ปิดตำนาน : 10 ความทรงจำน่าจำและลืมของรามอสกับราชัน

รามอส

 

สุดยอดปราการหลังชาวสเปน อย่าง เซร์คิโอ รามอส เพิ่งตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อย่างเป็นทางการ หลังเขาหมดสัญญากับ เรอัล มาดริด หลังจบซีซั่น 2020/2021 และเลือกที่จะแยกทางกับสโมสร ปิดฉากช่วงเวลาค้าแข้งยังถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ซึ่งยาวนานกว่า 16 ปี

 

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ย้ายจาก เซบีย่า มาอยู่กับ “ราชันชุดขาว” เมื่อปี 2005 มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับ รามอส ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องน่าจดจำและไม่น่าจดจำ โดยเฉพาะการที่เขากลายเป็นกัปตันทีมคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยส์ ลีก 3 สมัยติดต่อกัน เป็นคนแรก ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเขาทำได้กับ “โลส บลังโกส” และยากมีใครจะทำลาย

 

นอกนั้นยังมีเรื่องราวอีกมากมายซึ่งเป็นทั้งเรื่องที่น่าจดจำและไม่น่าจดจำของ เซร์คิโอ รามอส กับ เรอัล มาดริด ซึ่งวันนี้ UFAARENA จะพาไปดูกันว่า เรื่องราวเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง

5 โมเมนต์น่าจดจำ

รามอส

โหม่งประตูพาทีมพลิกสถานการณ์คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ

 

นี่อาจไม่ใช่ประตูที่ดีที่สุดของ เซร์คิโอ รามอส กับสโมสร ทว่าลูกโหม่งซึ่งเรากำลังพูดถึงต่อไปนี้ มีส่วนสำคัญช่วย เรอัล มาดริด พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ เซบีย่า คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ เมื่อซีซั่น 2016 และมันแสดงให้เห็นว่าปราการหลังชาวสเปน มีความสำคัญกับทีมมากแค่ขนาดไหน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

ย้อนกลับไปเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ เมื่อปี 2016 เรอัล มาดริด แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องมาพบกับ เจ้าของถ้วย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก อย่าง เซบีย่า โดยแมตช์ดังกล่าวเป็นทางฝั่งลูกทีม ฮอร์เก้ ซัมเปาลี่ ทำผลงานดีกว่า และเกือบคว้าแชมป์สำเร็จ หลังเกมผ่านมาจนครบ 90 นาที พวกเขายังคงนำ “ราชันชุดขาว” 2-1 ทว่าช่วงทดเจ็บนาที 90+3 จากจังหวะ ลูคัส บาสเกซ เปิดบอลจากกรอบเขตโทษด้านขวามาถึง รามอส โหม่งจ่อๆ ตุงตาข่ายทีมเก่า เป็นสกอร์ตีเสมอ 1-1 พร้อมกับเสียงนกหวีดเป่าจบเกมจากผู้ตัดสิน เรียกได้ว่านี่เป็นประตูที่ทำให้ มาดริด รอดพ้นจากความพ่ายแพ้แบบหวุดหวิด

 

ก่อนที่ช่วงต่อเวลา ดานี่ การ์บาฆาล จะมายิงขึ้นนำให้กับ “โลส บลังโกส” เป็น 3-2 และเป็นประตูชัยเกมนี้ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า หาก เรอัล มาดริด ไม่ได้ประตูตีเสมอช่วงทดเวลาจากแนวรับคนสำคัญ พวกเขาคงแพ้ เซบีย่า และพลาดการคว้าถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ สมัยแรกของสโมสรไปแล้ว

 

 

รามอส

คว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน สมัยแรกกับสโมสร

 

จากความสำเร็จทั้งหมดของ รามอส มันไม่ได้เรียบง่านเสมอไป โดยเฉพาะการออกสตาร์ทกับสโมสรด้วยความยากลำบากเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งเขาเปิดฉากซีซั่นแรกกับยอดทีมแห่งเมืองหลวงสเปน แบบไม่มีแชมป์อะไรติดมือแม้แต่รายการเดียว

 

อย่างไรก็ตามแม้ตกอยู่ภายใต้ยุดที่ฟุตบอลแดนกระทิงดุกำลังถูกครอบงำด้วยความยิ่งใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ทว่าแบ็คขวาดาวรุ่งชาวสเปน เวลานั้น สามารถช่วยต้นสังกัดเบียดแย่งความสำเร็จจาก “ต่างดาว” คว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน ของตัวเขาเองกับสโมสร ด้วยการแซง “อาซูกาน่า” ขึ้นมาจบตำแหน่งจ่าฝูงในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2006/2007

 

โดยตลอดซีซั่นดังกล่าว รามอส ลงเล่นให้กับ “โลส บลังโกส” 33 นัด ในลีก มากกว่าผู้เล่นเอาท์ฟิลด์คนอื่นทั้งหมด พร้อมกับมีชื่อคว้าแชมป์ ลาลีกา ร่วมกับเหล่านักเตะ “กาลาติกอส” อย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, ราอูล กอนซาเลซ, รุด ฟาน นิสเตลรอย, เดวิด เบ็คแฮม และ โรนัลโด้

 

 

รามอส

ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก

 

แม้ท้ายที่สุด รามอส ปิดฉากกับ “ราชันชุดขาว” ด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรป 4 สมัย ทว่ากว่าที่เจ้าตัวจะสามารถพาทีมเข้าชิงชนะเลิศครั้งแรก ต้องรอนานกว่า 9 ปี นับตั้งแต่มาเป็นผู้เล่นใหม่ยังถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว เมื่อปี 2005

 

ย้อนกลับฤดูกาล 2013/2014 ในแมตช์รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง เรอัล มาดริด กับ บาเยิร์น มิวนิค เลกแรกเป็นทางฝั่งยอดทีมจากสเปน เปิดบ้านเอาชนะไปก่อนด้วยสกอร์ 1-0 ก่อนที่เลกสอง รามอส มีส่วนทำถึง 2 ประตู ช่วยต้นสังกัดบุกชนะ “เสือใต้” แบบขาดลอย 4-0 ที่สนาม อลิอันซ์ อารีน่า พาทีมทะลุรอบชิงชนะเลิศถ้วย “บิ๊กเอียร์” ครั้งแรกในรอบ 12 ปี

 

ก่อนท้ายที่สุดเกมนัดชี้ชะตาแชมป์ทางฝั่งลูกทีม ซีเนดีน ซีดาน ณ เวลานั้น เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-1 ซึ่ง รามอส ถือเป็นฮีโร่ของแฟนบอล เนื่องจากเจ้าเป็นคนโหม่งประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับ เรอัล มาดริด ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 ก่อนพวกเขาสามารถแซงเอาชนะ “ตราหมี” คว้าแชมป์ยุโรป สมัยที่ 10 ในประวัติศาสตร์สโมสร ได้อย่างยิ่งใหญ่

 

 

รามอส

กัปตันทีมคนแรกคว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยซ้อน

 

ภายหลัง อิเกร์ กาซิยาส ตัดสินใจย้ายออกจาก ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว เมื่อปี 2015 แนวรับชาวสเปน ถูกเลือกให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของ เรอัล มาดริด ซึ่งเขาอยู่กับสโมสรมาอย่างยาวนานและเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากสุดของทีมเวลานั้น

 

ช่วงเวลาเดียวกันทางฝั่ง เรอัล มาดริด มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เมื่อกุนซืออย่าง ราฟา เบนิเตซ แยกทางกับสโมสร และเป็น ซีนาดีน ซีดาน เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชคนใหม่แทนที่ หลังจากนั้นเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส สร้างความยิ่งใหญ่พา “โลส บลังโกส” คว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยติดต่อกัน ด้วยการเอาชนะ แอตเลติโก้ มาดริด, ยูเวนตุส และ ลิเวอร์พูล ในเกมนัดชิงชนะเลิศจากทั้งสามครั้ง

 

นอกจากนั้น เซร์คิโอ รามอส ยังสร้างประวัติศาสตร์และสถิติที่ยากจะมีใครทำลาย ด้วยการเป็นกัปตันทีมคนแรกซึ่งสามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยซ้อน ระหว่างปี 2016 – 2018 อันที่จริงแล้วเขาเป็นกัปตันทีมคนแรกที่พาทีมป้องกันแชมป์รายการดังกล่าวสำเร็จเป็นคนแรกอีกด้วย

 

 

รามอส

โหม่งประตูตีเสมอ แอตเลติโก้ มาดริด เกมชิงถ้วย “ลา เดซิม่า”

 

เกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่น 2013/2014 ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส กำลังจะจบลงด้วยชัยชนะของลูกทีม ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ หลังพวกเขานำคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เรอัล มาดริด 1-0 จนถึงนาทีที่ 90 ของเกม เหลือแค่เพียงเสียงนกหวีดจากผู้ตัดสินเท่านั้น ก่อนที่พวกเขาจะได้ฉลองแชมป์อย่างเป็นทางการ

 

ทว่าปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับ “ราชันชุดขาว” จากจังหวะเล่นลูกเตะมุมแค่เพียงไม่กี่วินาทีก่อนหมดเวลา และเป็น รามอส ที่ลอยตัวขึ้นโขกบอลผ่านมือ ธิโบต์ คูร์ตัวส์ เข้าไปตุงตาข่ายเป็นสกอร์ตีเสมอ 1-1 ช่วยทีมของเขารอดพ้นจากความพลาดแพ้หวุดหวิด ก่อนที่แมตช์ดังกล่าวจบ 90 นาที แบบยังหาผู้ชนะไม่ได้

 

อย่างไรก็ตามจากประตูตีเสมอช่วงท้ายเกม ส่งผลให้บรรดานักเตะ มาดริด มีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมในช่วงต่อเวลาพิเศษ พร้อมกับเดินหน้าเปิดเกมรุกไล่อัด “ตราหมี” ซึ่งกำลังช็อคจากการที่พวกเขาปล่อยโอกาสคว้าถ้วยแชมป์ยุโรป หลุดมือไปแบบน่าเจ็บใจสุด ๆ และเอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-1 หลังจบ 120 นาที

 

 

5 โมเมนต์ไม่น่าจดจำ

 

 

รามอส

ทำถ้วยแชมป์ โกปา เดล เรย์ ตกรถแห่

 

ในขณะที่เหล่านักเตะ “โลส บลังโกส” กำลังฉลองความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ เมื่อปี 2011 หลังเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า ช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นตอนที่พวกเขากำลังอยู่บนรถแห่

 

โดยระหว่างที่ขบวนฉลองแชมป์กำลังเคลื่อนไปรอบกรุงมาดริด ทว่า รามอส กลับทำถ้วยอันทรงเกียรติร่วงหล่นพื้นถนน แถมยังโดนล้อรถแห่เหยียบซ้ำจนถ้วยถึงขนาดบิดเบี้ยวผิดรูปเลยทีเดียว

 

 

รามอส

อัด ซาลาห์ เจ็บเกมนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก

 

ในขณะที่เขาสร้างประวัติศาสตร์เป็นกัปตันทีมคนแรกซึ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน รามอส ยังเป็นวายร้ายในค่ำคืนเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2017/2018 ที่สนาม โอลิมปิสกี้ เนชั่นแนล สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ กรุงเคียฟ สำหรับ ลิเวอร์พูล และเหล่าบรรดา “เดอะ ค็อป” ทั่วโลก ที่ชมแมตช์การแข่งขันนัดดังกล่าว

 

ประเด็นคือจังหวะที่ รามอส เล่นลูกหนักใส่ผู้เล่นคนสำคัญ “หงส์แดง” อย่าง  โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ด้วยการล็อคแขนจนล้มลงกับพื้น ซึ่งนั่นทำให้ดาวยิงชาวอียิปต์ มีอาการเจ็บที่หัวไหล่และไม่สามารถเล่นต่อได้ พร้อมกับโดนเปลี่ยนออกจากสนามตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรก เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ช็อคแฟนบอลยอดทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ ไม่น้อยทีเดียว

 

ท้ายที่สุดเกมนัดดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของ เรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ 3-1 และปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความราวฉานระหว่าง ซาลาห์ และ รามอส มาตลอดนับตั้งแต่นั้น

 

 

รามอส

โดนแดง 4 ใบ ในซีซั่นแรกกับสโมสร          

 

จากสถิติที่มีการบันทึกไว้ ปราการหลังทีมชาติสเปน โดนใบแดงทั้งหมด 26 ใบ ตลอดระยะเวลา 16 ปี ที่เขาค้าแข้งยังถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว แต่ฝันร้ายที่สุดคงหนีไม่พ้นสมัยย้ายมาอยู่กับทีมซีซั่นแรก และโดนไล่ออกจากสนามถึง 4 ครั้ง

 

ก่อนที่สุดยอดกองหลังชาวสเปน จะก้าวขึ้นมาเป็นแนวรับระดับโลก อย่างในปัจจุบัน เขาเคยผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาแล้วหลายครั้ง แต่คงไม่มีคราวไหนหนักหนาสาหัสเท่ากับช่วงที่เขาย้ายมาอยู่กับสโมสรฤดูกาลแรก และโดนใบแดงถึง 4 ใบ ระหว่างเดือนกันยายน ปี 2005 ถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2006

 

โดยใบแดงแรกเกิดขึ้นจังหวะที่เขาเจตนาทำแฮนด์บอล ใบที่สองถูกแจกหลักเจ้าตัวเข้าบอลอันตรายใส่คู่แข่งฝั่งตรงข้าม ส่วนใบที่สามมาจากจังหวะมีปากเสียงกับผู้เล่นคู่แข่ง และใบสุดท้ายถูกแจกหลังโดนใบเหลืองครบสองใบระหว่างเกม

 

 

รามอส

พลาดจุดโทษเกมพบ “เสือใต้”

 

ย้อนกลับไปในซีซั่น 2011/2012 โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน เหนือคู่แข่งอย่าง บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จ ทว่าเจ้าตัวไม่สามารถพายอดทีมแห่งกรุงมาดริด ไปถึงฝั่งฝันในศึกฟุตบอลยุโรป ได้สำเร็จ

 

เป็นอีกครั้งที่พวกเขาอกในรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังพลาดท่าแพ้การดวลจุดโทษ บาเยิร์น มิวนิค 1-3 คาบ้านของตัวเอง หลังรวมผลสองนัดจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษในเกมเลกสองเสมอกัน 3-3 โดยที่ รามอส ซึ่งรับหน้าที่เป็นคนยิงจุดโทษคนที่ 4 ซัดบอลแรกข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง

 

การพลาดจุดโทษของของเขาทำให้ความฝันสำหรับการคว้าถ้วย “ลา เดชิม่า” สมัยที่ 10 ของ มาดริด หลุดลอยไปทันที ส่วน รามอส กลายเป็นตัวตลกของแฟนบอลในโลกออนไลน์ ในเวลานั้นเช่นกัน

 

 

รามอส

โดนใบแดงไล่ออกเกม “เอลกลาซิโก้” 

 

ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่กับ เรอัล มาดริด และลงสนามพบกับ บาร์เซโลน่า อดีตกองหลังกัปตันทีม “ราชันชุดขาว” โดนใบแดงไล่ออกจากสนามเกม “เอลกลาซิโก้” ทั้งหมด 5 ครั้ง แต่คงไม่มีครั้งไหนที่เป็นฝันร้ายเท่ากับครั้งแรกซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2011

 

ย้อนกลับไปในเกมที่ “โลส บลังโกส” บุกไปเยือน “ต่างดาว” ที่สนาม คัมป์ นู เมื่อซีซั่น 2010/2011 เซร์คิโอ รามอส ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำ หลังเขาโดนแจกใบเหลืองครบสองใบก่อนกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ซึ่งเป็นผลให้ท้ายที่สุด มาดริด แพ้ “อาซูลกราน่า” ไปแบบเละเทะ 5-0

 

โดยใบเหลืองใบแรกได้รับจากจังหวะที่เขาเข้าปะทะหนักใส่ ลิโอเนล เมสซี่ ส่วนใบที่สองถูกแจกหลังเจ้าตัวเจตนาผักเข้าที่หน้าของ ชาบี เอร์นานเดซ และ คาร์ลอส ปูโยล ซึ่งมันเรื่องจากที่เข้าใจ เนื่องจากพวกเขาเล่นด้วยกันในทีมชาติสเปน และช่วยกันทัพกระทิงดุ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 แค่เพียงไม่กี่เดือนก่อนหน้าเกมนัดนั้น

 

 

ก่อนจะถึงรามอส : 10 กองหลังจอมถล่มประตูในลาลีก้า