางมาถึง 9 นัดสุดท้ายของซีซั่นแล้ว โดยเหลือม้าเพียงสองตัวเท่านั้นที่มีโอกาสคว้าชัยคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจไม่ได้มีเพียงใครจะเป็นแชมป์เท่านั้น แต่ในเรื่องของสถิติต่างๆที่อาจเกิดขึ้นก็น่าจับตามองไม่น้อย และต่อไปนี้ คือ 8 สถิติที่ แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล มีโอกาสทำลายได้หลังสิ้นสุดฤดูกาล

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – เสมอใน พรีเมียร์ลีก น้อยที่สุด

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอไปเพียงแค่ 2 นัดในฤดูกาลนี้ โดยผลเสมอทั้ง 2 นัด เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมและตุลาคม โดยเกมแรก เรือใบสีฟ้าบุกไปเสมอกับทีมน้องใหม่อย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 ส่วนเกมที่สอง บุกไปเสมอกับคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ในอีก 4 นัดให้หลัง (นับเฉพาะเกมลีก)

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซิตี้ ก็ไม่ได้แบ่งแต้มกับทีมใดเลย โดยพวกเขาพ่ายไป 4 นัด ส่วนที่เหลือชนะรวด

 

ทั้งนี้ ยังไม่เคยมีทีมใดใน พรีเมียร์ลีก ที่จบซีซั่นด้วยการเสมอเพียงแค่ 2 นัด ซึ่งเจ้าของสถิติปัจจุบันเป็นของ เชลซี ที่ทำไว้ 3 นัด ในฤดูกาล 1997-1998 และ 2016-2017

 

 

ลิเวอร์พูล – เก็บคลีนชีตมากที่สุด

 

จนถึงตอนนี้ หงส์แดงเก็บคลีนชีตไปแล้วทั้งสิ้น 17 นัด โดยเจ้าของสถิติปัจจุบันก็คือ เชลซี ที่ทำไว้ 25 นัด ในฤดูกาล 2004-2005 ส่งผลให้ในอีก 9 เกมที่เหลือ ลิเวอร์พูล จะต้องไม่เสียประตูเลยสักเกมเดียว หากหวังจะทำลายสถิติดังกล่าวของสิงโตน้ำเงินคราม

 

บางทีนี่อาจจะเป็นการขอที่มากเกินไป เนื่องจาก ลิเวอร์พูล ยังมีโปรแกรมที่จะต้องเผชิญหน้ากับทั้ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ เชลซี แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลยซะทีเดียว

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล – เป็นทีมที่มีคะแนนมากที่สุดที่ไม่ได้แชมป์

 

นี่คือสถิติที่ทั้งคู่ไม่ต้องการอย่างแน่นอน แต่หนึ่งในสองทีมนี้อาจได้รับการจารึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

โดยสถิติดังกล่าว ปัจจุบันเป็นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จบอันดับ 2 ด้วยการมี 89 คะแนน ในฤดูกาล 2011-2012 ซึ่งแม้จะจบด้วยคะแนนที่เท่ากับอันดับ 1 อย่าง ซิตี้ แต่ปีศาจแดงต้องพลาดแชมป์เพราะประตูได้เสียที่เป็นรอง

 

ในขณะนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอยู่ 71 คะแนน ส่วน ลิเวอร์พูล มีอยู่ 70 คะแนน โดยเรือใบสีฟ้ามีโอกาสจบเป็นที่ 2 ด้วยการทำได้สูงสุด 96 คะแนน ส่วนหงส์แดงมีโอกาสจบเป็นที่ 2 ด้วยการทำได้สูงสุด 97 คะแนน

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล – เป็นแชมป์ที่มีคะแนนน้อยที่สุด

 

ในปี 1996/1997 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ด้วยการมีเพียง 75 คะแนน และในเวลานี้ เรือใบสีฟ้ามีอยู่ 71 คะแนน ส่วนหงส์แดงมีอยู่ 70 คะแนน ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 9 นัด

 

แม้จะเป็นเรื่องยากที่ทั้งคู่จะขับเคี่ยวกันโดยการทำแต้มหล่นเรี่ยราดขนาดนั้น แต่ในทางทฤษฎีแล้ว นั่นเป็นสถิติที่ทั้งสองทีมยังสามารถบรรลุได้

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ชนะในบ้านมากที่สุด

 

แม้ว่าเรือใบสีฟ้า จะหมดโอกาสทำลายสถิติเดิมที่ เชลซี , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และตัวเองทำไว้ที่ 18 นัดแน่นอนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังสามารถทำสถิติเทียบเท่าได้ หากชนะในอีก 4 เกมที่เหลือบนถิ่น เอติฮัต สเตเดียม

 

 

สถิตินักเตะ

 

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล) – กองหลังที่แอสซิสต์มากที่สุด

 

แบ็คซ้ายทีมหงส์แดง โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมมากในฤดูกาลนี้ โดยเขาแอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 8 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในทีม และถ้า โรเบิร์ตสัน ทำได้อีก 4 แอสซิสต์ เจ้าตัวก็จะทำลายสถิติเดิมของสองแบ็คซ้าย เอฟเวอร์ตัน อย่าง แอนดี้ ฮินช์คลิฟฟ์ และ เลห์ตัน เบนส์ ที่ทำแอสซิสต์ไว้คนละ 11 ครั้ง

 

อลิสซอน เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล) – เก็บคลีนชีตมากที่สุด

 

จอมหนึบชาวบราซิเลี่ยน สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเกมรับของหงส์แดงอย่างเห็นได้ชัด หลังย้ายเข้ามาเฝ้าเสาบนถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยมูลค่าที่สูงถึง 67 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 

อดีตนายทวาร โรม่า เก็บคลีนชีตไปแล้ว 17 นัด ในฤดูกาลนี้ และมีโอกาสที่เจ้าตัวจะทำลายสถิติเดิมของ ปีเตอร์ เช็ก ที่ทำไว้ 24 นัด กับ เชลซี ในฤดูกาล 2004-2005 หากเขาไม่เสียประตูใน 8 จาก 9 เกมที่เหลือ

 

เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) – ยิงได้ 20 ประตูขึ้นไปใน พรีเมียร์ลีก ติดต่อกันนานที่สุด

 

ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ซัดในลีกไปแล้ว 18 ประตู และถ้าเจ้าตัวบวกเพิ่มได้อีกเพียง 2 ลูก ก็จะทำให้เขายิงได้อย่างน้อย 20 ประตู เป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน

 

เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้าของ อาร์เซน่อล และ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นสองนักเตะที่ถือครองสถิติดังกล่าวเอาไว้ เมื่อ อองรี สามารถยิงได้ 20 ประตูขึ้นไป ติดต่อกัน 5 ซีซั่น ในระหว่างฤดูกาล 2001-2002 ถึงฤดูกาล 2005-2006 ส่วนกัปตันทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบัน ก็ยิงได้เกิน 20 ประตู ตั้งแต่ฤดูกาล 2014-2015 จนมาครบ 5 ซีซั่นในฤดูกาลนี้