ถือเป็นข่าวใหญ่ในช่วงต้นปี 2022 เมื่อ แอสตัน วิลล่า จัดการปิดจ็อบคว้า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กลับมาโชว์ฝีเท้าในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งด้วยสัญญายืมตัวจาก บาร์เซโลน่า จนจบฤดูกาล
กองกลางชาวบราซิลเลี่ยน อาจได้สัมผัสแชมป์กับ ‘อาซูลกราน่า’ นับตั้งแต่ย้ายไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2018 ทั้ง แชมป์ลาลีก้า และ โกปา เดล เรย์ แต่นั่นก็ในแง่ของถ้วยรางวัลเท่านั้น เพราะตลอด 3 ปีในสเปน ฟอร์มการเล่นของเขาไม่เคยยอดเยี่ยมเหมือนสมัยสร้างชื่อกับ ลิเวอร์พูล ได้เลย
ถึง ‘คูตี้’ อยู่ในชุดคว้าทริปเบิ้ลแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 2019-20 ด้วย แต่ก็ไม่เป็นที่จดจำมากนักในช่วงที่ย้ายไปเล่นที่เยอรมันแบบยืมตัว ก่อนกลับมาต้นสังกัดพร้อมข่าวเตรียมถูกปล่อยพ้นทีมอยู่เรื่อยมา เนื่องจากค่าเหนื่อยก้อนโตที่ส่งผลต่อการลงทะเบียนนักเตะในลาลีก้า
ท้ายที่สุด สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตเพื่อนเก่าสมัยค้าแข้งกับ หงส์แดง ที่ปัจจุบันทำหน้าที่ผู้จัดการทีม สิงห์ผงาด ก็ตัดสินใจดึง เพลย์เมกเกอร์แซมบ้า กลับมาแดนผู้ดีอีกครั้งด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลนี้
ทว่าคำถามที่สำคัญต่อจากนี้ก็คือตำแหน่งไหนกันที่ เจอร์ราร์ด จะสามารถดึงศักยภาพและความสามารถของ คูตินโญ่ ออกมาในสนามให้ได้มากที่สุด ดังนั้น UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์กับระบบการเล่นที่ วิลล่า อาจเลือกใช้งานหลังจากคว้า คูตี้ มาร่วมทีม
บทบาทเดียวกับกัปตันแจ็ค
ตำแหน่งผู้รักษาประตูและแผงแบ็คโฟร์ของ แอสตัน วิลล่า ถือว่ามั่นคงและหาจุดลงตัวได้แล้ว หากไม่มีใครบาดเจ็บก็แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นสิ่งที่เปลี่ยนไปจะเป็นแผงกองกลางและแนวรุกของทีม และบทบาทที่ดูชัดเจนสำหรับ คูตินโญ่ ในทีมคงหนีไม่พ้น ปีกซ้าย ซึ่งเป็นบทบาทเดียวกับที่ แจ็ค กรีลิช เคยเล่น ในระบบ 4-3-3
ในขณะที่เขาไม่เหมาะที่จะเป็นปีกที่บาร์เซโลน่า การเล่นให้กับ ‘สิงห์ผงาด’ ทางฝั่งซ้ายที่มี คูตี้ เป็นแกนหลัก โดยมี ดักลาส ลุยซ์ หรือ มาเวลลัส นาคัมบ้า คอยสนับสนุน รวมไปถึง จอห์น แม็คกินน์ ในแดนกลางด้วย และมี แดนนี่ อิงส์ เป็นกองหน้าตัวเป้าคอยจบสกอร์ นี่จึงเป็นบทบาทที่ดูเหมาะสมกับเขาไม่น้อย
แน่นอนว่า กองกลางชาวบราซิลเลี่ยน ไม่ใช่ผู้เล่นที่เหมือกับ กรีลิช แบบ 100% อีกทั้งฟอร์มการเล่นก็ไม่โดดเด่นและด้อยกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกันในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การที่เจ้าของฉายา ‘แมจิคเชี่ยน’ ได้ย้ายมาเล่นใน วิลล่า ทำให้เขากลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักของทีมเพียงคนเดียว แตกต่างจากตอนอยู่ บาร์เซโลน่า ที่ต้องเล่นร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และคอยสนัยสนุน ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เป็นแกนกลางในการทำเกมมากกว่า
เพราะฉะนั้นทำให้แฟนๆสามารถคาดหวังได้ว่าเขาจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์โอกาสมากขึ้น หรือแม้แต่ลูกตัดเข้าในไปปั่นโค้งๆด้วยขวาก็อาจกลับมาให้เห็นเช่นกัน
ทำเกมรุกแต่ไม่ทิ้งเกมรับ
ระบบการยืนตำแหน่งอาจดูคล้ายๆกับรูปแบบแรกที่ คูตินโญ่ จะยืนอยู่ปีกซ้าย แต่จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นบางคน ซึ่งจะส่งผลต่อรูปแบบการเล่นของเขาและ วิลล่า เช่นกัน
โดยในแผงมิดฟิลด์จะใช้ ดักลาส ลุยซ์ ยืนคุมแดนกลาง โดยมี มอร์กาน ซ็องซง และ จอห์น แม็คกินน์ ยืนอยู่ข้าง 2 ฝั่ง แต่ทั้งหมดไม่กองกลางตัวรับหรือตัวตัดเกมเหมือนกับ นาคัมบ้า ซึ่งทำให้ ดาวเตะแซมบ้า จำเป็นต้องเล่นให้มีวินัยมากขึ้นในแง่ของการลงมาช่วยเกมรับในแดนกลาง เช่นเดียวกับ เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย ที่ยืนเป็นปีกขวา และนั่นทำให้อิสระในการทำเกมของเขาอาจลดลงเช่นกันหากเทียบกับแผนแรก
อย่างไรก็ตาม การใช้ ออลลี่ วัตกินส์ ในแดนหน้าที่มีความเร็วและเคลื่อนที่ได้คล่องแคล่วกว่า อิงส์ ระบบนี้จะทำให้ คูตี้ สร้างสรรค์เกมด้วยการจ่ายบอลตามช่องโดยอาศัยการวิ่งทำทางของหอกหนุ่มชาวอังกฤษรายนี้
ทำเกมจากแดนกลาง
ในช่วงครึ่งปีสุดท้ายที่ค้าแข้งใน เมอร์ซี่ย์ไซด์ เจ้าของฉายา ‘พ่อมด’ ถูก เจอร์เก้น คล็อปป์ โยกมาเล่นเป็นกองกลาง รวมไปถึงช่วงท้ายของฤดูกาล 2016-17 ด้วย
นั่นควรจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนผ่านของเขาไปสู่บทบาทนั้นที่บาร์เซโลน่า แต่ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ตัดสินใจยอมแพ้กับการเปลี่ยนแปลงนั้น และนั่นส่งผลทำให้อาชีพค้าแข้งของ ดาวเตะวัย 29 ปี ในกาตาลัน ค่อยๆจบลง พร้อมหลุดตำแหน่ง 11 ตัวจริงเรื่อยมาหลังจากนั้น
อย่างไรก็ดี เจอร์ราร์ด อาจลองใช้แผนให้เขากลับมาเล่นในแผงกองกลางอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้อดีตสตาร์ ‘หงส์แดง’ ได้เล่นกับบอลมากขึ้น และจะสามารถใช้ทักษะการจ่ายบอลคิลเลอร์พาสไปยังแดนหน้า ซึ่งเขาเคยทำได้ดีในตำแหน่งนี้ช่วงที่ย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น แบบยืมตัว
แผนดังกล่าวคือระบบที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก แต่การเจอทีมระดับหัวกะทิในลีกอาจใช้งานลำบากไปหน่อย เนื่องจากเป็นการเน้นครองเกมจากแดนกลาง แต่หาก วิลล่า เจอทีมที่พวกเขาต้องการบดขยี้ให้ได้จริงๆ การใช้ คูตี้ คอยควบคุมจังหวะเกมในแดนกลางก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
รุกเต็มสูบ
บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องทุ่มหมดหน้าตกในการดวลกับคู่แข่ง และในกรณีนั้น วิลล่า ก็มีระบบ 4-2-3-1 ให้เลือกใช้ โดยให้คูตินโญ่ เป็นตัวทำเกมเบอร์ 10 โดยมีภาระลงมาเล่นเกมรับน้อยลง และเน้นไปที่การทำเกมขึ้นหน้ากับการเพรสไล่บอลในแดนคู่แข่งมากขึ้น
อิงส์ จะถูกจับไปเล่นเป็นหอกตัวเป้า ขณะที่ วัตกินส์ จะโยกมาเล่นด้านกว้างแทน ซึ่งสามารถหาจังหวะตัดเข้าในเพื่อทำประตูได้เช่นกัน โดยให้ จอห์น แม็กกินน์ และ ดักลาส ลุยซ์ คุมแดนกลาง
ส่วนตัวรุกฝั่งขวาจะใช้ บูเอนเดีย ที่มีทักษะในการลากเลื้อยและการสร้างสรรค์เกม แต่ก็สามารถลงมาช่วยเกมรับได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
