โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ กัปตันทีมของนาโปลีรู้สึกตื้นตันและพูดไม่ออกหลังได้เป็นคนชูถ้วยแชมป์เซเรียอา อิตาลี ต่อจากตำนานของทีมอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า
โดยนาโปลีเพิ่งบุกไปเสมอกับ อูดิเนเซ่ 1-1 ในเกมเซเรียอา อิตาลี เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขาเก็บแต้มเพิ่มเป็น 80 คะแนน นำห่างอันดับ 2 อย่าง “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ ถึง 16 คะแนน และเหลือการแข่งขันเพียง 5 เกมเท่านั้น
ทำให้พวกเขาการันตีการผงาดคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ครั้งแรกในรอบ 33 ปีทันที และเป็นแชมป์สมัยที่ 3 ของสโมสร หลังก่อนหน้านี้เคยครองความยิ่งใหญ่ในยุคของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่ได้แชมป์ 2 สมัยเมื่อฤดูกาล 1986-1987 และ1989-1990
หลังจบเกมกัปตันทีมอย่าง โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ที่เล่นในตำแหน่งแบ็คขวายอมรับว่าเขาพูดไม่ออกกับการได้เป็นคนชูถ้วยแชมป์ที่รอยคอยมานานถึง 33 ปี ต่อจากตำนานอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า
“การได้เปรียบเทียบกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ในฐานะกัปตันทีมที่ได้ชูสคูเด็ตโต้ มันทำให้ผมพูดถึงไม่ออกจริง ๆ แน่นอนว่ามันไม่ใช่สคูเด็ตโต้ของผม แต่เป็นของเพื่อนร่วมทีม และทุกคนที่ทำงานหนักทุ่มเทเพื่อสโมสร” แข้งวัย 29 ปี กล่าว
“มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เราร่วมกันต้องสู้เพื่อสิ่งนี้ตั้งแต่ช่วยต้นฤดูกาล ในที่สุดสิ่งที่เรารอคอยก็มาถึง และเรามีความสุขมาก ผมคิดว่านี่คือแชมป์ที่คู่ควรอย่างยิ่ง และตอนนี้พวกเขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ร่วมฉลอง”
“เป็นเวลาหลายปีเกินไปที่เมืองเนเปิ้ลส์ ที่ที่ผู้คนมีชีวิตเพื่อฟุตบอลและส่งต่อความรักแรงสนับสนุนถึงทีม มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอด และได้เห็นเมืองแห่งนี้กลับมามีชีวิตชีวาจริง ๆ”
“ผมสนุกไปกับเพื่อนร่วมทีม เรามีฤดูกาลที่แสนพิเศษและปิดฤดูกาลได้ดีสุด ๆ ผมเห็นวิดีโอการฉลองของแฟนบอลในเนเปิ้ลส์มันเหลือเชื่อมาก และแฟน ๆ สมควรได้รับมันอย่างยิ่ง”
SIAMO NOOOOIIIIIIII 🏆 #Napul3 pic.twitter.com/G2htDc21qa
— Official SSC Napoli (@sscnapoli) May 4, 2023
