ประเดิมถ้วยแรก! ราชันชุดขาว อัด บิลเบา 2-0 ชูซูแปร์โคปา

ราชัน

ศึกซูแปร์โคปา เด เอสปันญ่า รอบชิงชนะเลิศคู่ระหว่าง แอธเลติก บิลเบา พบกับ เรอัล มาดริด

เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาทีทัพราชันชุดขาวได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ โรดริโก้ ได้ช่องลากเลื้อยมาทางฝั่งขวาลุยเข้าไปซัดแต่บอลดันออกหลังออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมานาที 16 บิลเบาได้ทักทายบ้างจากจังหวะเตะมุมเข้ามาให้กับ อินญิโก้ มาร์ติเนซ โหม่งเช็ดมาถึง เยราย อัลบาเรซ ได้โขกซ้ำแต่บอลหลุดเสาออกไป

นาที 18 ราชันชุดขาวได้ลุ้นจากจังหวะที่ โรดริโก้ ผ่านบอลไปให้กับ คาริม เบนเซม่า จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดเน้นๆแต่ยังติดเซฟของ อูไน ซิม่อน ถัดมานาที 27 มาดริดได้ลุ้นต่อเนื่องจากจังหวะยิงของ คาเซมิโร่ ทั้งสองรอบ และติดเซฟทั้งสองรอบ

นาทีที่ 38 ราชันชุดขาวมาออกนำไปจนได้จากจังหวะพาบอลขึ้นมาของ โรดริโก้ ก่อนตบมาให้กับ ลูก้า โมดริช ได้ปั่นบอลหนีมือ ซม่อนเข้าไปอย่างสวยงาม พาทีมออกนำ 1-0

ก่อนจบครึ่งแรกนาทีที่ 41 โมดริชได้ลองส่องเพิ่มแต่บอลหลุดกรอบออกไป ด้านบิลเบาเองก็มีจังหวะลุ้นในนาทีที่ 45 โดยบอลจาก อิเกร์ มูเนียอิน ไปให้กับ ออยอาน ซานเซต ซัดเน้นๆแต่บอลก็ข้ามคานออกไปอีก ทำให้ครึ่งแรกจบที่สกอร์นำของ เรอัล มาดริด 1-0

เริ่มครึ่งหลังมานาที 52 ราชันชุดขาวออกนำห่างไปอีกจากจังหวะที่ เบนเซม่า ยิงไปติดมือของ เยราย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะให้เป็นจุดโทษ และเป็น เบนเซม่าเองที่มารับหน้าที่สังหารเข้าไป พาทีมนำห่าง 2-0

ถัดมา นาทีที่ 54 บิลเบาได้ลุ้นทันทีจากจังหวะที่ มิเกล บาเลนเซียก้า ผ่านบอลให้กับ มูเนียอิน ที่รออยู่หน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดบอลเหินข้ามคานออกไปไกล นาที 64 ราอูล การ์เซีย ที่ลงมาเป็นสำรองได้ลุ้น 2 รอบติดแต่ก็หลุดกรอบไปทั้งสองรอบยังไม่เป็นประตู

นาทีที่ 76 ราอูลไดลุ้นอีกจากจังหวะที่ ยูริ เบร์ชีเช่ ครอสบอลเข้ามาให้กับ ราอูลขึ้นโขก แต่บอลบอลก็ดันหลุดเสาออกไปอีก ถัดมานาที 82 บิลเบายังคงเป็นฝ่ายได้ลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะที่ นีโก เซอร์ราโน่ พยายามปั่นบอลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ยังติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์

ก่อนจบเกมนาที 89 มาดริดมาเสียใบแดงจากจังหวะที่ มิลิเตา ไปแฮนด์บอลในกรอบแถมยังเป็นการเสียจุดโทษอีกด้วย แต่ ราอูล การ์เซีย ดันยิงไปติดเซฟของ กูร์กตัวส์ทำให้ ราชันชุดขาวได้เถลิงบัลลังก์แชมป์แรกในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-0

นักเตะที่ลงสนาม

แอธเลติก บิลเบา : อูไน ซิม่อน(GK) – ออสการ์ เด มาร์กอส, เยราย อัลบาเรซ, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, มิเกล บาเลนเซียก้า – อเล็กซ์ เบเรนเกร์, โอเอีย ซารานก้า, อูไน เบนเซดอร์, อิเกร์ มูเนียอิน – ออยอาน ซานเซต, อินญากี้ วิลเลียมส์

สำรอง: นีโก วิลเลี่ยมส์ (46) , ราอูล การ์ซิอา(58) , มิเกล เวสก้า(58) ,ยูริ เบร์ชีเช่(58) , นีโก เซอร์ราโน่ (81)

เรอัล มาดริด: ติโบต์ กูร์กตัวส์(GK) – ลูกัส บาซเกซ, เอแดร์ มิลิเตา, ดาบิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส – โรดริโก้, วีนิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า

สำรอง: เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้(64) , มาร์เซโล่(86) , นาโช่ เฟร์นันเดซ(90+1)

ครบทุกบท! เบนเซม่า จากพระรอง ตัวร้าย สู่พระเอก

เบนเซม่า