เซเรีย อา อิตาลี นับเป็นลีกที่กร่อยมากๆ ในช่วง 10 ปีหลังสุด เพราะแฟนบอลได้ดูแต่หนังม้วนเดิม ที่ฉายกี่ครั้งกี่ครา บทสรุปของเรื่องก็จบลงด้วยความสำเร็จของ ยูเวนตุส
นับตั้งแต่ อันโตนิโอ คอนเต้ พาทีมทวงบัลลังก์ได้เมื่อฤดูกาล 2011-12 หลังจากนั้นแม้จะให้ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี้ มารับช่วงต่อทุกอย่างก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
“ม้าลาย” แห่งตูริน ผงาดคว้า “สคูเด็ตโต้” อยู่ทีมเดียวมา 8 ฤดูกาลติดต่อกัน
แม้ฤดูกาลนี้จะยังไม่รู้ว่าจะหมู่ จะจ่าอย่างไร แม้ ลาซิโอ กับ อินเตอร์ จะทำได้ดีในฐานะผู้ท้าชิง แต่หัวตาราง “เบียงโคเนรี่” ภายใต้การคุมทีมซีซั่นแรกของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก็ยังรักษาเก้าอี้จ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น
ครั้งสุดท้ายที่ถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลี ไม่ได้สลักชื่อ ยูเวนตุส อยู่บนโทรฟี่ต้องย้อนไปไกลถึง 9 ปีเต็ม โดยทีมดังกล่าวที่ทำได้ก็คือ เอซี มิลาน ที่ปัจจุบันกลายเป็น “ยักษ์หลับ” จำศีลยาวมาหลายปี
คอบอลมักกะโรนีพันธ์แท้เชื่อว่าทุกคนคงจำได้ดีว่า “ปิศาจแดงดำ” ชุดนั้นมีใครกันบ้าง แต่สำหรับบางคนที่อาจจะหลงๆ ลืมๆ ไปบ้าง วันนี้ทีมงาน “ยูฟ่าอารีน่า” พร้อมรื้อฟื้นความทรงจำ
เราไปดูกันซิว่า 11 ตัวจริงของ “รอสโซเนรี่” ที่คว้าแชมป์ เซเรีย อา ครั้งสุดท้ายมีใครบ้าง และปัจจุบันพวกเขาเป็นอย่างไร
คริสเตียน อับเบียติ
ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู
อับเบียติ อาจจะไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่โด่งดังมากนัก เพราะในนามทีมชาติอิตาลี เจ้าตัวอยู่ใต้ร่มเงาของ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน มาโดยตลอด และตลอดอาชีพการค้าแข้งได้ลงรับใช้ “อัซซูรี่” เพียง 4 เกม
ทว่ากับสโมสร เอซี มิลาน เจ้าตัวคือหนึ่งในผู้รักษาประตูระดับตำนาน อยู่ค้าแข้งกับทีมนานถึง 15 ปี เป็นเจ้าของสถิติผู้รักษาประตูลงเล่นมากสุดของสโมสรถึง 380 เกม
หลังจากแขวนสตั๊ตไปในปี 2016 อับเบียติ ได้กลับมาทำงานกับ “รอสโซเนรี่” ในฐานะผู้ผสานงานระหว่างทีมกับสโมสรในช่วงสั้นๆ ก่อนยุติบทบาทไปหลังจบฤดูกาล 2017-18
อิกนาซิโอ อบาเต้
ตำแหน่ง : แบ็กขวา
ลูกหม้อพันธ์แท้ของ เอซี มิลาน ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ตอนปี 2003 แม้ช่วง 4-5 ปีแรกแม้จะถูกปล่อยยืมกระจาย แต่ในที่สุดเจ้าตัวก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมจนได้ และอยู่ค้าแข้งกับทีมนานถึง 16 ปี
อบาเต้ นับเป็นนักเตะที่แฟนบอลรักอย่างมาก ในเกมนัดสุดท้ายของเจ้าตัวแฟนบอลอุลตร้าของสโมสรได้ทำป้ายขอบคุณโดยมีข้อความว่า “10 ปีของความมุ่งมั่นและอ่อนน้อมถ่อมตน คุณได้ความเคารพจากอุลตร้า ขอบคุณ อิกนาซิโอ”
ปัจจุบันเจ้าตัวในวัย 33 ปีที่เพิ่งแยกทางกับ มิลาน เมื่อปีก่อนยังไม่ได้ประกาศแขวนสตั๊ด แต่ก็ไม่มีสังกัดค้าแข้งมาเกือบ 1 ปีแล้ว
ธิอาโก้ ซิลวา
ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ
“ผมคิดว่า ธิอาโก้ ซิลวา คือกองหลังที่ดีทีสุดในโลก มันคือเรื่องน่าเหลือเชื่อว่าเขาดีเพียงใด ธิอาโก้ ซิลวา เป็นส่วนหนึ่งของนักเตะยุคใหม่ที่เป็นปรากฎการณ์ ที่อาจเกิดขึ้นทุกๆ 100 ปี” ฟิลิปโป้ อินซากี้ หยอดดาวเตะรุ่นน้องหลังพาทีมคว้าแชมป์ลีก เมื่อปี 2011
ทุกอย่างที่ “ปิปโป” กล่าวไม่เกินจริงเลย เพราะนับตั้งแต่ย้ายจาก ฟลูมิเนนเซ่ มาเล่นในยุโรป ธิอาโก้ ซิลวา ก็อยู่ในฟอร์มที่ดีมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น 3 ปีกับ มิลาน และปัจจุบันกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เดินหน้าก้าวแชมป์ได้อย่างมากมาย
อเลสซานโดร เนสต้า
ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ
ในยุคที่ เนสต้า รุ่งเรืองนี่คือปราการหลังที่ได้รับการยกย่องดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง มีครบทุกอย่างที่แนวรับชั้นยอดควรมีทั้ง ความเร็ว การอ่านเกม การเข้าสกัดที่แม่นยำ และไม่แปลกเลยตลอด 20 ปีในเซเรีย อา เจ้าตัวจะลงเล่นมากถึง 400 นัด
ซีซั่นที่ มิลาน คว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายตอนนั้น เนสต้า ก็อายุถึง 35 ปี ทว่าเจ้าตัวยังเป็นตัวหลักจับคู่กับ ธิอาโก้ ซิลวา ได้อย่างลงตัว หลังจากแยกทางกับ “ปิศาจแดงดำ” เจ้าตัวพเนจรไปให้ มอนทรีอัล อิมแพ็คท์ ในสหรัฐ และ เชนไนยิน ในลีกอินเดีย
ปัจจุบัน เนสต้า ในวัย 44 ปี เข้าสู่ความท้าทายใหม่ในโลกลูกหนัง ในฐานะกุนซื้อเจ้าตัวลองวิชามาแล้วกับ ไมอามี่ เอฟซี, เปรูจา และล่าสุด โฟรซิโนเน่ ในเซเรีย บี ที่บอกเลยมีลุ้นขึ้นชั้นอยู่เหมือนกัน
ลูก้า อันโตนินี่
ตำแหน่ง : แบ็กซ้าย
ใน 11 ตัวจริงจากทีมชุดแชมป์ เซเรีย อา เมื่อฤดูกาล 2010-11 ถ้าบอกว่า อันโตนินี่ คือนักเตะที่ชื่อชั้นด้อยที่สุดก็คงไม่แปลกนัก เพราะกราฟชีวิตเจ้าตัวพุ่งที่สุดก็ตอนค้าแข้ง 5 ปีกับ “เบียงโคเนรี่”
หลังออกจาก มิลาน ในปี 2013 ดาวเตะหมายเลข 77 ย้ายไปอยู่กับ เจนัว 2 ปี ถูก อัสโคลี่ และ ลิวอร์โน่ ยืมปีละหน สุดท้ายไปแขวนสตั๊ดกับ ปราโต้ ในเลกา โปร ปัจจุบัน อันโตนินี่ ทำงานเป็นเอเยนต์นักฟุตบอลเรียบร้อยแล้ว
เจนนาโร่ กัตตูโซ่
ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ
สมัยเป็นนักเตะไม่มีใครไม่รู้จัก “ริโน่” ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน เข้าบอลหนักแน่น หน้าตาที่ขึงขังไม่กลัวเกรง การจับคู่กับ อันเดรีย ปิร์โล่ ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในคู่กลางที่ดีที่สุดในโลก
กัตตูโซ่ ที่เป็นหนึ่งในขุมพลชุดแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2006 อยู่ค้าแข้งกับ มิลาน นานถึง 13 ปี และเป็นอีกหนึ่งอดีตนักเตะที่กลับมารับงานคุมทีม “รอสโซเนรี่” แม้จะไม่ประสบความสำเร็จและอำลาทีมไปหลังจบฤดูกาลก่อน
ปัจจุบันกุนซือวัย 42 ปีกลับมานั่งคุมทีมข้างสนามอีกครั้ง หลังได้รับโอกาสจาก นาโปลี ให้สานงานต่ออดีตหัวหน้าของเขาอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ
เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็ง
ตำแหน่ง : กองกลาง
ดาวเตะทีมชาติกาน่า คือหนึ่งในนักเตะจอมพเนจรที่สุดคนหนึ่งในโลก หลังค้าแข้งมาแล้วถึง 5 ลีกใหญ่ในยุโรป รวมแล้วก็มากถึง 14 สโมสร ทว่าจุดพีกที่สุดของเจ้าตัวคือการเป็นลูกทีมของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี้ ที่ เอซี มิลาน
บัวเต็ง เป็นกองกลางที่มีจุดเด่นเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย และมีลูกเล่นที่แพรวพราว น่าเสียดายที่เจ้าตัวมีปัญหาเรื่องถูกเหยียดผิวในอิตาลี จนต้องย้ายออกจากทีม ส่วนปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ เบซิคตัส ในลีกตุรกี
คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ
ตำแหน่ง : กองกลาง
ดาวเตะจอมเทคนิคจากแดนกังหันลม เป็นหนึ่งในอดีตนักเตะที่ก้าวขึ้นมาคุมทีม เอซี มิลาน เช่นเดียวกับ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ และ ฟิลิปโป้ อินซากี้ แม้สุดท้ายจะมีจุดจบเดียวกันคือ “ความล้มเหลว”
แต่สมัยที่เป็นผู้เล่น เซดอร์ฟ คือนักเตะที่นักเตะรุ่นใหม่ๆ ควรเอาเป็นตัวอย่าง เพราะเจ้าตัวดูแลตัวเองดีมากอยู่ค้าแข้งนานถึงอายุ 38 ปี ก่อนปิดเส้นทางเลือกแขวนสตั๊ดด้วยการเล่นให้กับ โบตาโฟโก้ ในลีกบราซิล
เซดอร์ฟ คือนักเตะเพียงคนเดียวจนถึงปัจจุบันที่สามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ 3 สโมสร โดยนอกจาก มิลาน (2003, 2007) แล้วก็มี อาแจ็กซ์ (1995) และ เรอัล มาดริด (1998) ด้วย ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวเพิ่งกระเด็นตกงานจากทีมชาติแคเมอรูน เมื่อปีก่อนนิเอง
โรบินโญ่
ตำแหน่ง : กองหน้า
สมัยเป็นดาวรุ่ง โรบินโญ่ คือวันเดอร์คิดคนแรกๆ ที่โดนตั้งความหวังว่าจะเป็นทายาทของ เปเล่ หลังพา ซานโต๊ส คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในปี 202 นับตั้งแต่ เปเล่ เคยทำได้ครั้งสุดท้ายในปี 1968
แม้จะพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้ 2 สมัย ทว่า โรบินโญ่ ดูจะไม่ได้รับเครดิตมากนัก หลังย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ก็ดีแค่ปีแรก เช่นเดียวกับการมาอยู่กับ มิลาน ที่ซัดได้ถึง 14 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา สมัยที่ 18
แต่หลังจากนั้นฟอร์มก็ดำดิ่ง จำนวนประตูน้อยเรื่อยๆ สุดท้ายต้องย้ายออกในปี 2014 ปัจจุบันในวัย 36 ปี โรบินโญ่ ค้าแข้งให้กับ อิสตันบลู ทีมในลีกตุรกีอยู่ในเวลานี้
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ตำแหน่ง : กองหน้า
“อิบรา” ไม่ต่างจากสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ เพราะทุกสโมสรที่เจ้าตัวค้าแข้งส่วนใหญ่สามารถความแชมป์ลีกได้หมด ไม่ว่าจะเป็น อาแจ็กซ์, ยูเวนตุส, อินเตอร์, บาร์เซโลน่า, มิลาน และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมๆ แล้วมากกว่า 31 โทรฟี่
อิบรา ย้ายมาอยู่กับ มิลาน ในปี 2010 และเพียงปีแรกก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ทันที โดยเจ้าตัวยิงไปเบาะๆ 14 ประตู น่าเสียดายที่ปีต่อมาทั้งๆ ที่ยิงได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า แต่ก็ไม่สามารถช่วยทีมป้องกันแชมป์ได้
ปัจจุบัน อิบราฮิโมวิช ในวัย 38 กลับมาค้าแข้งกับ มิลาน อีกครั้ง ซึ่งผลงานก็ไม่ธรรมดาเลยเล่นไป 8 เกมยิงไปแล้ว 3 ประตูในเซเรีย อา
อเล็กซานเดร ปาโต้
ตำแหน่ง : กองหน้า
เจ้าเป็ดน้อย เป็นหนึ่งในแข้งวัดเดอร์คิดที่น่าเสียดาย เพราะเจ้าตัวกลับไม่เฉิดฉายอย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง โดยปัญหาสำคัญคือถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานจนไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้
อดีตเด็กปั้นของ อินเตอร์นาซิอองนาล ชุดพาทีมคว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในปี 2006 ย้ายมาอยู่กับ มิลาน ตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งแรกๆ ก็ทำได้ดี สถิติยิงประตูดีขึ้นเรื่อยๆ
ทว่าหลังจากพา มิลาน คว้าแชมป์ลีกด้วยการยิงไป 14 ประตู หลังจากนั้นกราฟชีวิตก็ดิ่งลงแบบน่าใจหาย ปาโต้ ย้ายไปเล่นในหลายทีม หลายลีกทั้งในบ้านเกิดและเอเชีย จนปัจจุบันอยู่กับ เซา เปาโล ด้วยวัย 30 ปี
