ยักษ์ใหญ่สนไหม: 7 แข้งแจ้งเกิดลีกเอิง 2022-23

ยักษ์ใหญ่สนไหม: 7 แข้งแจ้งเกิดลีกเอิง 2022-23

ลีกเอิง ฝรั่งเศส ถือว่าเป็น 1 ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปที่ได้รับความสนใจน้อยที่สุด แน่นอนว่าที่นี่ทีมที่พอจะขายได้คือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีที่ใช้เงินระดมซื้อนักเตะซูเปอร์สตาร์เข้ามาร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น เนย์มาร์, คีลียัน เอ็มบาปเป้ หรือ ลีโอเนล เมสซี่

ทำให้ความห่างชั้นในการต่อสู้แย่งแชมป์ลีกดูจะไกลกันมากกว่าลีกอื่น ๆ เรียกได้ว่าห่างกว่า บาเยิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยซ้ำ แม้ว่าจะมีทีมอย่าง ลีลล์ ที่สลับสับเปลี่ยนขึ้นมาครองแชมป์ได้บ้างก็ตาม

ถ้าลองตัด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ออกไปการต่อสู้ในลีก เอิง ฝรั่งเศส ถือว่ามีความสนุกอยู่เหมือนกัน ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นลีกที่รวมเหล่านักเตะฝีเท้าดี ที่บางทีก็มาชุบตัว รอก้าวขึ้นไปในลีกอื่น ๆ 

วันนี้ UfaArena จะพาทุกท่านไปดู 7 นักเตะฟอร์มดีประจำลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่ไม่รู้ว่าในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ พวกเขาจะเป็นที่เป็นที่ต้องตาต้องใจ สำหรับสโมสรยักษ์ใหญ่หรือไม่?

๐ โลอิส โอเปนด้า (ล็องส์)

หัวหอกวัย 23 ปี อดีตเด็กปั้นของ คลับ บรูช ทีมใหญ่ในประเทศเบลเยี่ยม เจ้าตัวเป็นนักเตะที่มี 3 สัญชาติด้วยกันคือ เบลเยี่ยม, โมร็อกโก และคองโก ซึ่งต้องบอกว่านักเตะเบลเยี่ยมมักจะมีเชื้อสายคองโก เพราะในอดีตเคยเป็นอาณานิคมกันมาก่อน ผู้เล่นอย่าง โรเมลู ลูกากู ก็มีที่มาจาก คองโก เช่นเดียวกัน 

โอเปนด้า เกิดและเติบโตในเมืองลีแอช ติดทีมชาติเบลเยี่ยม แทบทุกชุด เขาแจ้งเกิดกับ วิเทสส์ อาร์เน่ม ในเอเรวิดิซีลีก ฮอลแลนด์ หลังย้ายจาก คลับ บรูช ไปเล่นด้วยสัญญายืมตัว จนในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ล็องส์ ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยการจ่ายเงินเพียง 9.8 ล้านยูโร เพียงแค่ฤดูกาลแรกในลีกเอิงก็สามารถระเบิดฟอร์มในลีกฝรั่งเศส ได้ทันที ด้วยการซัดไปแล้ว 19 ประตู 3 แอสซิสต์ ในซีซั่นนี้

เขามีส่วนสำคัญพา ล็องส์ ก้าวขึ้นมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด แถมยังมีรางวัลส่วนตัวสอยนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีก เอิง ฝรั่งเศสได้ 2 หนติด คือเดือน มีนาคม และเมษายน ที่ผ่านมา ปัจจุบันเขาถูกประเมินมูลค่าเอาไว้ที่ประมาณ 20 ล้านยูโร เรียกได้ว่าก้าวกระโดดจากค่าตัวที่ ล็องส์ ซื้อมา 1 เท่าตัวเลยทีเดียว แถมยังเคยมีข่าวได้รับความสนใจจาก มิเกล อาร์เตต้า ที่ต้องการดึงไปร่วมทีมแก้ปัญหาแดนหน้าในตอนที่ กาเบรี่ยล เชซุส มีปัญหาอาการบาดเจ็บต้องพักยาว 

ตำแหน่งในการเล่น สามารถอยู่ได้ทุกหมุดในแดนหน้า ทั้งตัวริมเส้นสองฝั่ง และหน้าเป้าตามที่เจ้าตัวถนัดมากที่สุด ปัจจุบันติดทีมชาติเบลเยี่ยม ชุดใหญ่ไปแล้ว และเป็นหนึ่งใน 26 ขุนพลชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา 

๐ เอลเย่ วาฮี (มงต์เปลลิเย่ร์)

หนึ่งในผู้เล่นที่มีข่าวเชื่อมโยงกับหลายทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดาวเตะเชื้อสายไอวอรี่ โคสต์ ที่มาเกิดในประเทศฝรั่งเศส ในตอนเด็กถือเกเรไม่เบา เคยมีนักข่าวออกมาแฉว่าสมัยที่เขาเป็นผู้เล่นเยาวชนของ ก็อง เคยบังคับเพื่อนมัธยมให้ช่วยตัวเองต่อหน้าเขาในห้องน้ำ จนถูกไล่ออกมาแล้ว แถมยังมีเรื่องทำร้ายร่างกายหญิงสาวในไนต์คลับแห่งหนึ่งก่อนจะเคลียร์กันได้ลงตัวในภายหลัง  

เจ้าตัวมีแววตั้งแต่เด็กติดทีมชาติฝรั่งเศสไล่มาชุด U 16 ไปจนถึง U21 และก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ของ มงต์เปลลิเย่ร์ เมื่อปี 2020 แต่มาโดดเด่นจริง ๆ คือ ฤดูกาลนี้ที่ซัดไปแล้ว 17 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ พามงต์เปลลิเย่ร์ การันตีการอยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไป แถมที่ฟอร์มเข้าตาสุด ๆ คือการยิงคนเดียว 4 ประตูใส่ทีมใหญ่อย่าง โอลิมปิก ลียง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา 

วาฮี ถือว่าเป็นผู้เล่นที่รูปร่างดีสูง 186 เซนติเมตร สามารถเล่นได้หากหลายตำแหน่งในเกมรุก ชื่นชอบที่จะถอยตัวเองลงมารับบอลร่วมเล่นกับเพื่อน ในช่วงที่ผ่านมาเขาตกเป็นข่าวกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล และ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สองทีมจากเมืองผู้ดีที่อยากจะได้ตัวไปร่วมทีม 

ปัจจุบันมูลค่าของเขาพุ่งพรวดจาก 3 ล้านยูโร ขึ้นไปถึง 25 ล้านยูโรด้วยวัยเพียง 20 ปี นี่อาจจะเป็นยอดกองหน้าคนต่อไปของ มงต์เปลลิเย่ร์ ต่อจากผู้เล่นระดับตำนานอย่าง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 

๐ เอเลียส เบน เซกีร์ (โมนาโก)

แนวรุกเชื้อสายฝรั่งเศส-โมร็อกโก ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ โมนาโก ในฤดูกาลนี้ ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี เพิ่งจะฉลองอายุครบ 18 ปีไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเด็กสร้างของ โมนาโก ประเดิมลงเล่นลีกเอิง เกมแรกด้วยการลงเป็นสำรองและทำได้สองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะ โอแซร์ ไปแบบสุดมันส์ 3-2 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2022

หลังจากนั้นเขากลายเป็นตัวเลือกของทีมลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ 20 เกม ยิงไป 4 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ในทุกรายการได้รับโอกาสมากกว่าตัวที่มีประสบการณ์อย่าง เกลสัน มาร์ตินส์ หรือแม้แต่ ทาคุมิ มินามิโนะ ด้วยซ้ำ 

ส่วนตำแหน่งการเล่นของเขาถือว่าอยู่ได้หลายหมุด ตั้งแต่การเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง, หน้าต่ำ, หน้าเป้า หรือฉีกออกไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นแววดีที่น่าจับตามอง ปัจจุบันมูลค่าของเขาจาก 2 แสนยูโร ขยับขึ้นไปสูงถึง 18 ล้านยูโร เรียกได้ว่าฝีเท้าของเขาตอนนี้เก่งกว่าพี่ชายอย่าง ซาลิม เบน เซกีร์ ที่อยู่กับโอลิมปิก มาร์กเซย ไปแล้ว 

๐ โฟลาริน บาโลกัน (แร็งส์)

เด็กปั้นของ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่ไม่มีที่ว่างสำหรับเขาในฤดูกาลนี้ ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ตัดสินใจปล่อยออกจากทีมไปอยู่กับ แร็งส์ ในลีกเอิง ด้วยสัญญายืมตัว ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาแจ้งเกิดกลับมามีชื่อบนหน้าสื่ออีกครั้ง เพราะการมาเล่นในฝรั่งเศส ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นยอดดาวยิงของลีก ชนิดที่เมื่อต้นฤดูกาลคงไม่มีใครคาดคิด

บาโลกัน มีพ่อแม่เป็นชาวไนจีเรีย แต่ไปเกิดที่นิว ยอร์ก สหรัฐอเมริกา และมาเติบโตที่อังกฤษ ทำให้เขาสามารถเลือกเล่นได้ทั้งสามสัญชาติ ตอนเยาวชนก็เคยเล่นให้กับ สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ทางฝั่งไนจีเรียก็อยากจะเรียกไปติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่เจ้าตัวได้ตอบปฏิเสธไป ซึ่งล่าสุดฟีฟ่าได้อนุมัติได้รับรองอย่างเป็นทางการว่าเขาเลือกรับใช้ทีมชาติสหรัฐอเมริกา หลังมีการเจรจากันมาสักระยะ 

หัวหอกรายนี้ซัดไปแล้ว 19 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาลนี้ จนมีหลายทีมให้ความสนใจ แต่ดูเหมือนว่า มิเกล อาร์เตต้า อาจจะเลือกให้โอกาสกับเขาในฤดูกาลหน้าในทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล เพราะฟอร์มนั้นเข้าตาเหลือเกิน ด้วยอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น ยังสามารถพัฒนาฝีเท้าไปได้อีกไกล 

ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ แร็งส์ มูลค่าในตลาดจากการประเมินของ Transfermarkt อยู่ที่ 7 ล้านยูโร แต่ปัจจุบันขยับขึ้นมาสูงถึง 25 ล้านยูโร ก็ต้องรอดูว่าซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร แต่ทีมที่ได้ประโยชน์คือ อาร์เซน่อล จะเก็บไว้ชัยก็ดี หรือจะขายทำกำไรก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ 

๐ ซาลิส อับดุล ซาเหม็ด (ล็องส์)

มิดฟิลด์ตัวรับวัย 23 ปี ผู้เป็นกระดูกสันหลังให้กับ ล็องส์ หลังย้ายจาก แกลร์กมงต์ ฟุต มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัวเพียง 5 ล้านยูโร มีส่วนสำคัญช่วยในการช่วยทีมก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ด้วยการลงเล่นไป 30 เกมในลีก ยิงได้ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ เขาเป็นผู้เล่นสไตล์ฮาร์ดแมน เข้าปะทะหนักวิ่งเยอะ คอยเป็นตัวที่ตัดบอลมาให้ทีมเปลี่ยนจากรับเป็นรุก

ซาลิส อับดุล ซาเหม็ด เป็นชาวกาน่า เติบโตมากจาก JMG อคาเดมี่ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์ฝึกฟุตบอลชื่อดังในทวีปแอฟริกา รวมไปถึงในบ้านประเทศไทยเราก็มี นักเตะที่โลดแล่นในยุโรปอย่าง เจสัน เดนาเยอร์ และรามี่ เบนเซไบนี่ ก็มาผ่านการเล่นให้กับอคาเดมี่แห่งนี้

จริง ๆ แล้วชื่อของ ซาลิส อับดุล ซาเหม็ด เป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลก จากการลงเล่นเป็นตัวหลักให้ทัพ “ดาวดำ” ทีมชาติกาน่า ในศึกฟุตบอลโลก 2022 แม้ว่าจะไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม แต่ผลงานส่วนตัวของเขาถือว่าโดดเด่นจนได้ย้ายมาอยู่กับ ล็องส์ ปัจจุบันเขามีสัญญาอยู่กับทีมจนถึงปี 2027 ถูกประเมินมูลค่าเอาไว้ที่ 13 ล้านยูโร

๐ เตเร็ม ม็อฟฟี่ (ลอริยองต์ – นีซ)

หัวหอกวัย 23 ปี ที่ฤดูกาลนี้ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เตเร็ม ม็อฟฟี่ เกิดที่ไนจีเรีย ไม่มีการบันทึกสถิติการเล่นในบ้านเกิด แต่มาโผลอีกทีก็มาอยู่กับ บัคส์วู้ด ฟุตบอล อคาเดมี่ ในประเทศอังกฤษ ก่อนจะเทิร์นโปรเล่นฟุตบอลบอลอาชีพกับ เคานาส ซัลกิริส ในประเทศลิธัวเนีย จนมีโอกาสได้ไปเล่นให้กับ คอร์ไทร์ ในลีกเบลเยี่ยม และสุดท้าย ลอริยองต์ ในลีกเอิงตัดสินใจควักเงิน 3 ล้านยูโรคว้าตัวมาร่วมทีมเมื่อปี 2020

การย้ายมาเล่นในฝรั่งเศส ผลงานของเขาถือว่าโดดเด่นฤดูกาลแรกก็ยิงไป 15 ประตูจากการลงเล่น 34 เกม ซึ่งในซีซั่นนี้ฟอร์มของเขายังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม เล่นให้กับทีมไป 18 เกม ยิงได้ 12 ประตู จนมีข่าวได้รับความสนใจจาก “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น เพราะ เดวิด มอยส์ เลือกไปสอย แดนนี่ อิงค์ส จาก แอสตัน วิลล่า แทน 

อย่างไรก็ตาม เตเร็ม ม็อฟฟี่ ก็ได้ย้ายทีมสมใจแต่ยังอยู่ในฝรั่งเศส ยกระดับไปอยู่กับ นีซ ด้วยค่าตัว 22.5 ล้านยูโร การย้ายมาทีมใหม่เขาแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย มาถึงก็เป็นตัวหลักทันที 11 เกมกับ นีซ ในทุกรายการกดไป 7 ประตู 

สไตล์การเล่นของเขาถือว่าน่าสนใจ เพราะเป็นกองหน้าที่ค่อนข้างครบเครื่อง ถนัดเท้าซ้าย, มีความเร็วและความแข็งแกร่ง จบสกอร์ด้วยเฉียบคมทั้งการยิงประตูหรือลูกกลางอากาศ แถมยังยิงบอลทางแถวสองได้รุนแรงอีกด้วย เชื่อว่าถ้าฟอร์มยังยอดเยี่ยมแบบนี้อีกไม่นาน คงมีโอกาสได้ย้ายไปทีมใหญ่ โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

๐ ฮาบิบ ดิยัลโล่ (สตราส์บูร์ก)

ดาวยิงทีมชาติเซเนกัล ที่ไม่ใช่แข้งดาวรุ่งเพราะตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 27 ปีแล้ว เรียกได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงพีคของเส้นทางอาชีพ เขาเคยเป็นอดีตเยาวชนของ เม็ตซ์ ทีมเดียวกับดาวยิงรุ่นพี่ในทีมชาติอย่าง ซาดิโอ มาเน่ แต่สองคนนี้ไม่ทันกัน เพราะ มาเน่ ย้ายไปอยู่กับ เรด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก่อน 

ดิยัลโล่ ย้ายมาอยู่กับ สตราส์บูร์ก ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร เมื่อปี 2020 กลายเป็นตัวหลักของทีมมาตลอด โดยฉพาะในฤดูกาลนี้ที่ซัดไปแล้ว 20 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ เป็นรอง คีลิยัน เอ็มบาปเป้, อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ และโจนาธาน เดวิด 

ด้วยฟอร์มการเล่นของเขาถือว่าน่าสนใจ และอาจจะเป็นที่จับตามองของหลายทีมในยุโรป ยิ่งทีมที่มองหากองหน้าที่กำลังอยู่ในช่วงพีค ดิยัลโล่ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ปัจจุบันเหลือสัญญากับทีมถึงปี 2025 ถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ 15 ล้านยูโร