พอลตำนานผี “เท็ดดี้ เชอริงแฮม”

video
play-sharp-fill

พอลตำนานผี “เท็ดดี้ เชอริงแฮม”

พอลตำนานผีวันนี้จะมาเล่าเรื่องราวของนักเตะที่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อตอนอายุ 31 ปีแล้ว ในตอนนั้นแฟนบอลปีศาจแดงต่างก็ตั้งคำถามในตัวเขา แต่เขาก็ได้ตอบคำถามเหล่านั้นด้วยฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม และได้ฝากโมเมนต์ที่น่าจดจำไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม

 

ในช่วงซัมเมอร์ปี 1997

แมนฯ ยู ได้ซื้อตัว เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม จาก สเปอร์ส มาเป็นตัวแทนของ เอริค คันโตน่า ที่ประกาศแขวนสตั๊ดไป (ติดตามอ่านเรื่องราวของคันโตน่า คลิก ) ด้วยราคา 3.5 ล้านปอนด์ การซื้อ เชอร์ริงแฮม มาร่วมทีมสร้างข้อสงสัยมากมายให้กับแฟนบอลปีศาจแดง แฟนบอลไม่เข้าใจว่าทำไมทีมถึงเซ็นสัญญากับผู้เล่นอายุ 31 ปีที่แก่กว่า คันโตน่า เดือนเศษๆ ไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดได้เลย แถมฤดูกาลล่าสุดเขาก็ยิงในพรีเมียร์ลีกได้เพียง 7 ประตูเท่านั้น

 

แต่ มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ ประธานสโมสร แมนฯ ยู ก็ได้ยืนยันว่า เท็ดดี้ เชอริงแฮม คือผู้เล่นที่มีคุณภาพ และยังเล่นให้สโมสรได้อีกหลายปี อย่างไรก็ตามผลงานในฤดูกาล 1997-98ของเขากับ แมนฯ ยู ก็ถือว่ายังไม่ค่อยดีเท่าไร เขายิงในลีกไป 9 ประตู แถมในฤดูกาลนั้น แมนฯ ยู ไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย เป็น อาร์เซน่อล ที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้

 

ในฤดูกาล 1998-99 

เท็ดดี้ เชอริงแฮม ได้ออกสตาร์ทตัวจริงน้อยลง ทำได้เพียง 2 ประตูในพรีเมียร์ลีก แต่ในฤดูกาลนี้เขาก็ได้จารึกชื่อของตัวเองให้อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด

ในช่วงท้ายของฤดูกาล แมนฯ ยู กำลังลุ้นที่จะได้ทริปเปิ้ลแชมป์ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ได้เป็นตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายที่ แมนฯ ยู จำเป็นต้องชนะ สเปอร์ส เท่านั้นเพื่อคว้าแชมป์ อย่างไรก็ตาม ขณะที่ แมนฯ ยู ตามหลัง 0-1 เชอร์ริงแฮม ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกทันทีที่จบครึ่งแรก คนที่ลงแทนเขาคือ แอนดี้ โคล และ โคล ก็ทำประตูชัยให้ทีมพลิกกลับมาชนะ 2-1 แม้เกมนี้ เชอร์ริงแฮม จะไม่ได้มีฟอร์มที่ดีเท่าไหร่ แต่หลังจบเกมนั้นก็ทำให้เขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์รายการแรกในชีวิตของเขา

 

หลังจากนั้นในนัดชิง เอฟเอ คัพ กับ นิวคาสเซิ่ล

เขาต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน แต่หลังจากที่ รอย คีน บาดเจ็บตั้งแต่ช่วงต้นเกม เชอร์ริงแฮม ก็ได้โอกาสลงเล่น และ 2 ประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ เขาก็มีส่วนทั้ง 2 ประตู ประตูแรกเขาเป็นคนยิงเอง ส่วนประตูที่สองเขาเป็นคนจ่ายให้ พอล สโคลส์ ทำประตู จบเกม แมนฯ ยู ชนะ 2-0 คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ไปครอง และ เชอร์ริงแฮม ได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ด้วย

และในเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ถูก บาเยิร์น นำอยู่ 1-0 และเหลือเวลาอีกแค่ 20 นาที เท็ดดี้ เชอริงแฮม ก็ได้ลงเล่นแทน เจสเปอร์ บรอมควิสท์ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เฟอร์กี้ ก็ได้ส่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กองหน้าอีกคนลงสนาม และการเปลี่ยนตัว 2 คนนั้น ก็นำมาซึ่ง 2 ประตูในช่วงทดเวลา ประตูแรก เชอร์ริงแฮม เป็นคนยิงได้ ส่วนประตูที่สองเขาโหม่งแอสซิสต์ให้ โซลชา ทำประตู จบเกม แมนฯ ยู ชนะไป 2-1 คว้าแชมป์ยุโรปและได้ทริปเปิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่

 


ติดตามเรื่องราวพอลตำนานผี คลิก

 

ในฤดูกาล 1999-2000

แม้ เท็ดดี้ เชอริงแฮม จะไม่ได้มีฟอร์มที่โดดเด่นมากนัก แต่เขาก็มีส่วนในการพา แมนฯ ยู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

 

ฤดูกาล 2000-01

เขากลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เขาเป็นดาวซัลโวของ แมนฯ ยู ทำไป 21 ประตู จาก 43 เกม ช่วยให้ แมนฯ ยู ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 1 สมัย นอกจากนี้เขายังคว้ารางวัลส่วนตัวทั้ง นักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวและนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ

และหลังจบฤดูกาลนี้สัญญาของเขากับ แมนฯ ยู ก็หมดลง และจากการที่ทีมเพิ่งคว้าตัว รุด ฟาน นิสเตลรอย มาร่วมทีม ทำให้เขาปฏิเสธสัญญา 1 ปีที่ทางสโมสรยื่นให้ และเลือกที่จะย้ายกลับไปเล่นให้ สเปอร์ส อีกครั้ง

 

พอลตำนานผี "เท็ดดี้ เชอริงแฮม"
ติดตามเรื่องราวพอลตำนานผี คลิก

ตลอดเวลา 4 ฤดูกาล

ที่ เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม รับใช้ปีศาจแดง เขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชร์ริตี้ ชิลด์ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และ อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ 1 สมัย

แม้การเข้ามาในฐานะตัวแทนของ เอริค คันโตน่า จะไม่ใช่เรื่องง่าย (ติดตามอ่านเรื่องราวของคันโตน่า คลิก ) แต่ เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ก็ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างดีที่สุดที่เขาจะทำได้แล้ว และแชมป์มากมายที่เข้าได้ระหว่างที่เล่นให้ แมนฯ ยู ก็น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้แล้วว่าเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ผู้ที่กระแทกคำดูถูกของแฟนบอล ด้วยฝีเท้าอันยอดเยี่ยม จนกลายเป็นหนึ่งในตำนานที่แฟนปีศาจแดงไม่มีวันลืมเลือน


สมัครสมาชิกวันนี้ลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิก

ติดตามเรื่องราวพอลตำนานผี คลิก