นิคลาส ฟูลล์ครูก ลงสำรองยิงประตูท้ายเกมช่วยให้ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ตามตีเสมอ “กระทิงดุ” สเปน 1-1 ทำให้ทุกทีมในกลุ่มอี ยังมีลุ้นเข้ารอบในเกมนัดสุดท้าย

โดยในเกมนี้ หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือของทีมชาติสเปนปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อยส่ง ดานี่ การ์บาฆาล ลงตัวจริงแทน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แต่ยังยึดระบบ 4-3-3 ส่วน ฮานซี่ ฟลิค ของ เยอรมนี ปรับแผนมาสู้เล่น 4-3-3 วาง จามาล มูเซียล่า, โธมัส มุลเลอร์ และแซร์ก นาบรี้ เป็นสามแนวรุก

เริ่มเกมครึ่งแรกเพียงแค่ 7 นาที สเปน เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะยิงไกลของ ดานี่ โอลโม่ บอลไปติดเซฟของ มานูเอล นอยเออร์ ที่บินปลายมือบอลเหินไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นนาทีที่ 22 สเปน ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะขึ้นเกมทางซ้าย ฆอร์ดี้ อัลบา รับบอลจาก เซร์คิโอ้ บุสเกสต์ ก่อนจะล็อกเข้าขวาซัดไปที่เสาแรก แต่บอลไม่ตรงกรอบ

รูปเกมทั้งสองทีมพยายามบีบกดดันตั้งแต่แดนบน ช่วงชิงจังหวะการครอบอลในแดนกลาง เป็นทางฝั่งสเปนที่ทำได้ดีกว่ามีโอกาสได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง แต่ยังไม่เข้าเป้า

นาทีที่ 39 เยอรมนี เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะฟรีคิก โยชัว คิมมิช เปิดให้กับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ได้โขกเน้น ๆ เข้าไปไม่เหลือ แต่ถูก VAR จับล้ำหน้า หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้ ทำให้หมดเวลาครึ่งแรก ยังเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 56 เยอรมนี ได้ลุ้นจากจังหวะการบีบแดนบน อิลคาย กุนโดกัน ฉกได้ก่อนจะจ่ายให้กับ โยชัว คิมมิช ได้แปเน้น ๆ แต่บอลยังติดเซฟของ อูไน ซิม่อน

แต่นาทีที่ 62 กลายเป็น สเปน ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางซ้าย ฆอร์ดี้ อัลบา เปิดเรียดให้กับ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ลงมาเป็นสำรองวิ่งฉีกตัวประกบอย่าง นิคลาส ซือเล่ เข้าไปดีดด้วยขวาบอลแสกหน้า มานูเอล นอยเออร์ เข้าไป

นาทีที่ 73 เยอรมนี เกือบได้ประตูตีเสมอ เลรอย ซาเน่ แทงทะลุช่องให้กับ จามาล มูเซียล่า ได้ล่อเป้าโล่ง ๆ แต่ยิงไม่หนีตัวของ อูไน ซิม่อน อีกแล้ว

จากนั้น เยอรมนี ยังบุกหนัก นาทีที่ 83 มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะการขึ้นเกมทางขวา ลูคัส ครอสเตอร์มันน์ ไหลเข้ากลางให้กับ เลรอย ซาเน่ แทงให้กับ จามาล มูเซียล่า บอลกระฉอกไปเข้าทาง นิคลาส ฟูลล์ครูก ที่ลงมาเป็นสำรองสังหารด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมหาจังหวะเข้าทำ เยอรมนี มีโอกาสดีในช่วงทดเจ็บจาก เลรอย ซาเน่ ที่หลุดเดี่ยวขึ้นไปทางซ้ายแต่ไม่ยอมยิงโดนบีบได้แค่เตะมุม จนสุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้เสมอกันไป 1-1

โดย สเปน นำจ่าฝูงของกลุ่มด้วยการมี 4 คะแนน นัดสุดท้ายต้องเจอกับ ญี่ปุ่น ส่วน เยอรมนี มี 1 คะแนน ยังมีลุ้นเข้ารอบจะไปดวลกับ คอสตาริก้า

11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

สเปน (4-3-3): อูไน ซิม่อน, ดานี่ การ์บาฆาล, โรดรี้, อายเมริค ลาปอร์ก, ฆอร์ดี้ อัลบา, กาบี้, เซร์คิโอ้ บุสเกตส์, เปดรี้, มาร์โก อเซนซิโอ้, ดานี่ โอลโม่ และเฟร์นาน ตอร์เรส

เยอรมนี (4-3-3): มานูเอล นอยเออร์, ธีโล เคห์เลอร์, นิคลาส ซือเล่, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เดวิด รอม, อิลคาย กุนโดกัน, โยชัว คิมมิช, เลออน กอเร็ตซ์ก้า, แซร์ก นาบรี้, โธมัส มุลเลอร์ และจามาล มูเซียล่า