พรีวิว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก : เอซี มิลาน vs ลิเวอร์พูล

พรีวิว ยูฟ่า

 

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก : เอซี มิลาน vs ลิเวอร์พูล

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2564 เวลา 03.00 .

ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1

ราคาต่อรอง : เอซี มิลาน ต่อ 0/0.5

สนาม : ซาน ซิโร่

 

ความพร้อมของทั้งสองทีม

เอซี มิลาน : รอสโซเนรี่มีผลงาน 5 นัดหลังสุดคือชนะ 3 และแพ้ 2 โดยเกมที่ผ่านมาพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ ซาแลร์นิตาน่า ไปได้ 2-0 ซึ่งในนัดนี้ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือของทีม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อันเต้ เรบิช , ซิมง เคียร์ , โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ , ปิเอโตร เปลเลกรี , ดาวิเด้ คาลาเบรีย และ ซามู กาสตีเยโฆ่ ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด โดยแนวรุก จูเนียร์ เมสซิอัส , บราฮิม ดิอาส และ ราฟาเอล เลเอา จะปั้นเกมบุกร่วมกัน พร้อมวาง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไว้ปิดบัญชีในแดนหน้า

ลิเวอร์พูล : หงส์แดงคว้าชัยมาแล้ว 5 เกมติดต่อกัน โดยนัดล่าสุดพวกเขาบุกไปเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน มาได้ 1-0 ซึ่งในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของทีม จะขาด โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ , ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ เคอร์ติส โจนส์ ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด รวมถึงจะไม่มี เจมส์ มิลเนอร์ ที่ติดโทษแบน ขณะที่ในรายของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ดิโอโก้ โชต้า และ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ยังต้องรอเช็คสภาพความฟิตอีกครั้ง โดยในแดนกลาง เจ้าหนูไทเลอร์ มอร์ตัน น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วนสามประสานในแดนหน้า ใช้เป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ทาคุมิ มินามิโนะ และ ดิว็อค โอริกี้

 

สถิติที่เคยพบกันมา 5 นัดหลังสุด : เอซี มิลาน ชนะ 1 ครั้ง , เสมอกัน 1 ครั้ง , ลิเวอร์พูล ชนะ 3 ครั้ง

 

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เอซี มิลาน (4-2-3-1) : ไมค์ เมญอง (GK) , อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ , ฟิคาโย่ โทโมรี่ , อเลสซิโอ โรมันโญลี่ , เตโอ แอร์กน็องเดซ , อิสมาเอล เบนนาเซอร์ , ฟรองค์ เคสซี่ , จูเนียร์ เมสซิอัส , บราฮิม ดิอาส , ราฟาเอล เลเอา , ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (GK) , เนโก้ วิลเลี่ยมส์ , โจ โกมเซ , อิบราฮิม่า โกนาเต้ , คอสตาส ซิมิคาส , ไทเลอร์ มอร์ตัน , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน , นาบี เกอิต้า , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ทาคุมิ มินามิโนะ , ดิว็อค โอริกี้

 

วิเคราะห์ : สิ่งที่ต่างกันชัดเจนคือเรื่องความมุ่งมั่น เพราะ มิลาน จำเป็นต้องคว้าชัยให้ได้เพื่อผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล การันตีตำแหน่งแชมป์กลุ่มไปแล้ว และคงจะโรเตชั่นพอสมควรด้วยในนัดนี้ จึงดูเหมือนปีศาจแดงดำมีโอกาสเอาชนะได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งของหงส์แดงในเวลานี้ ต่อให้ใช้งานตัวสำรองหลายตำแหน่ง คุณภาพก็ไม่น่าจะดรอปลงมากนัก ฉะนั้น เมื่อบวกกับฟอร์มของรอสโซเนรี่ที่แอบมีแกว่งให้เห็นด้วยแล้ว งานนี้เชื่อว่าทีมของคล็อปป์จะสามารถเอาตัวรอดจากความปราชัยได้

 

ผลที่คาด : เสมอ 2-2

 

บทความที่คุณอาจสนใจ : ใครเห็นก็ว่าร่วง: 5 ทีม UCL รอบแรกร่อแร่แต่ทะลุถึงชิง

UCL